ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรม ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบเน้นผลลัพธ์ร่วมกับ Google Classroom เรื่อง การเขียนโปรแกรมแบบทางเลือก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนพัทลุง

1. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

การจัดการเรียนรู้วิชา วิทยาการคำนวณ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยส่วนมากจะเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม เป็นหลักสูตรที่เน้นสร้างนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยเทคโนโลยี ซึ่งแนวทางวิธีการจัดการเรียนการสอนแบบปกติ ยังไม่กระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว ผู้สอนจึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมของนักเรียนในกลุ่มนี้ ด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบเน้นผลลัพธ์ ทั้งยังช่วยส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนกลุ่มนี้ เลือกพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบเน้นผลลัพธ์ ร่วมกับ Google Classroom ในเรื่อง การเขียนโปรแกรมแบบมีทางเลือก ซึ่งเป็นหัวเรื่องที่เริ่มมีความซับซ้อน และพัฒนาบทเรียน Google Classroom เป็นสื่อหลักในการจัดการเรียนรู้ เนื่องจากมีความเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาและสภาพแวดล้อมในห้องเรียน อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นสื่อในการทบทวนบทเรียนของนักเรียนได้อีกด้วย

2. วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบเน้นผลลัพธ์ ร่วมกับ Google Classroom ในการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาการคำนวณ 2

3. ขอบเขตของการวิจัย

3.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

ประชากร คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ได้แก่ ม.2.7 - ม.2.13 จำนวน 234 คน

กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ได้แก่ ม.2.9 ม.2.10 และ ม.2.12 จำนวน 95 คน

3.2 ตัวแปรต้นและตัวแปรตาม

ตัวแปรต้น คือ การจัดการเรียนรู้แบบเน้นผลลัพธ์ ร่วมกับ Google Classroom

ตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ของการจัดการเรียนรู้วิชา วิทยาการคำนวณ 2

3.3 เนื้อหา/รายวิชาที่นักเรียนต้องได้รับการแก้ไข

วิชา วิทยาการคำนวณ 2 รหัสวิชา ว22103

สาระที่ 4 เทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม

ตัวชี้วัด

ว 4.2 ม.2/1 ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหา หรือการทำงานที่พบในชีวิตจริง

ว 4.2 ม.2/2 ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใช้ตรรกะ และฟังก์ชันในการแก้ปัญหา

3.4 ระยะเวลาที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567

4. นวัตกรรมที่นำมาใช้แก้ปัญหา/พัฒนาผู้เรียน

การจัดการเรียนรู้แบบเน้นผลลัพธ์ ร่วมกับ Google Classroom

5. วิธีดำเนินการวิจัย

5.1 เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้

- การจัดการเรียนรู้แบบเน้นผลลัพธ์ ร่วมกับ Google Classroom

- แผนการดำเนินการวิจัย

มิ.ย. 67 คิดหัวข้องานวิจัย สาเหตุ ความสำคัญ และกำหนดวัตถุประสงค์การวิจัย

สืบค้นข้อมูลงานวิจัยและเอกสารที่เกี่ยวข้อง

วางแผนวิธีการดำเนินการวิจัย เครื่องมือวิจัย และวิธีวิเคราะห์ผล

ก.ค. 67 สุ่มกลุ่มตัวอย่าง

ส.ค. - ก.ย. 67 เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง

ก.ย. 67 วิเคราะห์ผล สรุปผล และอภิปรายผล

5.3 เครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูล

ใบงาน และแบบทดสอบ โดยใช้ Google Form

5.4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

สถิติบรรยาย (Descriptive Statistic) เพื่อหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

6. สรุปผลการวิจัย

กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 95 คน เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2.9 จำนวน 29 คน คิดเป็นร้อยละ 30.53 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2.10 จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 31.58 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2.12 จำนวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 37.89 เป็นเพศชาย จำนวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 56.84 และเพศหญิง จำนวน 41 คน คิดเป็นร้อยละ 43.16

สรุปผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาวิทยาการคำนวณ 2

ยอดเยี่ยม (3.51 - 4.00) จำนวน 59 คน ร้อยละ 25.21

ดีมาก (3.01 - 3.50) จำนวน 16 คน ร้อยละ 6.84

ดี (2.51 - 3.00) จำนวน 19 คน ร้อยละ 8.12

พอใช้ 2.01 - 2.50 จำนวน 1 คน ร้อยละ 0.43

ปรับปรุง 0.00 - 2.00 จำนวน 0 คน ร้อยละ 0

ผลการเรียนเฉลี่ยของนักเรียนอยู่ในระดับผลสัมฤทธิ์ยอดเยี่ยม มีจำนวนมากที่สุด จำนวน 59 คน คิดเป็นร้อยละ 25.21 รองลงมาคือ ระดับดี จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 8.12

7. อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ

7.1 อภิปรายผล

ผลของการจัดการเรียนรู้แบบเน้นผลลัพธ์ ร่วมกับ Google Classroom สามารถพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมแบบทางเลือก ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา วิทยาการคำนวณ 2 อยู่ในระดับยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 25.21 ทำให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้แบบเน้นผลลัพธ์ ร่วมกับ Google Classroom ช่วยให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับงานวิจัยของนายวิวัฒน์ ทัศวา (2563) ได้ศึกษาเรื่อง การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลจริยธรรมทางดิจิทัลของนักเรียน มัธยมศึกษาตอนต้นโดยใช้แนวคิดการศึกษาแบบเน้นผลลัพธ์และการเรียนรู้แบบกรณีศึกษาเป็นฐาน ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้ไปรแกรมส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลจริยธรรมทางดิจิทัลตามแนวคิดการศึกษาแบบเน้นผลลัทธ์และการเรียนรู้แบบกรมีศึกษาเป็นฐาน มีความ

สามารถในการให้เหตุผลจริยธรรมทางดิจิทัลหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สอดคล้องกับงานวิจัยของสุดารัตน์ บุตรจริยะ (2563) ได้ศึกษาเรื่อง อิทธิพลของการจัดการศึกษาแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์ต่อสมรรถนะของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาการบัญชี กรณีสถาบันอาชีวศึกษาในจังหวัดสงขลา ผลการวิจัยพบว่า การจัดการศึกษาแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์ด้านการวัดและประเมินผลด้านครูผู้สอน และด้านการสนับสนุนการเรียนรู้ ส่งผลทางบวกต่อสมรรถนะของนักศึกษาด้านความรู้ความ

สามารถเชิงเทคนิค การจัดการศึกษาแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์ด้านการวัดและประเมินผล และด้านการสนับสนุนการเรียนรู้ ส่งผลทางบวกต่อสมรรถนะของนักศึกษาด้านทักษะวิชาชีพ การจัดการศึกษาแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์ด้านหลักสูตร ด้านการวัดและประเมินผล และด้านการสนับสนุนการเรียนรู้ส่งผลทางบวกต่อสมรรถนะของนักศึกษาด้านค่านิยม จรรยาบรรณ และทัศนคติทางวิชาชีพ การจัดการศึกษาแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์ด้านหลักสูตรส่งผลทางบวกต่อผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา และในขณะที่การฝึกประสบการณ์ทางวิชาชีพส่งผลทางบวกต่อผลการเรียนเฉลี่ย และสอดคล้องกับงานวิจัยของจักรพันธุ์ มีอาษา ศักดิ์สิทธิ์ ปนคำ พิเชษฐ์ พินิจ อนุศิษฏ์ อันมานะตระกูล และสุจินต์ จิระชีวะนันท์ (2565) ได้ศึกษาเรื่อง ผลของความเชื่อมโยงเชิงโครงสร้างและการประเมินตามรูปแบบของการศึกษาที่มุ่งเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้เป็นสำคัญที่มีต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน: กรณีศึกษาในรายวิชาการปฏิบัติงานทางด้านยานยนต์ ผลการวิจัยพบว่า ด้านการเรียนรู้ ด้วยการชี้นำตนเอง การตอบสนองและมีส่วนร่วม ผู้เรียนทั้งหมด 23 คน สามารถบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวังไว้ แรงจูงใจใน การเรียนเกิดจากผู้สอนอธิบายให้ผู้เรียนเห็นถึงภาพรวมของการเรียนการสอนทั้งหมด ผู้เรียนรับทราบเกณฑ์การประเมินท าให้ ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นสนใจการเรียนมากยิ่งขึ้น ด้านการอธิบายหลักการท างานทางเทคโนโลยียานยนต์ และการปฏิบัติงาน ทางเทคโนโลยียานยนต์ มีผู้เรียนที่ไม่สามารถบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวัง จำนวน 11 คน คิดเป็น 47.8% และจำนวน 7 คน คิดเป็น 30.45% ด้านการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นทางเทคโนโลยียานยนต์ มีผู้เรียนที่ไม่สามารถบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวัง จำนวน 9 คน คิดเป็น 39.13% เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องระดับความสามารถในการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ไม่เท่ากัน กรอบเวลาการจัดการเรียนการสอน ข้อจำกัดในการใช้เครื่องมือประเมินเป็นครั้งแรก ทำให้ผู้เรียนบางส่วนไม่สามารถบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวังได้ ข้อมูลที่ได้จากงานวิจัยนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้วิจัยต้องปรับปรุงและพัฒนาต่อไปในอนาคต

การวิจัยครั้งนี้ทำให้ทราบว่า การศึกษาที่เน้นผลลัพธ์ช่วยยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน เตรียมนักเรียนให้พร้อมในการเรียนรู้ นักเรียนทุกคนมีความยืดหยุ่นและอิสระในการเรียนรู้ในแบบของตน ช่วยให้นักเรียนบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ ช่วยเตรียมนักเรียนสำหรับการจ้างงานในอนาคต และทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ ออกแบบการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับบริบท จะช่วยเสริมให้ประสิทธิภาพการเรียนการสอนดียิ่งขึ้น

7.2 ข้อเสนอแนะ

- นำ Google Classroom มาเป็นโปรแกรมเสริมช่วยในการทบทวนหรือติวเสริม

- อาจไม่เหมาะสมในการนำมาใช้เป็นโปรแกรมหลักในการเรียนการสอน เพราะมีข้อจำกัดเรื่อง ความเสถียรของสัญญาณอินเทอร์เน็ต และการเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต อาจทำให้นักเรียนบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงได้ตลอดช่วงเวลาที่ทบทวนบทเรียน

8. เอกสารอ้างอิง

วิวัฒน์ ทัศวา. (2563). การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมความสามารถในการให้เหตุผลจริยธรรมทางดิจิทัล

ของนักเรียน มัธยมศึกษาตอนต้นโดยใช้แนวคิดการศึกษาแบบเน้นผลลัพธ์และการเรียนรู้แบบ

กรณีศึกษาเป็นฐาน. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน

ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุดารัตน์ บุตรจริยะ. (2563). อิทธิพลของการจัดการศึกษาแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์ต่อสมรรถนะของนักศึกษา

ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาการบัญชี กรณีสถาบันอาชีวศึกษาในจังหวัดสงขลา.

วิทยานิพนธ์ปริญญาบัญชีมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

จักรพันธุ์ มีอาษา และคณะ. (2565). ผลของความเชื่อมโยงเชิงโครงสร้างและการประเมินตามรูปแบบ

ของการศึกษาที่มุ่งเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้เป็นสำคัญที่มีต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน:

กรณีศึกษาในรายวิชาการปฏิบัติงานทางด้านยานยนต์. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม.

21(2): 54 - 65.

สมชาย เทพแสง,กันต์ฐมณีญา นฤโฆษกิตติกีรติ และอัจฉริยา เทพแสง. (2566). การศึกษาที่เน้นผลลัพธ์

Outcome-based Education(OBE): กุญแจสำคัญในการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นนักเรียนเป็นหลัก.

วารสารสหวิทยาการวิจัยและนวัตกรรมการศึกษา. 2(1): 39 - 52.

โพสต์โดย kpreeyachat : [26 เม.ย. 2568 (11:08 น.)]
อ่าน [58306] ไอพี : 118.172.53.229
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,761 ครั้ง
O-net ย่ำแย่ แก้ที่ใคร คลิปแนะครูไทย เปลี่ยนวิธีสอนเด็กแบบ ท่อง-จำ
O-net ย่ำแย่ แก้ที่ใคร คลิปแนะครูไทย เปลี่ยนวิธีสอนเด็กแบบ ท่อง-จำ

เปิดอ่าน 47,622 ครั้ง
วิธีแก้ the dependency service or group failed to start ใน Win7
วิธีแก้ the dependency service or group failed to start ใน Win7

เปิดอ่าน 12,703 ครั้ง
มาป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันเถอะ
มาป้องกันและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันเถอะ

เปิดอ่าน 38,274 ครั้ง
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน

เปิดอ่าน 40,387 ครั้ง
ชื่นชม เด็กสระแก้ว สร้างชื่อเสียง คว้ารางวัลชนะเลิศคัดลายมือระดับประเทศ
ชื่นชม เด็กสระแก้ว สร้างชื่อเสียง คว้ารางวัลชนะเลิศคัดลายมือระดับประเทศ

เปิดอ่าน 25,965 ครั้ง
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน
ครู-คนสอนคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์สอนคน

เปิดอ่าน 110,224 ครั้ง
วิธีซักผ้าที่มีรอยเปื้อนชนิดต่าง ๆ
วิธีซักผ้าที่มีรอยเปื้อนชนิดต่าง ๆ

เปิดอ่าน 16,179 ครั้ง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง

เปิดอ่าน 22,370 ครั้ง
การวัดความเร็วและทิศทางของลม
การวัดความเร็วและทิศทางของลม

เปิดอ่าน 7,501 ครั้ง
การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?
การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?

เปิดอ่าน 60,937 ครั้ง
เกณฑ์คุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561
เกณฑ์คุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561

เปิดอ่าน 44,217 ครั้ง
นวดศีรษะและต้นคอก่อให้เกิดอันตรายจริงหรือ?
นวดศีรษะและต้นคอก่อให้เกิดอันตรายจริงหรือ?

เปิดอ่าน 12,986 ครั้ง
ส้มป่อย สุดยอดผักเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ส้มป่อย สุดยอดผักเพิ่มภูมิคุ้มกัน

เปิดอ่าน 11,321 ครั้ง
Meritocracy กับการศึกษาสิงคโปร์  มูลค่าของความสามารถ
Meritocracy กับการศึกษาสิงคโปร์ มูลค่าของความสามารถ

เปิดอ่าน 2,332 ครั้ง
10 ทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้นำ
10 ทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้นำ

เปิดอ่าน 18,338 ครั้ง
ครูยุคใหม่ แค่มีจิตวิญญาณครู-ไม่พอ
ครูยุคใหม่ แค่มีจิตวิญญาณครู-ไม่พอ
เปิดอ่าน 9,671 ครั้ง
การปฏิรูปการศึกษาอย่าทำแบบปะผุ...ต้องปรับทั้งระบบ
การปฏิรูปการศึกษาอย่าทำแบบปะผุ...ต้องปรับทั้งระบบ
เปิดอ่าน 22,592 ครั้ง
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545
เปิดอ่าน 10,062 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 80 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning ทางรอดของการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
จดหมายฉบับที่ 80 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง Active Learning ทางรอดของการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21
เปิดอ่าน 30,468 ครั้ง
บทบาทของสื่อมัลติมีเดีย
บทบาทของสื่อมัลติมีเดีย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ