แบบอย่างที่ดี (Best Practice)
โรงเรียนบ้านบุฉนวน สพป.ชัยภูมิ เขต ๓
๑. ชื่อผลงานที่เป็นแบบอย่างที่ดี
Big Book คู่คิด พิชิตการอ่านเขียน ป.๑
๒. วัตถุประสงค์
๒.๑ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้น ป.๑
๒.๒ เพื่อสร้างและพัฒนาสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับวัยและความสนใจของผู้เรียน
๒.๓ เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ในการสอนภาษาไทย
๓. กระบวนการดำเนินงาน
ปฏิบัติครบวงจรโดยประยุกต์ใช้วงจรเดมมิ่ง (Deming Cycle) ภายใต้กระบวนการ PDCA ดังต่อนี้
ขั้นที่ ๑ Plan (ขั้นวางแผน)
ในขั้นเตรียมการนี้ เราจะมุ่งเน้นการวิเคราะห์และวางแผนอย่างรอบด้าน เพื่อให้โครงการมีทิศทางที่ชัดเจนและเป้าหมายที่บรรลุได้จริง โดยใช้เทคนิค SWOT Analysis
SWOT Analysis (การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม)
จุดแข็ง (Strengths):
- มีข้อมูลผลการเรียนรู้ภาษาไทยของปีการศึกษาที่ผ่านมา
- มีข้อมูลความต้องการของครูผู้สอน
- มีแนวทางในการวิเคราะห์หลักสูตรและเนื้อหาที่ชัดเจน
จุดอ่อน (Weaknesses):
- ความสามารถด้านการอ่านและการเขียนของนักเรียนก่อนเรียนอาจต่ำ
- การจัดเตรียมงบประมาณและวัสดุอุปกรณ์ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ
โอกาส (Opportunities):
- สามารถจัดทำสื่อการสอน (หนังสือเล่มใหญ่) ที่ตรงกับความต้องการของนักเรียน
- การพัฒนาศักยภาพครูจะนำไปสู่การจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อุปสรรค (Threats):
นักเรียนอาจมีพื้นฐานการอ่านและการเขียนที่แตกต่างกันมาก
การเปลี่ยนแปลงหรือข้อจำกัดด้านงบประมาณและทรัพยากร
แผนการดำเนินงาน
วิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการ
- ประเมินความสามารถด้านการอ่านและการเขียนของนักเรียนก่อนเรียนอย่างละเอียด
- สำรวจความต้องการของครูผู้สอนเกี่ยวกับสื่อการสอนและการพัฒนาตนเอง
- วิเคราะห์ผลการเรียนรู้วิชาภาษาไทยในปีการศึกษาที่ผ่านมาเพื่อระบุจุดที่ต้องปรับปรุง
ศึกษาหลักสูตรและเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยอย่างลึกซึ้ง
- วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดชั้น ป.1 เพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อหาสอดคล้อง
- กำหนดเนื้อหาและทักษะที่จำเป็นสำหรับนักเรียนโดยเน้นคำพื้นฐานและประโยคที่ใช้บ่อย
จัดเตรียมทรัพยากร
- จัดทำโครงการและของบประมาณที่ชัดเจนและมีเหตุผล
- จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับผลิตหนังสือเล่มใหญ่ให้พร้อมและเพียงพอ
- จัดเตรียมสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมกับการจัดการเรียนการสอนและกิจกรรม
ขั้นที่ ๒ Do (การปฎิบัติ)
ในขั้นตอนนี้ เราจะเริ่มดำเนินการตามแผนที่วางไว้ ทั้งการจัดทำสื่อ การพัฒนาครู และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
๑. การจัดทำหนังสือฝึกอ่านเล่มใหญ่
- ออกแบบและวางแผนเนื้อหาของหนังสือแต่ละเล่มอย่างละเอียด โดยพิจารณาลำดับความยากง่าย
- คัดเลือกคำพื้นฐานและประโยคที่เหมาะสมกับระดับชั้นและช่วงวัยของนักเรียน
- จัดทำภาพประกอบที่สวยงาม สื่อความหมาย และดึงดูดความสนใจของนักเรียน
- ผลิตหนังสือเล่มใหญ่ตามแบบที่กำหนด โดยเน้นคุณภาพและความคงทน
๒. ทดลองใช้และปรับปรุงแก้ไข
- นำหนังสือที่ผลิตได้ไปทดลองใช้กับนักเรียนกลุ่มเล็กๆ และเก็บข้อมูลเพื่อปรับปรุงก่อนใช้งานจริง
๓. การพัฒนาศักยภาพครู
- จัดอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้หนังสือเล่มใหญ่ โดยเน้นเทคนิคและวิธีการสอนที่หลากหลาย
- อบรมเทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วม
- สาธิตการสอนและจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครู เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และเทคนิค
- จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ร่วมกัน โดยบูรณาการการใช้หนังสือเล่มใหญ่และเทคนิค Active Learning
๔. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (10 นาที)
- ทบทวนความรู้เดิมด้วยเกมหรือเพลงที่สนุกสนาน
- กระตุ้นความสนใจด้วยคำถามหรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
ขั้นสอน (40 นาที)
- นำเสนอหนังสือเล่มใหญ่ให้แก่นักเรียนอย่างน่าสนใจ
- ครูสาธิตการอ่านออกเสียงที่ถูกต้องและชัดเจน
- นักเรียนอ่านพร้อมกันทั้งชั้นเพื่อสร้างความมั่นใจ
- นักเรียนอ่านเป็นกลุ่มและรายบุคคล เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเป็นรายบุคคล
- ทำกิจกรรม Active Learning เช่น บทบาทสมมติ, เกมการศึกษา, กิจกรรมกลุ่ม, การเขียนตามคำบอก
ขั้นสรุป (10 นาที)
- ทบทวนคำและประโยคที่เรียนด้วยกิจกรรมสั้นๆ หรือคำถาม
- ประเมินความเข้าใจด้วยกิจกรรมสั้นๆ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจเบื้องต้น
๕.การนิเทศติดตาม
- นิเทศการสอนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อให้คำแนะนำและช่วยเหลือ
- ประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทุกสัปดาห์ เพื่อติดตามความก้าวหน้าและแก้ไขปัญหา
- บันทึกปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาและปรับปรุงในอนาคต
ขั้นที่ ๓ Check (การตรวจสอบประเมินผล)
๑. การประเมินระหว่างดำเนินการ
- ประเมินพัฒนาการด้านการอ่านและการเขียนของนักเรียนทุกสัปดาห์ ด้วยแบบฝึกหัดสั้นๆ หรือการสังเกต
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนในชั้นเรียน เพื่อดูการมีส่วนร่วมและความเข้าใจ
- ประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนต่อการใช้หนังสือเล่มใหญ่และกิจกรรมการเรียนรู้
๒. การประเมินผลสรุป
- ทดสอบทักษะการอ่านและการเขียนหลังเรียน เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
- ประเมินความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง เช่น ครูผู้สอน ผู้บริหาร และผู้ปกครอง
- วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้งหมด (ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ) และสรุปผลการดำเนินงาน
ขั้นที่ ๔ Act (การปรับปรุงพัฒนา)
๑. การรายงานผล
- จัดทำรายงานผลการดำเนินงานอย่างละเอียดและเป็นระบบ
- นำเสนอผลงานแก่ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้เห็นถึงความสำเร็จและข้อเสนอแนะ
- เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ เพื่อเป็นแนวทางและประโยชน์แก่โรงเรียนอื่นๆ
๒. การนำผลการประเมินไปใช้
ทบทวนแผน: นำผลการประเมินมาทบทวนแผนการดำเนินงานในทุกขั้นตอน
ปรับปรุง: ปรับปรุงเนื้อหาหนังสือเล่มใหญ่ เทคนิคการสอน กิจกรรม และกระบวนการนิเทศติดตาม โดยอิงจากข้อมูลและข้อเสนอแนะที่ได้รับ
ต่อยอด: วางแผนสำหรับการดำเนินงานในระยะต่อไป หรือขยายผลสู่กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ หากประสบความสำเร็จ
๓. กำหนดแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศ
สรุปบทเรียนที่ได้และจัดทำเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practice) สำหรับการพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
๔. การประเมินผล
จากการพัฒนาวิธีปฏิบัติแบบอย่างที่ดี (Best Practice) โดยการประยุกต์ใช้วงจรเดมมิ่ง (Deming Cycle) ภายใต้กระบวนการ PDCA นั้นมีการประเมินด้านความสำเร็จ ความต่อเนื่อง และความพึงพอใจ จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง คือ ผู้บริหารโรงเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และนักเรียน พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความพึงพอใจวิธีปฏิบัติแบบอย่างที่ดี (Best Practice) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านความสำเร็จ และด้านความต่อเนื่อง ตามลำดับ นอกจากนี้จากการประเมินโครงการตามแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา พบว่า โดยรวมเฉลี่ยทุกด้านอยู่ในระดับ มากที่สุด
๕. ผลการดำเนินงานที่ส่งผลที่ดีต่อผู้เรียน
๕.๑ นักเรียนมีผลการประเมินการอ่านและการเขียนผ่านเกณฑ์
๕.๒ นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนมากขึ้นนักเรียนสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี
๕.๓ นักเรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาเพิ่มขึ้น