โรงเรียนห้วยทับทันวิทยาคม ขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) โดยการเปิดเป็นรายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต โดยใช้รูปแบบ STAR - T Model ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เกิดจากแรงบันดาลใจและความต้องการที่จะพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้บรรลุตามผลการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ของหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) เกิดคุณลักษณะ 5 ประการและปฏิญญาของโรงเรียนสุจริต โดยมุ่งเน้นให้นักเรียน มีทักษะการคิด ทำงานเป็นกลุ่ม เป็นผู้นำ และเป็นผู้ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นด้วยเหตุและผล สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และเป้าหมายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งหวังพัฒนาผู้เรียนให้เป็น คนดี คนเก่ง และมีความสุขเป็นผู้ที่มีความสามารถคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ก้าวไกลสู่สากล มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย อยู่อย่างพอเพียง มีจิตสาธารณะ ผ่านกระบวนการคิด สามารถในการคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม มีความละอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ รู้จักความพอดี และเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งสอดคล้องกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โรงเรียนนั้นได้ตั้งเป้าหมาย คุณภาพผู้เรียนจากการใช้หลักสูตรด้านทุจริตศึกษาให้สอดคล้องกับเป้าหมายของ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติและมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติที่ต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตลอดชีวิต ได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ ผู้เรียนดี เก่ง มีสุข โรงเรียนห้วยทับทันวิทยาคมนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) มาใช้ในระดับชั้นเรียน โดยเปิดเป็นรายวิชาเพิ่มเติมเปิดสอนทุกระดับชั้นตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ดังกล่าว มุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ ความหมายและขอบเขตของการกระทำทุจริต ในลักษณะต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมความเสียหายที่เกิดจากการทุจริต ความสำคัญของการต่อต้านการทุจริต ความสามารถในการคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม มีความละอายและไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ
รู้จักความพอดี และเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งจัดให้มีการประเมินผสสัมฤทธิ์ของการจัด การเรียนรู้ตามหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) โดยในการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาใช้รูปแบบ STAR-T Model เป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ซึ่งดําเนินงานตามวงจรคุณภาพ PDCA 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน (P : Plan) การปฏิบัติตามแผน (D : Do) การตรวจสอบผลจากการปฏิบัติ (C : Check) และการปรับปรุง (A : Act) เพื่อให้ได้หลักสูตรที่สมบูรณ์มีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการขับเคลื่อนและพัฒนาหลักสูตร ประกอบด้วยขั้นตอนที่สําคัญ 4 ขั้นตอน ดังนี้คือ
ขั้นตอนที่ 1 การวางแผน (P : Plan)
S = Synergize : การสร้างพลังร่วม
1. สื่อสาร ทำความเข้าใจและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างครู ผู้ปกครอง ผู้เรียน และชุมชน ในการนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) มาเปิดสอนในระดับชั้นเรียนเพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงความสำคัญของหลักสูตร
2. วิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับโรงเรียน เช่น สภาพปัญหา จุดเน้น ความต้องการของ
สถานศึกษา นโยบายการปฏิรูปการศึกษา
3. สํารวจความต้องการจากผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
4. พัฒนาและส่งเสริมครูผู้สอนให้มีความรู้ ความสามารถให้สอดคล้องกับรายวิชาและหลักสูตร เช่น อบรมหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาสำหรับบุคลากรภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ในระบบแพลตฟอร์มการเรียนรู้ต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education Platform) ของสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เป็นต้น
T = Tailor : การปรับให้เหมาะสม
1. แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตร ดังนี้
1) คําสั่งโรงเรียนห้วยทับทันวิทยาคม ที่
2) คําสั่งสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร
2. ประชุมคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตร เพื่อกำหนดแนวทางและวิธีการในการนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) ลงสู่ระดับชั้นเรียน กำหนดรายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต
ในโครงสร้างหลักสูตร โครงสร้างเวลาเรียน กําหนดรหัสวิชา ชื่อวิชา หน่วยกิต คําอธิบายรายวิชา ผลการเรียนรู้ตลอดจนเกณฑ์การวัดประเมินผล
3. วิเคราะห์หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) แผนการจัดการเรียนรู้ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อปรับให้เหมาะกับผู้เรียนในแต่ละบริบท
4. นําหลักสูตรสถานศึกษาที่ปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว เสนอต่อคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อ
ขออนุมัติ จากนั้นจึงประกาศใช้หลักสูตร
ขั้นตอนที่ 2 การปฏิบัติตามแผน (D : Do)
A = Act : การนําหลักสูตรไปใช้
นําหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education) ไปใช้ในระดับชั้นเรียน โดยเน้นการเรียนรู้แบบ Active Learning จัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการกับกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ และใช้เครื่องมือที่ส่งเสริมการเรียนรู้ เช่น แพลตฟอร์มการเรียนรู้ต้านทุจริตศึกษา (Anti-Corruption Education Platform) ของสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ขั้นตอนที่ 3 การตรวจสอบผลจากการปฏิบัติ (C : Check)
R = Reflect : ประเมินและสะท้อนผล
1. นิเทศ กํากับ ติดตาม ประเมินผลการใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษาในระดับชั้นเรียน
2. สํารวจความพึงพอใจของครู นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องต่อการใช้หลักสูตร และรายงานผลการใช้หลักสูตร เพื่อนําผลมาเป็นข้อมูลในการพัฒนาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาอย่างต่อเนื่อง
ขั้นตอนที่ 4 การปรับปรุง (A : Act)
T = Transform : การเปลี่ยนแปลงปรับปรุง แก้ไข หลักสูตร
1. วัดผลและประเมินผลคุณภาพผู้เรียน เพื่อตัดสินผลการเรียนแล้วนํามาเปรียบเทียบกับค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ตามแผนปฏิบัติการ
2. นําข้อมูลที่ได้จากผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ความพึงพอใจต่อการใช้หลักสูตรสถานศึกษา คุณภาพของผู้เรียน นํามาวิเคราะห์และปรับปรุง แก้ไข หลักสูตรต่อไป