การใช้ศิลปะสร้างสรรค์เป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างสุขภาวะทางใจของเด็กปฐมวัย (Project CARE)
ช่วงปฐมวัยเป็นช่วงเวลาทองของการพัฒนาทางอารมณ์และจิตใจ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวของเด็ก ความสามารถในการรับรู้ เข้าใจ และจัดการอารมณ์ของตนเอง รวมถึงการแสดงออกทางสังคมอย่างเหมาะสม ล้วนเป็นรากฐานสำคัญของพฤติกรรมทางบวก การเข้าสังคม และความมั่นคงทางจิตใจในอนาคต อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจในบริบทของสังคมไทยพบว่าเด็กจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาทางารมณ์ เช่น การควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ความเครียด ความก้าวร้าว หรือการขาดทักษะในการแสดงออกเชิงบวกซึ่งปัญหาเหล่านี้มักสะท้อนผ่านพฤติกรรมในห้องเรียนและความสัมพันธ์กับผู้อื่นในขณะเดียวกันแนวทางการส่งเสริมสุขภาวะทางอารมณ์ในระดับปฐมวัยยังคงเน้นเชิงวิชาการหรือกิจกรรมซ้ำรูปแบบ ซึ่งอาจไม่ตอบสนองต่อธรรมชาติของเด็กที่เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง การเล่น และการแสดงออกอย่างอิสระ ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาเครื่องมือหรือกิจกรรมทางเลือกที่สอดคล้องกับพัฒนาการเด็กและสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
Project CARE (Creative Art for Resilience and Emotion) จึงถูกออกแบบขึ้นมาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ เป็นเครื่องมือกลางในการส่งเสริมสุขภาวะทางอารมณ์ของเด็กปฐมวัย โดยกิจกรรมจะเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการวาดภาพ การปั้น การเล่นสี การสร้างสรรค์เรื่องราว ตลอดจนการสะท้อนความรู้สึกของตนเองผ่านศิลปะ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทั้งปลอดภัย สร้างสรรค์ และส่งผลเชิงบวกต่อความมั่นคงทางอารมณ์
จากบทความข้างต้นที่กล่าวมา ข้าพเจ้าจึงเกิดแนวคิดในการประยุกต์ใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ในการพัฒนาสุขภาวะทางใจของเด็กปฐมวัย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อครู ผู้ปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้องในการดูแลเด็กในระยะปฐมวัย
วัตถุประสงค์
1.เพื่อออกแบบกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ที่เหมาะสมสำหรับการส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็กปฐมวัย
2.เพื่อศึกษาผลของกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ตามแนวทาง Project CARE สุขภาวะทางใจของเด็กปฐมวัย
3.เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
สรุปผลการจัดกิจกรรมศิลปะเพื่อพัฒนาทางด้านอารมณ์ในเด็ก
ปฐมวัย โดยใช้แนวทางศิลปะสร้างสรรค์ตามแนว Project CARE จัดกิจกรรม 5 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 20 ครั้ง สำหรับนักเรียนจำนวน 23 คน โดยมีผลการดำเนินงานประสบความสำเร็จมากกว่า ร้อยละ 80 และมีผลโดยตรงต่อการเสริมสร้างสุขภาวะทางใจของเด็กปฐมวัย
1. เด็กสามารถสื่อสารอารมณ์ของตนเองผ่านงานศิลปะได้ชัดเจน จากการจัดกิจกรรมหลากหลาย เช่น การวาดภาพจากอารมณ์ การปั้นแสดงความรู้สึก เด็กส่วนใหญ่สามารถบอกอารมณ์ของตนเองด้วยสี รูปทรง และภาพ ได้อย่างเข้าใจและเหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 91.3
2. ระดับความสุขและความผ่อนคลายของเด็กเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เด็กมีท่าทีร่าเริง ผ่อนคลาย และมีความสุขในขณะทำกิจกรรมศิลปะ ซึ่งส่งผลต่อการเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และลดพฤติกรรมทางลบ เช่น การร้องไห้หรือแสดงความรุนแรง คิดเป็นร้อยละ 95.7
3. ทักษะการควบคุมอารมณ์ของเด็กดีขึ้นตามลำดับ จากการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เด็กสามารถจัดการกับความรู้สึกไม่พึงประสงค์ได้ดีขึ้น เช่น ความโกรธ ความหงุดหงิด โดยเลือกใช้การวาดระบาย การระบายสี หรือการเล่าเรื่องผ่านภาพแทนการแสดงออกทางร่างกายที่รุนแรง คิดเป็นร้อยละ 89.6
4. เด็กมีความมั่นใจในตนเองและกล้าแสดงออกมากขึ้น เด็กกล้าอธิบายผลงานของตนเอง แสดงออกทางอารมณ์อย่างเปิดเผย และมีความภูมิใจในสิ่งที่ตนสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในกิจกรรมการจัดนิทรรศการผลงานท้ายโครงการนำเสนอผลงานของตนเองได้อย่างมั่นใจ คิดเป็นร้อยละ 91.3
5. กิจกรรมศิลปะช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือและการเอื้อเฟื้อ เด็กเริ่มมีพฤติกรรมแบ่งปัน ช่วยเหลือ และให้กำลังใจเพื่อนร่วมกิจกรรม ทำให้เกิดความสัมพันธ์เชิงบวกในห้องเรียน เป็นรากฐานของสุขภาวะทางใจที่มั่นคงในระยะยาว
6. สุขภาวะทางใจของเด็กได้รับการส่งเสริมอย่างยั่งยืน เด็กมีจิตใจที่สงบ ความเครียดลดลง และมีความสมดุลทางอารมณ์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสะท้อนผ่านความพร้อมในการเรียนรู้ การแสดงออก และการมีปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวันทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน ผู้ปกครองส่วนใหญ่ให้ข้อมูลว่าสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางบวกหลังจากเด็กได้เข้าร่วมกิจกรรม