ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำ และสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นางสาวสุรกาญจน์ โปฏกรัตน์
หน่วยงาน โรงเรียนอนุบาลศรีบรรพต อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1
ปีการศึกษา 2567
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ดังนี้ (2.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (2.2) เปรียบเทียบทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (2.3) เปรียบเทียบทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ (2.4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ เป็นเนื้อหาสาระในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลศรีบรรพต ปีการศึกษา 2567 จำนวน 29 คน ตัวแปรต้น (Independent Variable) คือ รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตัวแปรตาม (Dependent Variables) ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และความพึงพอใจของนักเรียนต่อการใช้รูปแบบรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) คู่มือการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบวัดทักษะการแก้ปัญหา 5) แบบวัดทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาประสิทธิภาพ (E1/E2) ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 87.68/85.12 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลการศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า
2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัด การเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียน (x̄= 25.69 SD = 1.47) สูงกว่าก่อนเรียน (x̄ = 12.34 SD = 2.45) โดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยภาพรวมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนร้อยละ 44.50
2.2 ทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียน (x̄ = 16.97 SD = 1.42) สูงกว่าก่อนเรียน (x̄ = 9.41 SD = 2.15) โดยมีทักษะการแก้ปัญหาหลังเรียนโดยภาพรวมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนร้อยละ 37.67
2.3 ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียน (x̄ = 16.93 SD = 1.31) สูงกว่าก่อนเรียน (x̄ = 9.07 SD = 1.77) โดยมีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณโดยภาพรวมหลังเรียนสูงก่อนเรียนร้อยละ 39.30
2.4 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และ สิ่งแวดล้อมเป็นฐาน (Situation based STSE) เรื่อง น้ำและสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.63 SD = 0.54)