การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาด้วย P-D-SUKHS Model ในการเสริมสร้างสมรรถนะครู
ด้านการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการเรียนดี มีความสุขของนักเรียนโรงเรียนกะทู้วิทยา
THE DEVELOPMENT OF A SCHOOL ADMINISTRATION Model WITH P-D-SUKHS Model TO ENHANCE TEACHER COMPETENCIES IN LEARNING MANAGEMENT TO DEVELOP GOOD LEARNING WITH HAPPINESS AMONG STUDENTS AT KATHUWITTAYA SCHOOL
สนิท รอดเซ็น
ผู้อำนวยการโรงเรียนกะทู้วิทยา, สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพังงา ภูเก็ต ระนอง
บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาด้วย P-D-SUKHS Model ในการเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนดี มีความสุขของนักเรียนโรงเรียนกะทู้วิทยา มีวัตถุประสงค์การวิจัย 4 ข้อ คือ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็น 2) สร้าง และพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษา 3) ทดลอง และใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษา 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษา เป็นการวิจัยและพัฒนา 2 ปีการศึกษา ดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา 6 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็น ขั้นตอนที่ 2 สร้าง และพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษา ขั้นตอนที่ 3 และขั้นตอนที่ 5 ทดลอง และใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษา ในปีการศึกษา 2566 และ 2567 ตามลำดับ ขั้นตอนที่ 4 และขั้นตอนที่ 6 ประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาใน
ปีการศึกษา 2566 และ 2567 ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนกะทู้วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพังงา ภูเก็ต ระนอง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามความคิดเห็น แบบประเมินความพึงพอใจ แบบเก็บข้อมูลคุณภาพผู้เรียนจากรายงานการประเมินตนเอง แบบทดสอบความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของครู และแบบประเมินสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ของครู สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น
สรุปผลการวิจัย
1. สภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของการพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาในการเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนดี มีความสุขของนักเรียนโรงเรียนกะทู้วิทยา พบว่า ปัจจุบันครูยังออกแบบการเรียนรู้ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ ขาดการบูรณาการกิจกรรมที่ส่งผลต่อสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน วัด และประเมินไม่ตรงกับสภาพจริง ครูควรพัฒนาสมรรถนะตนเองด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้ การวัด และประเมินผลที่สะท้อน ศักยภาพของผู้เรียนได้อย่างแท้จริง โดยให้ความสำคัญด้านการวัด และประเมินผลตามสภาพจริงเป็นลำดับแรก รองลงมา คือ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน
2. รูปแบบการบริหารสถานศึกษาในการเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนดี มีความสุขของนักเรียนโรงเรียนกะทู้วิทยา เรียกว่า รูปแบบ P-D-SUKHS Model ประกอบด้วย 7 องค์ประกอบ ได้แก่
1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) แนวทางในการนำไปใช้ 4) กระบวนการบริหารจัดการ 5) ระบบและกลไกของรูปแบบ 6) แนวทางในการประเมินผล 7) เงื่อนไขความสำเร็จ โดยมีระบบ และกลไกของรูปแบบ 7 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การออกแบบการเรียนรู้ (P : Planning for Learning) 2) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และสื่อการเรียนรู้ (D : Digital & Media Literacy) 3) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ (S : Student-Centered Learning) 4) การวัด และประเมินผลตามสภาพจริง (U : Understanding Assessment) 5) การพัฒนาทักษะการคิด และการแก้ปัญหา (K : Knowledge & Skills for Problem-Solving) 6) การสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ (H : Higher Innovation in Learning) 7) การพัฒนาตนเอง และการเรียนรู้ตลอดชีวิต (S : Self-Development & Lifelong Learning)
3. การทดลอง และใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาด้วย P-D-SUKHS Model ในการเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนดี มีความสุขของนักเรียนโรงเรียนกะทู้วิทยา พบข้อควรปรับปรุงในการจัดกิจกรรมจากปีการศึกษา 2566 พบว่า กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดการเรียนรู้ การเรียนดี มีความสุข และกิจกรรมการจัดหาผลิตสื่อเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ควรดำเนินการให้อยู่ในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1
ของปีการศึกษา 2567 และครูมีสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด (x=4.77, S.D.=0.42)
4. การประเมินการใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาด้วย P-D-SUKHS Model ในการเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนดี มีความสุขของนักเรียนโรงเรียนกะทู้วิทยา เมื่อสิ้นสุดปีการศึกษา 2567 พบว่า คุณภาพของนักเรียนด้านการเรียนดีซึ่งวัดจากด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการปีการศึกษา 2567 อยู่ในระดับ
ยอดเยี่ยม ผลการประเมินร้อยละของนักเรียนด้านการมีความสุขปีการศึกษา 2567 อยู่ในระดับมากที่สุด (x=4.74, S.D.=0.30) ผลการทดสอบครูเกี่ยวกับสมรรถนะด้านการจัดการเรียนรู้ พบว่า ผ่านเกณฑ์คิดเป็นร้อยละ 100 ของจำนวนครูทั้งหมด มีค่าเฉลี่ยคะแนนสอบเท่ากับ 47.88 คะแนน และผลการประเมินความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการบริหารสถานศึกษาด้วย P-D-SUKHS Model ในการเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการเรียนดี มีความสุขของนักเรียนโรงเรียนกะทู้วิทยา อยู่ในระดับมากที่สุด x=4.75, =0.26
คำสำคัญ: รูปแบบการบริหารสถานศึกษา, สมรรถนะครูด้านการจัดการเรียนรู้, P-D-SUKHS MODEL
, การเรียนดี มีความสุข