|
Advertisement
|
บทคัดย่อ
การวิจัยในชั้นเรียนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาทักษะการใช้เครื่องมือวิเคราะห์คุณภาพอาหารโดยใช้สื่อประสมร่วมกับ Google Apps for Education ตามทฤษฎีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของแมคคลีลแลนด์ และ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนของนักศึกษาระดับ ปวส. ชั้นปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษา สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ จำนวน 24 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบทดสอบก่อนและหลังเรียนจำนวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 20 คะแนน และแบบประเมินพฤติกรรมการทำงานเป็นทีม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ค่าเฉลี่ย ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน และสถิติ t-test สำหรับการเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียน
ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้นวัตกรรมการเรียนการสอนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (t = 15.65) โดยคะแนนเฉลี่ยพัฒนาจากก่อนเรียน 11.71 คะแนน (S.D. = 4.05) เป็นหลังเรียน 17.60 คะแนน (S.D. = 3.23) คิดเป็นการพัฒนา 50.3% 2) การประเมินทักษะการทำงานเป็นทีมมีค่าเฉลี่ย 17.60 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการใช้ทฤษฎีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการยกย่องกลุ่มที่ประสบความสำเร็จ (กลุ่มเก่ง กลุ่มเก่งมาก กลุ่มยอดเยี่ยม) ที่ส่งผลให้นักศึกษามีแรงจูงใจในการเรียนรู้และการทำงานร่วมกันเพิ่มมากขึ้น และ 3) การบูรณาการสื่อประสมกับ Google Apps for Education ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักศึกษา สร้างช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย และเอื้อต่อการเรียนรู้แบบร่วมมือ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์นที่พบว่าการใช้ Google Apps for Education ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการเรียนรู้จากค่าเฉลี่ย 4.20 เป็น 7.53 คะแนน
สรุปได้ว่า การจัดการเรียนการสอนที่ผสมผสานทฤษฎีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ สื่อประสม และเทคโนโลยี Google Apps for Education มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการทำงานเป็นทีมของนักศึกษาอาชีวศึกษาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในรายวิชาที่ต้องใช้ทักษะปฏิบัติและการวิเคราะห์ข้อมูล
ข้อเสนอแนะ 1) ควรขยายผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนนี้ไปยังรายวิชาที่เกี่ยวข้อง 2) ควรศึกษาผลระยะยาวของการใช้นวัตกรรมนี้ต่อการพัฒนาทักษะวิชาชีพและความพร้อมในการทำงานของนักศึกษา 3) ควรพัฒนาเครื่องมือประเมินที่หลากหลายเพื่อวัดผลการเรียนรู้ในมิติต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม และ 4) ควรจัดอบรมครูผู้สอนให้มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีการศึกษาและการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการจูงใจในการจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง
|
โพสต์โดย moctni : [30 ก.ย. 2568 (08:45 น.)] อ่าน [57474] ไอพี : 202.29.225.194
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 49,464 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 124,390 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,897 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 5,603 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 98,675 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,330 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,216 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,926 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,329 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,127 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,067 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,351 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 28,487 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,419 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,354 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 16,579 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,289 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 473,114 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 8,847 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 11,388 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|