ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหาร
สถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1
ผู้วิจัย กุลธิดา อ่อนมี
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน 2) พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนสู่การเป็นนวัตกร และ 4) ประเมินรูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน มี 4 ขั้นตอนการวิจัย ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 48 คน และครูผู้สอน จำนวน 563 คน รวม 611 คน โดยเก็บจากประชากรทั้งหมด ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน แหล่งข้อมูล ได้แก่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาต้นแบบ เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบบันทึกสังเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์องค์ประกอบและตัวชี้วัดของการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน แบบสอบถามสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน แบบบันทึกการศึกษาวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศแนวทางการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน วิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เนื้อหา ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น ขั้นตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิร่างรูปแบบ จำนวน 15 คน ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบร่างรูปแบบ จำนวน 11 คน ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินรูปแบบ และคู่มือการใช้รูปแบบ จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ คือแบบบันทึกการยกร่างรูปแบบ แบบบันทึกสนทนากลุ่ม แบบประเมินความเหมาะสมและความถูกต้องของรูปแบบ แบบประเมินความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบ วิเคราะห์ข้อมูล โดยการวิเคราะห์เนื้อหา ค่าความถี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนสู่การเป็นนวัตกร กลุ่มเป้าหมายในการทดลอง ได้แก่ โรงเรียน ในสังกัด จำนวน 60 โรงเรียน ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 48 คนครูผู้สอน จำนวน 563 คน และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 6 จำนวน 2,946 คน รวม 3,557 คน แหล่งข้อมูลในการสะท้อนผลการดำเนินการ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 8 คน ครูผู้สอนที่เป็นวิชาการกลุ่มโรงเรียน จำนวน 8 คน ศึกษานิเทศก์ ประจำกลุ่มโรงเรียน จำนวน 8 คน ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน รวม 29 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบประเมินการบริหารจัดการนวัตกรรมของด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน แบบบันทึกประเด็นการประชุมสะท้อนผลการทดลองการใช้รูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน วิเคราะห์ข้อมูล โดยโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ค่าค่าความถี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 4 ประเมินรูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน กลุ่มตัวอย่างในการประเมินการเป็นนวัตกรของผู้เรียน ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 340 คน กลุ่มตัวอย่างในการประเมินความพึงพอใจ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 48 คน ครูผู้สอน จำนวน 563 คน ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 60 คน รวม เป็น 671 คน ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินรูปแบบ จำนวน 9 คน เครื่องมือ ที่ใช้ในวิจัย คือ แบบประเมินการเป็นนวัตกรของผู้เรียน แบบสอบถามเพื่อประเมินความพึงพอใจ แบบบันทึกผลการพัฒนานวัตกรรม วิเคราะห์ข้อมูล โดยค่าค่าความถี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการข้อมูลพื้นฐานของรูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 ดังนี้
1.1 ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นของรูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 ประกอบด้วย 1) แนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบ 2) แนวคิดการบริหารจัดการของผู้บริหารสถานศึกษา 3) แนวคิดการบริหารจัดการนวัตกรรม 4) แนวคิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ 5) แนวคิดผู้เรียนเป็นนวัตกร และ 6) แนวคิดการบริหารจัดการนวัตกรรมโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
1.2 ผลการศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดของการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี
ปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 ได้แก่ 1) การกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ 2) การสร้างวัฒนธรรมองค์กร 3) การพัฒนาบุคลากร 4) กระบวนการจัดการนวัตกรรม 5) โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี และ 6) ผลผลิตนวัตกรรม
1.3 ผลศึกษาสภาพการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน พบว่าสภาพปัจจุบัน มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก สภาพที่พึงประสงค์ มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อเรียงลำดับความต้องการจำเป็นจากมากไปหาน้อย ได้แก่ 1) กระบวนการจัดการนวัตกรรม 2) ผลผลิตนวัตกรรม 3) โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี 4) การสร้างวัฒนธรรมองค์กร 5) การกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ และ 6) การพัฒนาบุคลากร
1.4 ผลการศึกษาวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และสถานศึกษาที่เป็นต้นแบบ พบว่า แนวทางการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน ได้แก่ กำหนดนโยบายและวิสัยทัศน์เชิงนวัตกรรมที่ชัดเจน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็น นวัตกรที่มีความคิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ และใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม พร้อมบูรณาการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ในทุกมิติของการเรียนรู้ ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้นวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เป็นเครื่องมือสนับสนุนการคิดวิเคราะห์ และสร้างสรรค์ผลงาน พัฒนาศักยภาพครูและผู้บริหาร ให้เป็นผู้นำด้านดิจิทัล และสามารถออกแบบการเรียนรู้ที่บูรณาการ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อพัฒนาทักษะนวัตกรรมของผู้เรียน สร้างระบบสนับสนุนและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และเครือข่ายความร่วมมือกับภาคีภายนอก ติดตาม ประเมินผล และแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีการสะท้อนผลจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุงและขยายผลนวัตกรรม
2. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1
2.1 ผลการร่างรูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 ประกอบด้วย 5 ส่วนประกอบ ได้แก่ หลักการของรูปแบบ วัตถุประสงค์ของรูปแบบ เนื้อหาของรูปแบบ การวัดและประเมินผล และเงื่อนไขความสำเร็จ
2.2 ผลการตรวจสอบและยืนยันร่างรูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 พบว่ารูปแบบมีความเหมาะสม และให้ปรับเพิ่มเติมให้มีความสมบูรณ์
2.3 ผลการประเมินความถูกต้อง และความเหมาะสมของรูปแบบ พบว่ารูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกร
ของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 พบว่ารูปแบบมีความถูกต้อง และความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด
2.4 ผลการจัดทำคู่มือการใช้รูปแบบ พบว่าคู่มือประกอบด้วย บทที่ 1 บทนำ บทที่ 2 รูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน บทที่ 3 การนำรูปแบบสู่การปฏิบัติ และบทที่ 4 การกำกับ ติดตาม และประเมินผล
2.5 ผลการประเมินความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 พบว่า มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด
3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1
3.1 ผลการประเมินการใช้รูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญา ประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 พบว่า มีระดับการปฏิบัติ อยู่ในระดับมากที่สุด
3.2 ผลการประชุมสะท้อนผลการทดลองการใช้รูปแบบ พบว่า การดำเนินงานระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รูปแบบการบริหารส่งเสริมการวางโครงสร้างสนับสนุนครูผู้บริหารนักเรียนอย่างบูรณาการ โดยการเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มีการวางแผนขั้นตอนการดำเนินงานที่ชัดเจน ส่วนการบริหารจัดการของผู้บริหารโรงเรียน ครอบคลุมกลุ่มศึกษานิเทศก์ ผู้บริหาร ครูผู้สอน และผู้เรียนอย่างชัดเจน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความพึงพอใจต่อรูปแบบนี้นำเสนอภาพชัดของการบริหารจัดการนวัตกรรมในทุกระดับ
4. การประเมินรูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1
4.1 ผลการประเมินการเป็นนวัตกรของผู้เรียนในสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 พบว่า การเป็นนวัตกรหลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบ
4.2 ผลการพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาที่ดำเนินการตามรูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 พบว่าผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 45 คน ครูมีการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้จำนวน 120 นวัตกรรม นักเรียนสามารถพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ของตนเองได้จำนวน 60 นวัตกรรม
4.3 ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการจัดการนวัตกรรมทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ประธานกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึงพอใจต่อการดำเนินงานตามรูปแบบการบริหารจัดการนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
4.4 ผลการประเมินรูปแบบการจัดการนวัตกรรมทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของผู้บริหารสถานศึกษา เพื่อพัฒนาการเป็นนวัตกรของผู้เรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดทั้ง 4 ด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดได้แก่ ด้านความเหมาะสม และความเป็นประโยชน์ รองลงมาได้แก่ ด้านความเป็นไปได้และความถูกต้อง ตามลำดับ