ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่ เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1

ผู้วิจัย นายสมเกียรติ มาแก้ว ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา

สถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1

ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2567

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี 2) พัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี

มีองค์ประกอบของรูปแบบ 6 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เนื้อหา 4) กระบวนการ5) การวัดผลประเมินผล และ 6) ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ มีองค์ประกอบของสมรรถนะครูเพื่อการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่ 6 ด้าน คือ 1) ภาวะผู้นำครู 2) การพัฒนาหลักสูตรแบบบูรณาการ 3) การจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 4) การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อจัดการเรียนรู้ 5) การวัดและประเมินผลเพื่อการพัฒนา และ6) การวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน มีกระบวนการพัฒนาครูภายใต้วงจร PDCAR (Plan–Do–Check–Act–Reflect) เป็นกรอบดำเนินงานหลัก และบูรณาการ

4 วิธีการพัฒนาครู ได้แก่ การอบรมเชิงปฏิบัติการ การศึกษาดูงาน การพัฒนาขณะปฏิบัติงาน และการศึกษาและพัฒนาตนเอง เพื่อให้ครูได้รับทั้งความรู้ ทักษะ และประสบการณ์เชิงปฏิบัติจริงอย่างครบถ้วน โดยมีเป้าหมายคือพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 3 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2) ความสามรถในการคิดวิเคราะห์ และ 3) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน มีการดำเนินการโดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) ประกอบด้วย 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี ระยะที่ 3 การนำรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี และระยะที่ 4 การประเมินรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี เครื่องมือที่ใช้วิจัยได้แก่ คู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 1

ผลการวิจัย พบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี เริ่มจากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดและทฤษฎีด้านรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สมรรถนะครู การเรียนรู้ยุคใหม่ และความพึงพอใจ เพื่อใช้เป็นแนวทางกำหนดขอบเขตและทิศทางของการศึกษาให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การวิจัย จากการสังเคราะห์องค์ประกอบและตัวชี้วัดของสมรรถนะครู โดยการวิเคราะห์องค์กรด้วยเทคนิค SWOT Analysis พบว่า สมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่ประกอบด้วย 3 ด้านหลัก คือ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญว่าเหมาะสม ครอบคลุม และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้บริบทของโรงเรียน ส่วนผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์พบว่า ครูมีสมรรถนะโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีความต้องการพัฒนาสูงสุดในด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ซึ่งแม้ครูสามารถดำเนินการได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังขาดความหลากหลายของเครื่องมือและวิธีการประเมิน รวมทั้งการประเมินผลจากการปฏิบัติจริงและการส่งเสริมให้ผู้เรียนประเมินตนเอง ด้านการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ครูสามารถดำเนินการได้ดีพอสมควร แต่ยังควรพัฒนาการกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนและสอดคล้องกับสมรรถนะของผู้เรียน ส่วนด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่าครูควรได้รับการส่งเสริมให้สามารถออกแบบกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สอดคล้องกับสถานการณ์จริง และมีการให้ข้อมูลย้อนกลับที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผลการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะครูชี้ให้เห็นว่า การจัดการเรียนรู้ยุคใหม่ควรยึดหลักความร่วมมือ เน้นผลลัพธ์ของผู้เรียน และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครู โดยครูควรมีสมรรถนะสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การวางแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผลเชิงรุก ครูควรทำหน้าที่เป็นผู้นำทางวิชาการ มีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรและหน่วยการเรียนรู้ ออกแบบกิจกรรมที่ตอบสนองต่อความสนใจของผู้เรียน ใช้เทคโนโลยีและเครือข่ายความร่วมมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสอน และประเมินผลตามสภาพจริงอย่างหลากหลาย ครอบคลุมทั้งความรู้ ทักษะ และความพึงพอใจของผู้เรียน ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการพัฒนารูปแบบ ได้แก่ การสนับสนุนจากผู้บริหาร การมีส่วนร่วมของครู และความร่วมมือจากเครือข่ายการเรียนรู้ภายในและภายนอกโรงเรียน.

2. ผลการการพัฒนารูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี พบว่ารูปแบบที่พัฒนาขึ้น มี 6 องค์ประกอบ คือ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เนื้อหา 4) วิธีดำเนินการ 5) การประเมินผล และ 6) ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ โดยผ่านการตรวจสอบยืนยันด้วยการสนทนากลุ่ม (Focus Group) จากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ และผลการประเมินความถูกต้องและความเหมาะสมของรูปแบบ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนผลการสร้างคู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี พบว่า คู่มือการใช้รูปแบบ ประกอบด้วย 4 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 บทนำ ประกอบด้วย ความเป็นมา ส่วนที่ 2 รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี ส่วนที่ 3 การดำเนินการตามรูปแบบ และส่วนที่ 4 เครื่องมือประเมินผลรูปแบบ และผลการประเมินความถูกต้องและความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบ โดยรวมความถูกต้องของคู่มืออยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนความเหมาะสมของคู่มือก็อยู่ในระดับมากที่สุด

3. ผลการนำรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี ไปใช้ในสถานศึกษา กับครู จำนวน 72 คน พบว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนการพัฒนาอยู่ที่ 8.97 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 และหลังการพัฒนาเพิ่มขึ้นเป็น 17.79 คะแนน หรือเพิ่มขึ้น 8.82 คะแนน แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่ที่ชัดเจน โดยผลการวิเคราะห์ทางสถิติยืนยันว่าความแตกต่างดังกล่าวมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 หลังการพัฒนา ครูมีสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่อยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ รองลงมาคือการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนา การพัฒนาภาวะผู้นำ การจัดทำหลักสูตรแบบบูรณาการ และการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียนตามลำดับ ในด้านผลการพัฒนาผู้เรียน พบว่านักเรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานีมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคลและส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม โดยนักเรียนระดับชั้นต้นมีผลสัมฤทธิ์สูงกว่าชั้นปลาย และเมื่อพิจารณารายกลุ่มสาระ พบว่ากลุ่มสาระที่เน้นทักษะชีวิตและการปฏิบัติ เช่น สุขศึกษา พลศึกษา ศิลปะ และการงานอาชีพ มีผลสัมฤทธิ์สูงสุด ขณะที่กลุ่มสาระวิชาพื้นฐานอย่างภาษาไทยและคณิตศาสตร์มีคะแนนต่ำกว่าเล็กน้อย ส่วนผลการทดสอบระดับชาติ (O-NET) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า โรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานีมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศในทุกกลุ่มสาระ โดยเฉลี่ยรวม 55.38 คะแนน สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศที่ 39.95 คะแนน ถึง 15.54 คะแนน โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษมีผลต่างมากที่สุด รองลงมาคือคณิตศาสตร์ ภาษาไทย และวิทยาศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการศึกษาและการพัฒนาครูที่มีคุณภาพ และด้านความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1–6 ปีการศึกษา 2567 พบว่าผู้เรียนมีผลการประเมินเฉลี่ยร้อยละ 79.50 สูงกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 75 โดยทุกด้านของการคิดวิเคราะห์ ได้แก่ การวิเคราะห์ความสำคัญ ความสัมพันธ์ และหลักการ ล้วนมีค่าเฉลี่ยสูงกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ส่วนผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนพบว่ามีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าค่าเป้าหมายในทุกระดับชั้น โดยเฉลี่ยรวมอยู่ที่ร้อยละ 88.02 ในด้านความตั้งใจและพยายาม และร้อยละ 90.17 ในด้านความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรค โดยเฉพาะนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 5 มีคะแนนสูงสุด สะท้อนให้เห็นว่าผู้เรียนมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และสามารถเผชิญความท้าทายเพื่อให้งานบรรลุผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

4. ผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี

ผลการประเมินคุณภาพของรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี พบว่ารูปแบบดังกล่าวมีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ทั้งในด้านความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ โดยด้านที่ได้รับคะแนนสูงสุดคือด้านความเป็นประโยชน์ ซึ่งช่วยสร้างความตระหนักให้ครูเข้าใจบทบาทของตนในการจัดการเรียนรู้ พัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน และส่งเสริมให้บุคลากรในโรงเรียนเข้าใจตนเอง ผู้อื่น นักเรียน หลักสูตร และนวัตกรรมที่ใช้ในการเรียนการสอนได้ดียิ่งขึ้น ด้านความเหมาะสมมีความสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาบุคลากรและสภาพการจัดการศึกษาในโรงเรียน ส่วนด้านความถูกต้องมีความชัดเจนทั้งในจุดมุ่งหมายและกระบวนการดำเนินงาน ขณะที่ด้านความเป็นไปได้ได้รับการยอมรับว่าสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงและสอดคล้องกับเป้าหมายของโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม ในส่วนของความพึงพอใจของครูต่อรูปแบบการพัฒนา พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน โดยครูส่วนใหญ่เห็นว่าการพัฒนานี้ช่วยส่งเสริมให้เกิดการวางแผนร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยครูสามารถนำเนื้อหาที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการร่วมกันเพื่อจัดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม ลดความซ้ำซ้อนของเนื้อหา และตอบสนองต่อความสนใจ ความสามารถ และความถนัดของผู้เรียนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ครูยังเน้นการบูรณาการความรู้จากหลายศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ที่หลากหลายและเชื่อมโยงกับชีวิตจริง แม้ว่าข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือการใช้วิธีและเครื่องมือประเมินผลที่หลากหลาย แต่ยังอยู่ในระดับมากที่สุด โดยครูมีการใช้การสังเกต การทดสอบ การทำโครงงานหรือสิ่งประดิษฐ์ รวมถึงการนำเสนอผลงานและอภิปรายร่วมกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าครูมีความพึงพอใจสูงต่อรูปแบบการพัฒนานี้ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

โดยรวมผลจากการวิจัยครั้งนี้พบว่า รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่ที่สร้างขึ้นมีความเหมาะสม ถูกต้อง และสามารถนำไปใช้ได้จริงในบริบทของโรงเรียนอนุบาลเมืองอุทัยธานี ส่งผลให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจ และสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้ยุคใหม่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพผู้เรียนทั้งด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การคิดวิเคราะห์ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยภาพรวม รูปแบบที่พัฒนาขึ้นถือว่ามีประสิทธิภาพ ใช้ได้ผลจริง และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาครูและผู้เรียนอย่างยั่งยืน

โพสต์โดย สมเกียรติ มาแก้ว มาแก้ว : [29 ต.ค. 2568 (00:34 น.)]
อ่าน [56903] ไอพี : 49.237.43.220
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,828 ครั้ง
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์

เปิดอ่าน 17,198 ครั้ง
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 15,080 ครั้ง
อาหารต้านสารก่อมะเร็งที่พบบ่อยในธรรมชาติ
อาหารต้านสารก่อมะเร็งที่พบบ่อยในธรรมชาติ

เปิดอ่าน 12,002 ครั้ง
วิเคราะห์ทิศทางการเปิดประตูตามฮวงจุ้ย 7ส.ค.-7ก.ย.
วิเคราะห์ทิศทางการเปิดประตูตามฮวงจุ้ย 7ส.ค.-7ก.ย.

เปิดอ่าน 16,404 ครั้ง
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)
เด็กไทยเป็นอัจฉริยะ 4.0 ได้ง่าย ถ้าฝึกช่วงเรียนรู้ไว (3-6 ขวบ)

เปิดอ่าน 14,954 ครั้ง
การศึกษาไทยภายใต้รัฐบาล คสช. 3 ปี ที่วังเวงและเคว้งคว้าง
การศึกษาไทยภายใต้รัฐบาล คสช. 3 ปี ที่วังเวงและเคว้งคว้าง

เปิดอ่าน 16,126 ครั้ง
คำวิจารณ์การศึกษาไทย โดยพระราชญาณกวี โซเชียลแชร์ที่อ่านแล้วต้องคิดตาม
คำวิจารณ์การศึกษาไทย โดยพระราชญาณกวี โซเชียลแชร์ที่อ่านแล้วต้องคิดตาม

เปิดอ่าน 19,406 ครั้ง
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค

เปิดอ่าน 40,471 ครั้ง
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542  หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา(2)
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา(2)

เปิดอ่าน 21,532 ครั้ง
5 สิ่งไม่ควรทำหลังทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ
5 สิ่งไม่ควรทำหลังทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ

เปิดอ่าน 5,084 ครั้ง
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ
วันไหว้ครู ที่มาและความสำคัญของวันไหว้ครู และพิธีปฏิบัติ

เปิดอ่าน 8,212 ครั้ง
คุณภาพผู้เรียนวัดจาก NT-ONET เส้นทางที่ลางเลือน!
คุณภาพผู้เรียนวัดจาก NT-ONET เส้นทางที่ลางเลือน!

เปิดอ่าน 855 ครั้ง
อยากลงทุนคอนโดติดรถไฟฟ้าไว้ปล่อยเช่า ย่านไหนสภาพคล่องสูง ?
อยากลงทุนคอนโดติดรถไฟฟ้าไว้ปล่อยเช่า ย่านไหนสภาพคล่องสูง ?

เปิดอ่าน 29,169 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก

เปิดอ่าน 63,199 ครั้ง
ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน
ดอกไม้ประจำชาติอาเซียน

เปิดอ่าน 310,721 ครั้ง
มิตรแท้ ๔ มิตรเทียม ๔
มิตรแท้ ๔ มิตรเทียม ๔
เปิดอ่าน 10,702 ครั้ง
PISA ที่ผ่านมาบอกอะไรให้เราทราบบ้าง
PISA ที่ผ่านมาบอกอะไรให้เราทราบบ้าง
เปิดอ่าน 11,913 ครั้ง
คลิปรถตู้อุบลฯ รับผู้โดยสารแน่นคัน 15 ที่นั่ง ยืนอีกเป็นสิบ
คลิปรถตู้อุบลฯ รับผู้โดยสารแน่นคัน 15 ที่นั่ง ยืนอีกเป็นสิบ
เปิดอ่าน 21,924 ครั้ง
ปัจจัยแห่งความล้มเหลว ในการปฏิรูปการศึกษาไทยคืออะไร โดย เพชร เหมือนพันธุ์
ปัจจัยแห่งความล้มเหลว ในการปฏิรูปการศึกษาไทยคืออะไร โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เปิดอ่าน 12,584 ครั้ง
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน
ยิงแอดบน Facebook เองกับจ้างเอเจนซี่ อันไหนเวิร์คกว่ากัน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ