1. ความสำคัญของผลงานหรือนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้กล่าวถึง ความมุ่งหมายของการจัดการศึกษา ซึ่งมีเจตนารมณ์มุ่งพัฒนาชีวิตให้เป็น มนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข หรือกล่าวอีกอย่างคือบุคคลที่มีความ "เรียนดี มีคุณธรรม" ซึ่งหลักการสำคัญในการจัดการศึกษา คือ เน้นให้ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติเต็มตามศักยภาพ การปฏิรูปการศึกษาในปัจจุบันจึงมีจุดมุ่งหมายที่จะจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดี มีความสามารถและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข ซึ่งวิธีจัดการเรียนรู้ของครูยุคใหม่จะต้องเป็นไปโดยยืดผู้เรียนเป็นสำคัญ ผ่านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ซึ่งเป็นการเรียนที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิดขั้นสูงด้วยการ วิเคราะห์ประเมินค่า และสร้างสรรค์ ไม่ได้เป็นแต่ผู้ฟัง ผู้เรียนต้อง อ่าน เขียน ตั้งคำถาม อภิปรายร่วมกัน และลงมือปฏิบัติจริง
การจัดการเรียนการสอนวิชาดนตรีในระบบการศึกษาของประเทศไทย ได้กำหนดให้มีการจัดการ
เรียนการสอนตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจนถึงระดับอุดมศึกษา ซึ่งในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการ ได้บรรจุวิชาดนตรี ไว้เป็นสวนหนึ่งของกลุ่มสาระการเรียนรูศิลปะ กลุ่มการเรียนรูศิลปะ เป็นกลุ่มสาระการเรียนรูที่มุ่งเน้นการสงเสริมใหผู้เรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีจินตนาการทาง ศิลปะ ชื่นชมความงาม สุนทรียภาพ ความมีคุณคา ซึ่งมีผลตอคุณภาพชีวิตมนุษย์ ดังนั้นกิจกรรม ศิลปะสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาผู้เรียน โดยตรงทั้งด่านรางกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสังคม ตลอดจนนำไปสู่การพัฒนาสิ่งแวดล่อม ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความเชื่อมั่นในตนเอง และแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ พัฒนากระบวนการรับรูทางศิลปะการเห็นภาพรวม การสังเกต รายละเอียด สามารถคนพบ ศักยภาพของตนเอง อันเปนพื้นฐานในการศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพ ซึ่งวิชาดนตรีชวยสงเสริมพัฒนาผู้เรียน
มีสุนทรียภาพ กล่าแสดงออก มีความคิด ริเริ่มสร้างสรรค มีพัฒนาการทางด่านรางกาย จิตใจ อารมณ สังคม
และสติปัญญา
การจัดการเรียนรูวิชาดนตรีในปัจจุบัน จะมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความรูความเข้าใจในด้านเนื้อหาสาระดนตรีเท่านั้น จึงทำใหนักเรียนขาดทักษะและประสบการณ์ในการปฏิบัติทางดนตรี อีกทั้งครูยังขาดเทคนิคและวิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรูที่เหมาะสม กิจกรรมการเรียนรู้ไม่หลากหลาย กิจกรรมไม่สอดคลอง กับสาระการเรียนรู้และประสบการณเดิมของนักเรียน ทำใหนักเรียนเบื่อหน่ายไม่สนใจเรียน ขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้ ขาดทักษะดนตรี ในการจัดการเรียนรู้สาระดนตรี ในรายวิชาศิลปะระดับชั้น ป.๕ ของโรงเรียนปากจาบพบว่า นักเรียนยังขาดความสนใจและความเข้าใจในด้านความรู้ทางวิชาการของดนตรี ตลอดไปถึงมีทักษะ พื้นฐานทางดนตรีไม่เพียงพอ ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนค่อนข้างต่ำ นักเรียนขาดแรงจูงใจในการพัฒนาทักษะทางด้านดนตรี อาจเนื่องมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไม่น่าสนใจ ขาดการกระตุ้นความเร้าใจจากการใช้สื่อการสอนและเทคนิควิธีการสอนแบบใหม่ๆ รวมทั้งขาดสื่อการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
จากปัญหาดังกล้าวมาข้างต้น ครูผู้สอน จึงได้ศึกษาแนวคิดทฤษฎีการสอนดนตรีของนักการศึกษา
ได้แก่ โซตาล โคดาย, คาร์ล ออฟ, เอมิล ชาคส์ ดาลโครซ ชินนิชิ ซูซูกิ และมอนเตสซอรี ตลอดถึงศึกษาแนวคิดและ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบแฮร์บาร์ต (HERBART METHOD) ร่วมกับการบูรณาการ วิธีการการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก (ACTIVE LEARNING)ขึ้น เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาในการจัดการเรียนรู้ในสาระดนตรี เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลต่อนักเรียน โดยเน้นบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีความสุข ผ่อนคลาย ไม่กดดัน ทำให้เกิดความกระตือรือร้นในการเรียน เรียนรู้ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้เรียนมีความสุข โดยกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active learning) ที่ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรม เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงให้เกิดแก่ผู้เรียนจากการลงมือทำ และสร้างองค์ความรู้จากสิ่งที่ลงมือปฏิบัติกิจกรรม มีอิสระในการคิด และลงมือทำ มีการ วัดผลและประเมินผลตามสภาพจริงด้วยวิธีการที่หลากหลาย
เขียนถึง Kruyong Yong