นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ 82.67/86.67 เล่ม 2 มีประสิทธิภาพ 84.55/85.33 เล่ม 3 มีประสิทธิภาพ 81.82/85.33 เล่ม 4 มีประสิทธิภาพ 84.22/84.00 เล่ม 5 มีประสิทธิภาพ 84.80/81.33 เล่ม 6 มีประสิทธิภาพ 83.05/80.00 เล่ม 7 มีประสิทธิภาพ 83.00/82.67 และเล่ม 8 มีประสิทธิภาพ 80.67/84.00
2. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การ เรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ โดยรวมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาแยกเป็นเรื่อง ปรากฏว่ามีคะแนนเฉลี่ยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทุกเรื่อง
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ อยู่ในระดับมากทุกข้อ
นิพัทธา จันทร์เอี่ยม. รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ,
2551.
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบที่มีประสิทธิภาพ
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวกและการลบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 การศึกษา 2551 โรงเรียนอนุบาลหนองมะโมง จำนวน 15 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ คู่มือการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าประสิทธิภาพ ค่าสถิติพื้นฐาน และค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เรื่องโจทย์ปัญหาการบวกและการลบ เล่ม 1 มีประสิทธิภาพ
วันที่ 26 มี.ค. 2552
ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง
฿1,790
https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6
Advertisement

เปิดอ่าน 8,115 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,121 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,108 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,109 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,115 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,114 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,114 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,122 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,120 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,115 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,118 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,123 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,112 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,112 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,125 ครั้ง 
เปิดอ่าน 8,116 ครั้ง