ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ นางเรณู ชิดเชื้อ ครู รร.ท.๒ ตรัง

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓

ชื่อผู้วิจัย เรณู ชิดเชื้อ

ปีที่ศึกษา ๒๕๕๗

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๒) เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๓) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ๔) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เป็นการวิจัยเชิงพัฒนา (Research and Development) ซึ่งผู้วิจัยได้แบ่งขั้นตอนการวิจัยเป็น ๔ ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ ๑ การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : R๑) ขั้นตอนที่ ๒ การออกแบบและพัฒนารูปแบบการสอน (Design and Development : D๒) ขั้นตอนที่ ๓ นำรูปแบบการเรียนการสอนไปใช้ (Implement : R๒) และขั้นตอนที่ ๔ ประเมินผลรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนเป็นสื่อ (Evaluation : D๒) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ๑) กลอนประกอบการสอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย สำหรับนักเรียนประถมศึกษาปีที่ ๓ ที่ผู้วิจัยแต่งขึ้น จำนวน ๑๓ กลอน ๒) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๑๓ แผน ๓) แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ ก่อนเรียนและหลังเรียน และ ๔) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนเทศบาล ๖ (วัดตันตยาภิรม ) เทศบาลนครตรัง ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๗ จำนวน จำนวน ๒๙ คน ซึ่งได้มาโดยวิธีสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ๑๓ แผน รูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ ๑ เล่มใช้เวลา ๑๓ ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจำนวน ๓ ฉบับ มีความเชื่อมั่นแต่ละฉบับ ฉบับที่ ๑ เท่ากับ ๐.๘๖๓ ฉบับที่ ๒ เท่ากับ ๐.๘๗๖และฉบับที่ ๓ เท่ากับ ๐.๘๖๙ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อ จำนวน 10 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น ๐.๙๔๗ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่า ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเปรียบเทียบค่าเฉลี่ย สองค่าจากกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว (t-test for Paired Samples) ผลการวิจัยพบว่า

สรุปผลการวิจัย

จากการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ สามารถสรุปผลการวิจัยได้ ดังนี้

ตอนที่ ๑ ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓

จากการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนโดยใช้กลอนค่านิยม ๑๒ ประการของคนไทย เป็นสื่อเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยการศึกษาข้อมูลพื้นฐานของนักเรียนพบปัญหาในการอ่านออกเสียงและการอ่านจับใจความ ดังนี้

๑. สาเหตุของความผิดพลาดในการอ่าน

๑.๑ สาเหตุของความผิดพลาดในการอ่านออกเสียง

-จากตัวนักเรียน เด็กทั่วไปมีวุฒิภาวะแตกต่างกัน เด็กบางคนอาจมีความบกพร่องทางสติปัญญา อารมณ์ สายตาผิดปกติ อวัยวะในการรับฟังผิดปกติ อวัยวะการออกเสียงผิดปกติ

-จากตัวครู ครูส่วนมาก ไม่เป็นแบบอย่าง ที่ถูกต้องแก่เด็ก และขาดการฝึกที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่องให้เด็ก

โพสต์โดย บัง : [11 ก.พ. 2559 เวลา 20:18 น.]
อ่าน [3859] ไอพี : 110.169.120.83
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,421 ครั้ง
คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์
คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์

เปิดอ่าน 27,386 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 15,912 ครั้ง
การรักษาโรคตาแห้ง
การรักษาโรคตาแห้ง

เปิดอ่าน 337,948 ครั้ง
สุภาษิตพระร่วง
สุภาษิตพระร่วง

เปิดอ่าน 15,703 ครั้ง
โทรภาพ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
โทรภาพ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7

เปิดอ่าน 19,405 ครั้ง
15 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ปาก และ ฟัน
15 เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ปาก และ ฟัน

เปิดอ่าน 23,243 ครั้ง
เทควันโด : ประวัติกีฬาเทควันโด
เทควันโด : ประวัติกีฬาเทควันโด

เปิดอ่าน 20,813 ครั้ง
ราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368)
ราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368)

เปิดอ่าน 54,006 ครั้ง
พิชิตคณิตให้เป็นเรื่องง่าย
พิชิตคณิตให้เป็นเรื่องง่าย

เปิดอ่าน 4,718 ครั้ง
"องุ่นทะเล" ไม้ใหญ่ประโยชน์เยอะ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
"องุ่นทะเล" ไม้ใหญ่ประโยชน์เยอะ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

เปิดอ่าน 19,207 ครั้ง
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน

เปิดอ่าน 26,280 ครั้ง
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : ฟริดริก เกาส์
ประวัติย่อของคณิตศาสตร์ : ฟริดริก เกาส์

เปิดอ่าน 16,012 ครั้ง
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า

เปิดอ่าน 15,418 ครั้ง
อยากรวย! ต้องขยันอ่านหนังสือ เคล็ดลับความรวยที่ไม่ค่อยมีใครบอก!!
อยากรวย! ต้องขยันอ่านหนังสือ เคล็ดลับความรวยที่ไม่ค่อยมีใครบอก!!

เปิดอ่าน 13,205 ครั้ง
5 สิ่งมหัศจรรย์ (ทางเลือก) ของโลก
5 สิ่งมหัศจรรย์ (ทางเลือก) ของโลก

เปิดอ่าน 24,259 ครั้ง
Minions Banana Song ที่กำลังฮิตกันทั่วโลก
Minions Banana Song ที่กำลังฮิตกันทั่วโลก
เปิดอ่าน 3,743 ครั้ง
ไฟฟ้ามาจากไหน ใช้อะไรในการผลิต
ไฟฟ้ามาจากไหน ใช้อะไรในการผลิต
เปิดอ่าน 11,010 ครั้ง
วิธีถนอม Handy drive สุดรัก
วิธีถนอม Handy drive สุดรัก
เปิดอ่าน 14,837 ครั้ง
29 ก.ค. วันภาษาไทยแห่งชาติ
29 ก.ค. วันภาษาไทยแห่งชาติ
เปิดอ่าน 14,950 ครั้ง
10 เหตุผลที่ลดเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลงสักที
10 เหตุผลที่ลดเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลงสักที

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ