|
|
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Kanchana Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) ตรวจสอบรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Kanchana Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ดังนี้ 2.1) หาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Kanchana Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2.2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Kanchana Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2.3) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Kanchana Model) ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2.4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อ การจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Kanchana Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาล 1 (ถนนนครนอก) จำนวน 35 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินความสอดคล้องของรูปแบบการสอน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ และแบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent) และ การวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) ผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการเรียนการสอนนี้มีชื่อเรียกว่า Khanchana Model มีองค์ประกอบ ดังนี้ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียน การสอน สาระหลัก สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีกระบวนการเรียนการประกอบด้วย 8 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นรู้จักปัญหา (Know problems: K) ขั้นที่ 2 ขั้นวิเคราะห์ปัญหา (analysis: a) ขั้นที่ 3 ขั้นให้คำแนะนำในการแก้ปัญหา (needs to advise: n) ขั้นที่ 4 ขั้นทำความเข้าใจปัญหา (comprehend: c) ขั้นที่ 5 ขั้นหาแนวทางในการจัดการปัญหา (handle: h) ขั้นที่ 6 ขั้นดำเนินการแก้ปัญหา (action: a) ขั้นที่ 7 ขั้นอภิปรายผลและสรุป (needs for summary: n) ขั้นที่ 8 ขั้นนำไปประยุกต์ใช้ (application: a)
2. ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ประกอบแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Kanchana Model เท่ากับ 80.11/82.67 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
3. การจัดการเรียนรู้ประกอบแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Kanchana Model มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6758 หรือร้อยละ 67.58
4. หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Kanchana Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผู้เรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูงมากและสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
5. หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Kanchana Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับสูงมากและสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
6. ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ (Kanchana Model) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวม ผู้เรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.71, S.D. = 0.24)
|
โพสต์โดย กัญจนา ศิริพฤกษ์ : [18 เม.ย. 2559 เวลา 14:09 น.] อ่าน [4800] ไอพี : 223.205.76.99
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,772 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,247 ครั้ง
| เปิดอ่าน 27,622 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,200 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,390 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,887 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,687 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,409 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,768 ครั้ง
| เปิดอ่าน 30,458 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,427 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,478 ครั้ง
| เปิดอ่าน 37,142 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,947 ครั้ง
| เปิดอ่าน 110,931 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 9,871 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,948 ครั้ง
| เปิดอ่าน 56,262 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,193 ครั้ง
| เปิดอ่าน 140,555 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|