|
|
การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์การศึกษา 1) เพื่อศึกษาหาประสิทธิภาพของชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง โดยใช้การสอนแบบร่วมมือเทคนิค STAD รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 2 (ค22202) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง โดยใช้การสอนแบบร่วมมือเทคนิค STAD รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 2 (ค22202) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาเจตคติที่มีต่อการเรียนชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง โดยใช้การสอนแบบร่วมมือเทคนิค STAD รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 2 (ค22202) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
สรุปผลการศึกษา
การพัฒนาชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง โดยใช้การสอนแบบร่วมมือเทคนิค STAD รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 2 (ค22202) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สรุปผลการศึกษาได้ดังนี้
1. ชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง โดยใช้การสอนแบบร่วมมือเทคนิค STAD รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 2 (ค22202) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.15/80.93 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
ที่ตั้งไว้ 75/75
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง โดยใช้การสอนแบบร่วมมือเทคนิค STAD รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 2 (ค22202) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีเจตคติที่มีต่อการเรียนชุดฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง โดยใช้การสอนแบบร่วมมือเทคนิค STAD รายวิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 2 (ค22202) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง มีค่าเฉลี่ย = 4.77 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.51 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ข้อ พบว่า ข้อที่ 10 ฉันภูมิใจเมื่อตอบคำถามในวิชาคณิตศาสตร์ได้ถูกต้อง มีค่าเฉลี่ย = 4.95 ข้อที่ 12 วิชาคณิตศาสตร์ฝึกให้รู้จักคิดและแก้ปัญหา มีค่าเฉลี่ย = 4.93 และข้อที่ 4 วิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ไม่ต้องศึกษาก็ได้ มีค่าเฉลี่ย = 4.85 ตามลำดับ
|
โพสต์โดย มาธนี อินภู่ : [26 ก.ค. 2559 เวลา 12:38 น.] อ่าน [2830] ไอพี : 223.205.247.94
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 15,346 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 129,179 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 57,236 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,787 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 67,085 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,004 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 33,480 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,857 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,978 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 48,828 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 13,189 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,010 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 46,748 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,128 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,068 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 21,354 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 40,244 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 39,041 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 65,187 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,880 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|