ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ สำหรับนั

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนา ทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียน และ4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้าน กม.2 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 22 คน ที่ได้มาด้วยการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง (purpose sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6 โรงเรียนบ้าน กม.2 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test (Dependent Samples)

ผลการวิจัย พบว่า

1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษา อังกฤษมีประสิทธิภาพโดยรวมเท่า 84.02/84.85 ได้ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 แสดงว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก

2) ดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีค่าเท่ากับ 0.6575 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 65.75

3) นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน มีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4) นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.60, S.D. = 0.51)

ผลจากการวิจัยครั้งนี้ เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการ

พัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน

บ้าน กม.2 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนได้

และเป็นแนวทางให้ครูนำไปพัฒนาการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาอื่น ๆ ให้มีประสิทธิภาพ

ยิ่งขึ้น

โพสต์โดย ราตรี ลีละโรจน์ : [21 ก.พ. 2560 เวลา 20:46 น.]
อ่าน [2522] ไอพี : 125.25.223.219
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 57,452 ครั้ง
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference "พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560"
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference "พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560"

เปิดอ่าน 26,087 ครั้ง
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ

เปิดอ่าน 13,909 ครั้ง
ครูใช้เวลาว่างเลี้ยงไก่งวงขายลูกค้าสั่งซื้อเพียบ เตรียมรวมกลุ่มส่งขายต่างประเทศ
ครูใช้เวลาว่างเลี้ยงไก่งวงขายลูกค้าสั่งซื้อเพียบ เตรียมรวมกลุ่มส่งขายต่างประเทศ

เปิดอ่าน 9,132 ครั้ง
คณิตศาสตร์ชุมชน : โดย สมพงษ์ จิตระดับ สุอังคะวาทิน, ชุติมา ชุมพงศ์
คณิตศาสตร์ชุมชน : โดย สมพงษ์ จิตระดับ สุอังคะวาทิน, ชุติมา ชุมพงศ์

เปิดอ่าน 10,610 ครั้ง
รีดเลือดไดโนเสาร์ ซากจมอยู่ในดินตายมาแล้วตั้ง 80 ล้านปี
รีดเลือดไดโนเสาร์ ซากจมอยู่ในดินตายมาแล้วตั้ง 80 ล้านปี

เปิดอ่าน 22,965 ครั้ง
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis)
กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis)

เปิดอ่าน 13,758 ครั้ง
อาการแบบนี้...พบหมอด่วน
อาการแบบนี้...พบหมอด่วน

เปิดอ่าน 6,499 ครั้ง
Facebook แง้มกำลังเพิ่มปุ่มแสดงความเสียใจ บนเฟซบุ๊ก
Facebook แง้มกำลังเพิ่มปุ่มแสดงความเสียใจ บนเฟซบุ๊ก

เปิดอ่าน 19,879 ครั้ง
เงินเดือนเป็นความลับ
เงินเดือนเป็นความลับ

เปิดอ่าน 119,646 ครั้ง
การอ่านจับใจความสำคัญ
การอ่านจับใจความสำคัญ

เปิดอ่าน 13,085 ครั้ง
คลิปอันดับ 1 ประกวดคลิป "ไข้เลือดออก"
คลิปอันดับ 1 ประกวดคลิป "ไข้เลือดออก"

เปิดอ่าน 11,301 ครั้ง
เทคนิคบริหารหน้าท้องให้เพรียวสวย
เทคนิคบริหารหน้าท้องให้เพรียวสวย

เปิดอ่าน 14,523 ครั้ง
แว่นกันแดดแฟชั่น สวย เสี่ยง
แว่นกันแดดแฟชั่น สวย เสี่ยง

เปิดอ่าน 12,023 ครั้ง
EQ กับวัยทำงาน
EQ กับวัยทำงาน

เปิดอ่าน 49,182 ครั้ง
ศัพท์บัญญัติการศึกษา
ศัพท์บัญญัติการศึกษา

เปิดอ่าน 10,960 ครั้ง
เหงื่อบอกโรค
เหงื่อบอกโรค
เปิดอ่าน 8,267 ครั้ง
"กับดักส้มสอดไส้ตะปู" ที่แท้มาจากประเทศ......
"กับดักส้มสอดไส้ตะปู" ที่แท้มาจากประเทศ......
เปิดอ่าน 8,242 ครั้ง
ผลวิจัยใหม่พบ "ไวไฟ" อันตรายต่อเด็กกว่าผู้ใหญ่
ผลวิจัยใหม่พบ "ไวไฟ" อันตรายต่อเด็กกว่าผู้ใหญ่
เปิดอ่าน 11,685 ครั้ง
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)
ปัจจัยฉุดรั้งการศึกษา (1)
เปิดอ่าน 8,299 ครั้ง
เรื่องเล่าดีๆ เมื่อหนุ่มทำมือถือตกในแท็กซี่ โทรไปก็ไม่มีคนรับ ผลสุดท้ายคือ...
เรื่องเล่าดีๆ เมื่อหนุ่มทำมือถือตกในแท็กซี่ โทรไปก็ไม่มีคนรับ ผลสุดท้ายคือ...

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
Koi360
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ