ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน(O-NET)
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
โรงเรียนกะเปอร์วิทยา ปีการศึกษา 2558
ผู้ประเมิน นางภัทรภร พุทธรัตน์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนกะเปอร์วิทยา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 14
ปีที่ประเมิน 2558
_____________________________________________________________
บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
การประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET ) ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ประเมินการดำเนินการตามแผน การนิเทศ การสอนและคุณลักษณะของครู ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) ของกลุ่มสาระการเรียนรู้หลัก5 กลุ่มสาระ และความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 148 คน ครูผู้สอน 24 คน ผู้ปกครองของนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 148 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วยแบบสอบถามจำนวน 10 ฉบับและแบบบันทึกจำนวน 1 ฉบับ รวม 11 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการหาความสอดคล้องเครื่องมือใช้สูตร IOC และใช้แอลฟา หาความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม
ผลการประเมิน
1. ผลการประเมินการดำเนินการตามแผน พบว่า มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมิน1ตัวชี้วัดและไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน 1 ตัวชี้วัด ดังนี้
1.1 การปรับปรุงหลักสูตร พบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับ น้อย
1.2 การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐาน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับ มาก
2. ผลการประเมินการนิเทศ พบว่ามีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมิน ทั้ง 1 ตัวชี้วัด และไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน 1 ตัวชี้วัด ดังนี้
2.1 การนิเทศการสอน พบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับ น้อย
2.2 การปรับปรุงการสอน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับ มาก
3. ผลการประเมินการสอนและคุณลักษณะของครู พบว่ามีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 3 ตัวชี้วัด ดังนี้
3.1 การจัดกิจกรรมการสอนปกติ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก
3.2 การจัดกิจกรรมการสอนเสริม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก
3.3 คุณลักษณะของครู พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับ มาก
4. ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( O-NET ) พบว่ามีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมิน 6 ตัวชี้วัด ดังนี้
4.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( O-NET ) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก
4.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( O-NET ) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมากที่สุด
4.3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( O-NET ) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับปานกลาง
4.4 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( O-NET ) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมากที่สุด
4.5 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( O-NET ) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมากที่สุด
4.6 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( O-NET ) เฉลี่ยรวมทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมากที่สุด
5. ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง พบว่า มีตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 3ตัวชี้วัด ดังนี้
5.1 ความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก
5.2 ความพึงพอใจของผู้ปกครอง พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับมาก
5.3 ความพึงพอใจของครู พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินและอยู่ในระดับ มาก
ผลการประเมินโครงการในภาพรวมพบว่า ผลการประเมินโครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET ) ด้านการดำเนินการตามแผน การนิเทศ การสอนและคุณลักษณะของครู และความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้อง ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับมาก 8 ตัวชี้วัด และไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน 2 ตัวชี้วัด ส่วนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับมากที่สุด จำนวน 4 ตัวชี้วัด ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับมาก จำนวน 1 ตัวชี้วัด และผ่านเกณฑ์การประเมินระดับปานกลาง จำนวน 1 ตัวชี้วัด
ข้อเสนอแนะ
1. จากผลการประเมินพบว่าด้านการปรับปรุงหลักสูตร มีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ อยู่ในระดับน้อย เกี่ยวกับ มีการศึกษาวิเคราะห์ สภาพปัจจุบัน ปัญหา การใช้หลักสูตรสถานศึกษาแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ มีคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด จึงควรมีการวางแผนการดำเนินงานในการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ตั้งแต่ขั้นเตรียมการ ขั้นดำเนินการ และขั้นการประเมินผลการใช้หลักสูตร ในส่วนของขั้นเตรียมการ ควรมีการศึกษาความสอดคล้องของหลักสูตรแกนกลางกับหลักสูตรสถานศึกษา วิเคราะห์สภาพปัญหาในการใช้หลักสูตรสถานศึกษาทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ จัดประชุมคณะครูผู้ส่วนเกี่ยวข้อง นำข้อมูลปัญหา ข้อมูลพื้นฐานของผู้เรียนวิเคราะห์จุดเด่นจุดด้อย ศึกษาวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และแนวข้อสอบ O-NET กำหนดแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้หลักสูตรสถานศึกษา มีความเหมาะสมกับผู้เรียน และสอดคล้องกับมาตรฐานตัวชี้วัดของหนักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ขั้นดำเนินการ ควรมีการวิเคราะห์หลักสูตรเพื่อจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้อง เหมาะสมพัฒนาผู้เรียนเป็นไปตามเป้าหมายของหลักสูตร และมีการประเมินผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษาในทุกรายวิชาเปรียบเทียบผลที่เกิดขึ้นกับผลที่คาดหวังตรวจสอบคุณภาพผู้เรียนเทียบกับเกณฑ์ และมีการประเมินอย่างต่อเนื่อง นำผลการประเมินมาวิเคราะห์กำหนดแนวทางในการพัฒนาหลักสูตร และที่สำคัญต้องส่งเสริมให้ผู้บริหาร ครู ตระหนักเห็นความสำคัญและมีความรู้ความเข้าใจ และมีส่วนร่วมในการปรับปรุงหลักสูตรเพื่อเป็นกรอบทิศทางในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
2. จากผลการประเมินด้านการนิเทศการสอน มีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ อยู่ในระดับน้อย และในเรื่อง มีการวางแผนกำหนดรูปแบบวิธีการขั้นตอนและปฏิทินการนิเทศการสอนชัดเจนสามารถปฏิบัติได้มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ผู้บริหารและครูควรเห็นความสำคัญของการนิเทศการสอนซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ควรนำข้อสรุปเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการในการนิเทศมาจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ผู้บริหารและครูควรมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมาย รูปแบบวิธีการ วางแผนจัดทำปฏิทินการนิเทศ ดำเนินการนิเทศ อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง รายงานสรุปผลการนิเทศให้ผู้รับการนิเทศทราบ และติดตามการนำผลการนิเทศไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และที่สำคัญควรมีการแต่งตั้งคณะกรรมการในการดำเนินการนิเทศและจัดประชุมชี้แจง สร้างความรู้ความเข้าใจ วัตถุประสงค์เป้าหมาย เครื่องมือ ขั้นตอนกระบวนการนิเทศให้กับคณะกรรมการนิเทศ เพื่อให้สามารถดำเนินการนิเทศการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. จากผลการประเมินพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ( O-NET ) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับปานกลาง จึงควรดำเนินการพัฒนาและส่งเสริมให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น โดยการ วิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหาในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับ การวิเคราะห์ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) ที่ผ่านมา เกี่ยวกับคะแนนเฉลี่ยผลการสอบในระดับมาตรฐาน สาระการเรียนรู้ วิเคราะห์เกี่ยวกับความพร้อมความเพียงพอของครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ การจัดสภาพห้องเรียน ให้มีความพร้อมด้านสื่อวัสดุอุปกรณ์ในการจัดการเรียนรู้ บรรยากาศในห้องเรียนให้มีบรรยากาศที่ส่งเสริมเรียนรู้ เพื่อการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้ สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน ปัญหา ในการเรียนรู้ของนักเรียน อย่างต่อเนื่อง และควรมีการจัดกลุ่มผู้เรียนตามความสามารถความถนัด ความบกพร่องเพื่อจัดกิจกรรมเสริมทั้งเจตคติทางวิทยาศาสตร์ ความรู้ความสามารถในเนื้อหาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ค่ายวิทยาศาสตร์ กิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์ กิจกรรมการส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์