ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมสำหรับคุณครู  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ชำแหละ "แชร์ลูกโซ่" ธุรกิจหลอกฟันเงิน


สำหรับคุณครู 27 เม.ย. 2558 เวลา 05:57 น. เปิดอ่าน : 10,600 ครั้ง
ชำแหละ "แชร์ลูกโซ่" ธุรกิจหลอกฟันเงิน

Advertisement

ข้อมูลโดย...กองบรรณาธิการโพสต์ทูเดย์

 

 

ปัญหาเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ หรือการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เป็นปัญหาสำคัญของประเทศที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ทั้งที่ความเป็นจริงมีหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยที่มีหน้าที่ปราบปรามเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ไม่ได้ทำให้ปัญหาเหล่านี้ลดลง อีกทั้งยังมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย กลับเป็นช่องทางที่เอื้อต่อการกระทำความผิดในรูปแบบ “แชร์ลูกโซ่” ให้มีความหลากหลายซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยแต่ละรายสร้างความเสียหายให้กับประเทศรวมแล้วนับพันล้านบาท

ถือเป็นภัยร้ายที่กำลังทำลายระบบทางเศรษฐกิจของสังคมและประชาชนในทุกระดับ

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า จากสถิติข้อมูลด้านคดีของ
ดีเอสไอตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีคดีพิเศษเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ 99 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นไปแล้ว 75 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 24 คดี อยู่ระหว่างการสืบสวนอีกกว่า 43 คดี เมื่อนำมาแยกลักษณะของการกระทำผิดอย่างกว้างๆ พบว่าแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิดนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของมนุษย์

โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ประชาชนระดับรากหญ้า ส่วนใหญ่แชร์ลูกโซ่จะถูกแฝงตัวมาในรูปแบบการ “ฌาปนกิจสงเคราะห์” เนื่องจากเป็นความสัมพันธ์ในด้านพื้นฐานของชีวิตที่มีความต้องการให้ลูกหลานมีเงินเป็นทุนใช้จ่ายหลังเสียชีวิต โดยไม่ให้ส่งผลกระทบกับคนที่อยู่ข้างหลังได้รับความเดือดร้อน

กลุ่มที่ 2.ประชาชนทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นคนระดับกลาง รูปแบบของแชร์ลูกโซ่จะมาในรูปของการชักชวนร่วมลงทุนในสินค้าหรือบริการต่างๆ ทั้งยังมีการแฝงรูปแบบของธุรกิจขายตรง เช่น แชร์น้ำมันหอมระเหย แชร์ก๋วยเตี๋ยว แชร์พวงมาลัย แชร์ลอตเตอรี่ เป็นต้น เนื่องจากผู้ลงทุนคาดหวังในผลกำไร และเป็นการลงทุนที่สะดวก ง่าย และไม่มีความซับซ้อน

กลุ่มที่ 3. ผู้มีเงินทุนและมีความรู้สูง คนร้ายจะพัฒนารูปแบบการลงทุนเป็นเรื่องการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ การลงทุนเพื่อเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงิน หรือการชักชวนให้ลงทุนซื้อขายโลหะมีค่า เช่น ทองคำ หุ้น ค่าเงิน เนื่องจากเป็นรูปแบบการลงทุนที่ถูกต้อง และมีผลตอบแทนค่อนข้างสูงให้เห็นในต่างประเทศ ประชาชนจึงหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อได้โดยรู้ไม่ทันกลโกง

พ.ต.ต.วรณันให้ข้อสังเกตความแตกต่างระหว่าง “ธุรกิจการขายตรง” กับ “แชร์ลูกโซ่” ว่า “ธุรกิจการขายตรง” จะมีค่าธรรมเนียมในการเริ่มต้นธุรกิจใช้ทุนต่ำ ส่วนใหญ่เป็นค่าสมัครและคู่มือการดำเนินงานธุรกิจเท่านั้น มีการจำหน่ายสินค้าหลากหลายชนิด มีคุณภาพสูง ยอดขายมาจากการขายสินค้า โดยรายได้และตำแหน่งในสายงานขึ้นอยู่กับการทำงานและยอดขายสินค้าและบริการ มีการจดทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรงกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และดำเนินการกิจการตามแผนธุรกิจที่แจ้งไว้ ส่วนเรื่องค่าตอบแทนสมเหตุสมผล มีสถานประกอบการที่มั่นคง

ส่วน “แชร์ลูกโซ่” มีค่า ธรรมเนียมสมัครใช้เงินลงทุนสูง ผู้สมัครต้องจ่ายค่าฝึกอบรมและบังคับซื้อสินค้าหรือบริการ ไม่สนใจการจำหน่ายสินค้าหรือบริการ มีสินค้าบังหน้า คุณภาพต่ำ ไม่ระบุแหล่งที่มาชัดเจน จ้างผลิตโดยไม่มีโรงงานของตัวเอง โดยผลกำไรส่วนใหญ่มาจากค่าสมัครสมาชิก รายได้ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกที่หามาได้ในสังกัด เรียกว่า Up Line ไม่สนใจยอดขาย เป็นการจดทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรงบังหน้ากับ สคบ. แต่ไม่ดำเนินการตามที่จดทะเบียน หรือไม่ได้มีการจดทะเบียนขออนุญาต อีกทั้งค่าตอบแทนมีอัตราสูงเกินความเป็นจริงด้วย สถานประกอบการ ไม่มั่นคงถาวร

การจะระงับยับยั้งปัญหาแชร์ลูกโซ่ให้มีประสิทธิภาพต้องดำเนินการโดยกลไกของรัฐ 2 ระดับ คือ 1.ระดับพื้นที่ มีองค์กรที่เกี่ยวข้องในกลไกป้องกันและแก้ไขปัญหาชัดเจน คือศูนย์ดำรงธรรมระดับจังหวัด อำเภอ ปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ใกล้ชิดกับปัญหามากที่สุด

2.ระดับส่วนกลาง  คือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกลไกดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาและป้องกัน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นต้น ทั้งหมดจะช่วยกันทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาแชร์ลูกโซ่ในอนาคต 

มหากาพย์ "ธุรกิจหลอกฟันเงิน"

ปรากฏการณ์แชร์ลูกโซ่ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันสร้างความเสียหายต่อสภาพเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง โดยมีประชาชนตกเป็นเหยื่อนับไม่ถ้วนและแพร่ระบาดไปทุกหย่อมหญ้าอย่างรวดเร็ว ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ไม่ได้เน้นขายของขายบริการ แต่เน้นการหาสมาชิกจำนวนมากๆ ส่วนใหญ่เป็นการระดมทุนจากประชาชนที่เป็นสมาชิก เนื่องจากได้ผลการจ่ายค่าตอบแทนที่สูงกว่าปกติ

คดีแชร์ลูกโซ่ที่มีผู้เสียหายมากที่สุดคือ คดีแชร์ลอตเตอรี่ ที่เกิดขึ้นกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูในจังหวัดต่างๆ รวม 13 แห่ง มีสัญญาซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกิดขึ้น 20 สัญญา คิดเป็นจำนวนสลากตามสัญญา 183,000 เล่มหรือ 18,300,000 ฉบับ ทั้งๆ ที่ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นนักการเมืองกับพวกที่ไปหลอกลวงสหกรณ์ต่างๆและประชาชน ไม่ได้รับโควตาสลากจากสำนักงานสลากกินแบ่ง
รัฐบาลเลยแต่ประการใดมีเพียงรายเดียวที่ได้รับโควตาสลากการกุศลจากสำนักงานสลากฯเพียงงวดละ 15 เล่ม เท่านั้น

“สหกรณ์ต่างๆ ต้องจ่ายเงินค่าจองซื้อสลากให้กับขบวนการหลอกลวงไปเป็นเงินทั้งสิ้น 7,556ล้านบาท โดยคดีนี้มีผู้เสียหายที่เข้ามาร้องทุกข์กว่า 1,500 รายมูลค่าความเสียหายมากกว่า8,000 ล้านบาท”

คดีแชร์ข้าวสาร เกิดขึ้นช่วงปี 2550 กระจายไปทั่วประเทศเจ้าหน้าที่ฟ้องดำเนินคดีกว่า 6 คดีมีผู้เสียหายรวม 2,100 ราย แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้เสียหายจากแชร์ข้าวสารมีมากกว่า 5 หมื่นราย แต่มีกระบวนการขัดขวาง ข่มขู่ คุกคามผู้เสียหายที่จะเข้าพบพนักงาน
สอบสวน ประกอบกับผู้เสียหายบางรายเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคมในภาคธุรกิจ เกรงว่าจะส่งผลกระทบกับชื่อเสียงและธุรกิจของตน จึงไม่ประสงค์จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี แชร์ข้าวสารสร้างความเสียหายกว่า 538 ล้านบาท มีผู้ถูกดำเนินคดี71 ราย

แชร์หลอกลวงให้ประชาชนนำเงินไปลงทุนผ่านอินเทอร์เน็ตในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือเงินยูโร เงินปอนด์ และเงินสกุลอื่นๆ ซึ่งเป็นการหลอกลวงที่อันตรายเพราะประชาชนไม่มีโอกาสได้ทราบเลยว่าบริษัทดังกล่าวได้ประกอบธุรกิจจริงหรือไม่ โดยสืบสวนพบว่าไม่มีการทำธุรกิจใดๆเป็นเพียงการนำเงินลงทุนจากสมาชิกใหม่ไปจ่ายหมุนเวียนให้กับผู้ลงทุนรายเดิมเท่านั้น หรือที่เรียกกันว่า มันนี่เกม มีคดีเกิดขึ้นจำนวน 3 คดี มีผู้เสียหาย 320ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 80 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาถูกจับกุมดำเนินคดี18 ราย

คดีแชร์ก๋วยเตี๋ยว อ้างการสร้างรถเพื่อขายก๋วยเตี๋ยวทั้งที่จริงไม่มีการขาย หรือทำรถขึ้นมาหลอกเพียงไม่กี่คัน เพื่อให้เห็นว่ามีการดำเนินกิจการ ชวนให้ประชาชนหลงเชื่อ มีประชาชนต้องตกเป็นเหยื่อกว่า 1,054 ราย สร้างความเสียหายไว้กว่า 223 ล้านบาทสามารถตามจับกุมผู้กระทำผิดได้7 ราย

คดีแชร์ยางพารา ซึ่งเป็นลักษณะการหลอกให้ลงทุนเก็งกำไรราคายางในขณะนั้น เช่นราคาในขณะนี้ 80 บาท หากซื้อตอนนี้ในอนาคตจะสามารถขายราคาได้ 90 บาท ช่วงแรกผู้ร่วมลงทุนจะได้กำไรจากต้นทุนที่ลงไป จึงเป็นแรงดึงดูดใจให้เกิดการร่วมลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ คดีแชร์ยางพาราระบาดในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและกระบี่ มีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า2,000 ราย มูลค่าความเสียหาย 440 ล้านบาท มีผู้ต้องหา 14 ราย

ล่าสุด คดีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน ของบริษัท ยูฟัน นั้น หลังจากมีผู้สมัครเป็นสมาชิกแล้วก็จะได้รับเงินสกุล“ยูโทเคน” แทนจำนวนเงินที่นำมาลงทุน โดยเงินสกุลดังกล่าวบริษัทได้กำหนดขึ้นมา เพื่อใช้ซื้อ-ขายสินค้าระหว่างสมาชิกด้วยกัน และจะมีการซื้อ-ขายกันในระบบอีคอมเมิร์ซเท่านั้น โดยผู้ที่ถือเงินสกุลดังกล่าวไว้ บริษัทอ้างว่าสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดจริงในมูลค่าสูงกว่า ทำให้มีคนหลง
เชื่อไปลงทุนกับบริษัทกว่า 1.2 แสนราย มูลค่าความเสียหายกว่า3.8 หมื่นล้านบาท

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ อดีตผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษดีเอสไอ มือปราบแชร์ลูกโซ่ ระบุว่า รูปแบบของแชร์ลูกโซ่เน้นการหาสมาชิกเพิ่มเรื่อยๆ มีหัวหน้าทีมมีการให้โอนเงินเข้าไปร่วมลงทุนส่วนแผนการตลาดต่างๆ ก็จะมีค่าตอบแทนสูงเพื่อเป็นจุดดึงดูดคน และนั่นคือจุดอ่อนที่ประชาชนหลายคนต้องพลาดตกเป็นเหยื่อ

ส่วนใหญ่เกิดจาก “ความโลภ” กับผลตอบแทนที่สูงกว่าท้องตลาดจนเกินความเป็นจริง แม้จะมีการเตือนให้ระวังการลงทุนลักษณะดังกล่าว แต่ด้วยผลกำไรคนจำนวนไม่น้อยยอมเสี่ยงลงทุนกับเงินออมที่เก็บมาตลอดทั้งชีวิตสุดท้ายต้องสูญเปล่าเพราะผลตอบแทนล่อตาล่อใจ

 

 

ขอบคุณที่มาจาก โพสต์ทูเดย์


ชำแหละ "แชร์ลูกโซ่" ธุรกิจหลอกฟันเงินชำแหละแชร์ลูกโซ่ธุรกิจหลอกฟันเงิน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

บทบาทของครู

บทบาทของครู


เปิดอ่าน 197,557 ครั้ง
ราคามาตรฐานครุภัณฑ์

ราคามาตรฐานครุภัณฑ์


เปิดอ่าน 25,494 ครั้ง
"ราชบัณฑิตยสภา"

"ราชบัณฑิตยสภา"


เปิดอ่าน 11,289 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

การจัดตั้งโรงเรียนเอกชนประเภทกวดวิชา

การจัดตั้งโรงเรียนเอกชนประเภทกวดวิชา

เปิดอ่าน 127,455 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ข้อกำหนดวินัย และการดำเนินการทางวินัย การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ข้อกำหนดวินัย และการดำเนินการทางวินัย การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เปิดอ่าน 19,691 ☕ คลิกอ่านเลย

เครดิตบูโร (Credit Bureau) คืออะไร?
เครดิตบูโร (Credit Bureau) คืออะไร?
เปิดอ่าน 26,844 ☕ คลิกอ่านเลย

เกณฑ์คุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561
เกณฑ์คุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561
เปิดอ่าน 57,693 ☕ คลิกอ่านเลย

บัญชีเงินเดือนใหม่ ต.ค.50
บัญชีเงินเดือนใหม่ ต.ค.50
เปิดอ่าน 23,657 ☕ คลิกอ่านเลย

คุณสมบัติของ คนที่ประสบความสำเร็จ (จบ)
คุณสมบัติของ คนที่ประสบความสำเร็จ (จบ)
เปิดอ่าน 10,682 ☕ คลิกอ่านเลย

เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7
เผยแพร่หลักสูตรสถานศึกษา(ฉบับปรับปรุง2560) ในรูปแบบไฟล์เวิร์ด โดยโรงเรียนบ้านฝาผนัง สพป.นครราชสีมา เขต 7
เปิดอ่าน 144,681 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง
ระวังเชื้อก่อโรคในน้ำแข็ง
เปิดอ่าน 10,412 ครั้ง

อะไร? อยู่ใน Wi-Fi
อะไร? อยู่ใน Wi-Fi
เปิดอ่าน 12,942 ครั้ง

การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล
เปิดอ่าน 13,111 ครั้ง

ดูโอ้ลูกเสือไทย ดีดกีตาร์โชว์เพลง BALADA เป๊ะมาก ๆ
ดูโอ้ลูกเสือไทย ดีดกีตาร์โชว์เพลง BALADA เป๊ะมาก ๆ
เปิดอ่าน 13,481 ครั้ง

แนวคิดการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์
แนวคิดการจัดการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์
เปิดอ่าน 95,783 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ