ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ความคงทนในการเรี

ชื่อเรื่อง การศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์

ความคงทนในการเรียนรู้ และทักษะการทำงานร่วมกัน เรื่อง ภูมิศาสตร์ประเทศไทย สำหรับ

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นายแสวง นุ่นนาแซง

ปีที่ศึกษา 2559

โรงเรียนเทพารักษ์ราชวิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ เรื่องภูมิศาสตร์ประเทศไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนจากการใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ เรื่องภูมิศาสตร์ประเทศไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) ศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ เรื่อง ภูมิศาสตร์ประเทศไทย 4) เปรียบเทียบทักษะการทำงานร่วมกันของนักเรียนที่เรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ เรื่องภูมิศาสตร์ประเทศไทย กับเกณฑ์ร้อยละ 80 และ 5) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยและทดสอบประสิทธิภาพเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนเทพารักษ์ราชวิทยาคม อำเภอเทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1

ปีการศึกษา 2559 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ เรื่องภูมิศาสตร์ประเทศไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 6 แผน ใช้เวลาในการสอนจำนวน 11 ชั่วโมง

2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 1 ชุด รวม 50 ข้อ แบบทดสอบมีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .38 – .77 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง .20 – .84 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบมีค่าเท่ากับ 0.79 3) แบบประเมินทักษะการทำงานร่วมกัน และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ เป็นแบบสอบถามปลายปิดแบบมาตรประเมินค่า จำนวน 17 ข้อ และแบบสอบถามปลายเปิดจำนวน 1 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาประสิทธิภาพด้วยค่า E1/E2 การทดสอบที (t-test) ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า 1) ประสิทธิภาพแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ เรื่อง ภูมิศาสตร์ประเทศไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในการนำไปใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่างมีค่าประสิทธิภาพ 81.65/80.80 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ เรื่อง ภูมิศาสตร์ประเทศไทย สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนด้วยแผนการจัดการการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ เรื่อง ภูมิศาสตร์ประเทศไทย มีค่าคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 40.40 คิดเป็นร้อยละ 80.80 จากนั้นเว้นระยะไป 2 สัปดาห์หลังการทดลองแล้วทดสอบอีกครั้งพบว่า มีค่าคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 41.23 คิดเป็นร้อยละ 82.47 และเมื่อเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 หลังการทดลอง 2 สัปดาห์พบว่า คะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียนไม่แตกต่างกันเมื่อกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ทักษะการทำงานร่วมกันของนักเรียนหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ มีค่าคะแนนร้อยละอยู่ในระดับผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 และ 5) นักเรียนมีความพึงพอใจการเรียนแบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์ในระดับมากที่สุด ( = 4.51, S.D.=0.51)

คำสำคัญ : แผนการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิคจิกซอว์/ ภูมิศาสตร์ประเทศไทย

โพสต์โดย แหวง : [2 ส.ค. 2560 เวลา 20:01 น.]
อ่าน [4854] ไอพี : 101.51.82.98
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,930 ครั้ง
ประโยชน์ของ "กล้วยหอมทอง" ที่มีต่อสุขภาพ
ประโยชน์ของ "กล้วยหอมทอง" ที่มีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 10,649 ครั้ง
ไม่อยากเป็นผู้หญิง กลิ่นตัวแรง
ไม่อยากเป็นผู้หญิง กลิ่นตัวแรง

เปิดอ่าน 10,475 ครั้ง
น้ำซุป เมนูเด็ดรักษาสุขภาพ
น้ำซุป เมนูเด็ดรักษาสุขภาพ

เปิดอ่าน 9,359 ครั้ง
อายุขัยชายเกือบไล่ทันหญิง เพราะปรับเปลี่ยนนิสัยการกินอยู่เสียใหม่
อายุขัยชายเกือบไล่ทันหญิง เพราะปรับเปลี่ยนนิสัยการกินอยู่เสียใหม่

เปิดอ่าน 13,740 ครั้ง
คลิป การจอดรถสุดเกรียน ชนิดเทพอยากเอามือปิดหน้า
คลิป การจอดรถสุดเกรียน ชนิดเทพอยากเอามือปิดหน้า

เปิดอ่าน 25,797 ครั้ง
The 90/90 Standard
The 90/90 Standard

เปิดอ่าน 10,683 ครั้ง
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล
ปรับโฉมคนทำงาน ด้วยความสามารถด้านการเชื่อมต่อและระบบอัจฉริยะในยุคดิจิทัล

เปิดอ่าน 11,971 ครั้ง
ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจากไททานิค
ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจากไททานิค

เปิดอ่าน 11,948 ครั้ง
  อยู่ใกล้ถนนใหญ่ เสี่ยงภัยรูมาทอยด์
อยู่ใกล้ถนนใหญ่ เสี่ยงภัยรูมาทอยด์

เปิดอ่าน 19,383 ครั้ง
ชวนงดเหล้า..เข้าพรรษา
ชวนงดเหล้า..เข้าพรรษา

เปิดอ่าน 43,228 ครั้ง
5 ข้อห้าม ในการล้างรถ
5 ข้อห้าม ในการล้างรถ

เปิดอ่าน 12,207 ครั้ง
"เมตา" แนะ 5 เคล็ดลับป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพทางออนไลน์
"เมตา" แนะ 5 เคล็ดลับป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพทางออนไลน์

เปิดอ่าน 291,918 ครั้ง
รายการคำทับศัพท์รวบรวมจากการสะกดตามราชบัณฑิตยสถาน
รายการคำทับศัพท์รวบรวมจากการสะกดตามราชบัณฑิตยสถาน

เปิดอ่าน 13,255 ครั้ง
วีดิโอสอนวิธีการดูธนบัตรปลอม
วีดิโอสอนวิธีการดูธนบัตรปลอม

เปิดอ่าน 16,323 ครั้ง
6 ข้อดีของการพาลูกไปที่ทำงาน
6 ข้อดีของการพาลูกไปที่ทำงาน

เปิดอ่าน 85,605 ครั้ง
ประเภทของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ประเภทของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
เปิดอ่าน 9,612 ครั้ง
ซูฮก! ครูมะกันพิการแขน ใช้เท้าต่างมือสอนนักเรียน
ซูฮก! ครูมะกันพิการแขน ใช้เท้าต่างมือสอนนักเรียน
เปิดอ่าน 17,589 ครั้ง
เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 6 ใช้ google เพื่อช่วยยกระดับภาษาอังกฤษ
เทคนิคไร้สาระกะอีเบย์ 6 ใช้ google เพื่อช่วยยกระดับภาษาอังกฤษ
เปิดอ่าน 13,319 ครั้ง
อยากหน้าเด็ก สดใส! สธ.ชวนนั่ง"สมาธิ" ยาอายุวัฒนะสุขภาพกายและใจ
อยากหน้าเด็ก สดใส! สธ.ชวนนั่ง"สมาธิ" ยาอายุวัฒนะสุขภาพกายและใจ
เปิดอ่าน 23,899 ครั้ง
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ