ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการทำโครงงาน
เรื่อง การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ผู้ศึกษาค้นคว้า กวินตรา ไหมเจริญ
สถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 วัดประตูสาร สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี
อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
ปีที่ศึกษา 2559
บทคัดย่อ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการทำโครงงาน เป็นนวัตกรรมทางการศึกษารูปแบบหนึ่ง
ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า ลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง โดยมีครูเป็นผู้คอยแนะนำ
เมื่อผู้เรียนมีปัญหา เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็น ฝึกการตัดสินใจ แสวงหาความรู้
ด้วยตนเอง ฝึกให้ผู้เรียนรู้จักเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อตนเอง
และสังคม สร้างความภูมิใจให้กับผู้เรียนซึ่งสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียน ตลอดจนพัฒนาทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม นอกจากนี้
ชุดกิจกรรมยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ครูดำเนินการสอนเป็นไปตามลำดับขั้นตอน ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ในระยะเวลาสั้น ทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพสูงขึ้น การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย
1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการทำโครงงาน เรื่อง การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการทำโครงงาน เรื่อง การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการทำโครงงาน เรื่อง การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนเทศบาล 1
วัดประตูสาร สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 1 ห้อง จำนวน 33 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการทำโครงงาน เรื่อง การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 8 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
จำนวน 8 แผน ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 18 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาที่ใช้ในการทดสอบ
ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ
3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าความยากง่าย (p) ตั้งแต่ 0.31 ถึง 0.74 มีค่าอำนาจจำแนก (r)
ตั้งแต่ 0.29 ถึง 0.70 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.87 และ 4) แบบวัดความพึงพอใจ
ของนักเรียนจำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy) ตั้งแต่ 0.50 0.79 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (α) เท่ากับ 0.65 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้ t test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการทำโครงงาน เรื่อง การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 86.36/86.52 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการทำโครงงาน เรื่อง การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการทำโครงงาน เรื่อง การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
( = 2.75 , S.D. = 0.75)
โดยสรุป การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบการทำโครงงาน เรื่อง การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่เชื่อถือและยอมรับได้ สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนและใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีสำหรับครู และผู้เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษา นำไปปรับปรุง แก้ไข ประยุกต์ใช้ ซึ่งครูผู้สอนสามารถนำไปใช้ในการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีและเนื้อหาอื่นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น