ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้นักเรียนจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนหนองเรือวิทยา อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น จำนวน 41 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา แบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ คือ แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดของทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ จำนวน 12 แผน 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบประเมินผลด้านความรู้ เป็นแบบฟอร์มที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นเพื่อประเมินการทำใบกิจกรรมและแบบฝึกเสริมทักษะ แบบประเมินผลการปฏิบัติงานกลุ่ม เป็นแบบฟอร์มบันทึกการสังเกตการปฏิบัติงานกลุ่มของนักเรียน ใช้ประเมินทักษะกระบวนการ แบบประเมินด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นแบบฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อบันทึกพฤติกรรมของนักเรียนด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ที่เกิดขึ้นระหว่างดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอน แบบบันทึกผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นแบบฟอร์มที่สร้างขึ้นสำหรับบันทึกผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และแบบทดสอบย่อยท้ายวงจร มี 3 ชุด ชุดละ 20 ข้อ (ซึ่งมีการวิเคราะห์คุณภาพของข้อสอบ และคัดเลือกข้อสอบที่มี ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ตั้งแต่ 0.6 ขึ้นไป ค่าความยากง่ายของข้อสอบอยู่ในช่วง 0.20 - 0.80 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 ขึ้นไป ค่าความเชื่อมั่นฉบับที่ 1 เท่ากับ 0.90 ฉบับที่ 2 เท่ากับ 0.92 และฉบับที่ 3 เท่ากับ 0.93) 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิผลการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ (ซึ่งมีการวิเคราะห์คุณภาพของข้อสอบ และคัดเลือกข้อสอบที่มี ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ตั้งแต่ 0.6 ขึ้นไป ค่าความยากง่ายของข้อสอบอยู่ในช่วง 0.20 - 0.80 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 ขึ้นไป ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ เท่ากับ 0.94)

การศึกษาครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยปฏิบัติการซึ่งมีวงจรปฏิบัติการ 3 วงจรดังนี้ วงจรปฏิบัติการที่ 1 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 - 6 วงจรปฏิบัติการที่ 2 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 - 9 และวงจรปฏิบัติการที่ 3 ประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 - 12 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้น ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้ศึกษาได้ทำการบันทึกผลการปฏิบัติแล้วนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาสรุปหาข้อบกพร่องและแนวทางแก้ไข นำไปปรับปรุงแผนการปฏิบัติการในวงจรต่อไป การดำเนินการศึกษาได้ผลดังต่อไปนี้

1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ โดยมีหลักการและเป้าหมาย เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ความเข้าใจด้วยตัวนักเรียนเอง สามารถนำประสบการณ์ในชีวิตประจำวันมาสัมพันธ์กับคณิตศาสตร์ รวมถึงการช่วยเหลือกันและกันในการเรียนรู้ภายใต้บรรยากาศที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีความสามารถในการใช้กระบวนการคิดของตนเองแก้ปัญหา ซึ่งรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ประกอบด้วย 5 ขั้น คือ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมของนักเรียน เป็นการแจ้งจุดประสงค์และทบทวนความรู้เดิม 2) ขั้นสอน ประกอบด้วย (1) เสนอปัญหาและไตร่ตรองรายบุคคล (2) ไตร่ตรองระดับกลุ่มย่อย (3) ไตร่ตรองระดับชั้นเรียน 3) ขั้นสรุป เป็นการสรุปมโนมติ ความรู้ หรือหลักการต่างๆ ที่ได้เรียนในแต่ละชั่วโมง 4) ขั้นฝึกทักษะและการนำไปใช้ ให้นักเรียนฝึกทักษะจากใบกิจกรรมและแบบฝึกเสริมทักษะ ให้เพื่อนในกลุ่มช่วยกันตรวจสอบคำตอบที่ถูกต้องจากบัตรเฉลย 5) ขั้นประเมินผล เป็นการตรวจสอบระดับความรู้ของนักเรียนจากการทำใบกิจกรรมและ แบบฝึกเสริมทักษะ ว่ามีความรู้ความสามารถตามเกณฑ์ที่ได้ตั้งไว้หรือไม่

2. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ของ Underhill (1991) เป็นการจัดกิจกรรมที่เน้นให้นักเรียนได้เผชิญกับปัญหา ได้ลงมือปฏิบัติได้รับประสบการณ์ตรงและได้อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการและความสนใจของนักเรียนทำให้นักเรียนมีความสุข สนุกสนานกับการเรียน ทั้งยังได้รับความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเรียนอีกด้วย อย่างไรก็ตามครูควร จัดสื่อที่สามารถเร้าความสนใจนักเรียนได้ตลอดเวลา และควรกระตุ้นให้นักเรียนกล้าแสดงออก เพื่อให้การจัดกิจกรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

3. นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฏีคอนสตรัคติวิสต์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 80.25 โดยมีนักเรียน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 85.29 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไป ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

โพสต์โดย ชล : [5 ต.ค. 2560 เวลา 17:53 น.]
อ่าน [64809] ไอพี : 171.100.77.98
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,281 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา...สังคมได้อะไร ?
ปฏิรูปการศึกษา...สังคมได้อะไร ?

เปิดอ่าน 15,428 ครั้ง
วิธีคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก-ไม่ขม
วิธีคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก-ไม่ขม

เปิดอ่าน 14,117 ครั้ง
หวิดโดนรถทับ สาวลืมดึงเบรคมือ
หวิดโดนรถทับ สาวลืมดึงเบรคมือ

เปิดอ่าน 8,974 ครั้ง
ประเด็น ปัญหาธุรกิจรับจ้างทำการบ้าน
ประเด็น ปัญหาธุรกิจรับจ้างทำการบ้าน

เปิดอ่าน 13,064 ครั้ง
การปฏิรูปการศึกษาไทยให้สำเร็จ ต้องปฏิรูปทั้งระบบ โดย เพชร เหมือนพันธุ์
การปฏิรูปการศึกษาไทยให้สำเร็จ ต้องปฏิรูปทั้งระบบ โดย เพชร เหมือนพันธุ์

เปิดอ่าน 16,749 ครั้ง
โทรภาพ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
โทรภาพ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7

เปิดอ่าน 10,197 ครั้ง
คาดคนอ้วนมี"โดปามีน"น้อย ต้นเหตุไร้ความสุข
คาดคนอ้วนมี"โดปามีน"น้อย ต้นเหตุไร้ความสุข

เปิดอ่าน 27,479 ครั้ง
การศึกษาและเปรียบเทียบสาเหตุการย้ายของข้าราชการครู
การศึกษาและเปรียบเทียบสาเหตุการย้ายของข้าราชการครู

เปิดอ่าน 16,095 ครั้ง
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?
เมื่อฝรั่งขับรถเจอด่านตำรวจ จะเป็นยังไง ?

เปิดอ่าน 2,770 ครั้ง
อยากเป็นติวเตอร์ ครูสอนพิเศษหางานสอนพิเศษที่ไหนดี?
อยากเป็นติวเตอร์ ครูสอนพิเศษหางานสอนพิเศษที่ไหนดี?

เปิดอ่าน 17,919 ครั้ง
ไดร์ผมตรงอย่างมืออาชีพ
ไดร์ผมตรงอย่างมืออาชีพ

เปิดอ่าน 35,482 ครั้ง
กินเจ-มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร
กินเจ-มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร

เปิดอ่าน 11,436 ครั้ง
ลมมรสุม โดย นาวาเอกเจริญ เจริญรัชตภาคย์
ลมมรสุม โดย นาวาเอกเจริญ เจริญรัชตภาคย์

เปิดอ่าน 80,448 ครั้ง
ครูไทย 4.0 ตอนที่ 1 : โดย ดิเรก พรสีมา อดีตประธานกรรมการคุรุสภา
ครูไทย 4.0 ตอนที่ 1 : โดย ดิเรก พรสีมา อดีตประธานกรรมการคุรุสภา

เปิดอ่าน 15,086 ครั้ง
พจนานุกรมตัวชี้วัดการประเมินผลการจัดการศึกษาของประเทศ (KPI Dictionary for Thai Education Evaluation)
พจนานุกรมตัวชี้วัดการประเมินผลการจัดการศึกษาของประเทศ (KPI Dictionary for Thai Education Evaluation)

เปิดอ่าน 23,308 ครั้ง
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ
อ่านหนังสือแล้วง่วง ทำไงดี มาทางนี้ซิ เรามีคำตอบ
เปิดอ่าน 24,868 ครั้ง
มารู้จัก nano sim ...ซิมแบบใหม่ใน iPhone 5
มารู้จัก nano sim ...ซิมแบบใหม่ใน iPhone 5
เปิดอ่าน 11,808 ครั้ง
"แบคทีเรีย" ลดพุงได้จริงหรือ?
"แบคทีเรีย" ลดพุงได้จริงหรือ?
เปิดอ่าน 24,144 ครั้ง
ตัวหนังสือไทยต่างๆ นอกราชอาณาจักรไทย
ตัวหนังสือไทยต่างๆ นอกราชอาณาจักรไทย
เปิดอ่าน 26,652 ครั้ง
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ