ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการให้คำปรึกษากลุ่มเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการเรียน วิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนชุมชนป้อมเพชร เทศบา

บทคัดย่อ

ชื่อรายงาน การพัฒนารูปแบบการให้คำปรึกษากลุ่มเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการเรียน

วิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนชุมชนป้อมเพชร เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา

ผู้วิจัย นางศิริวรรณ เหมะจันทร ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนชุมชนป้อมเพชร

ปีที่ศึกษา 2560

การวิจัยนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาลักษณะแรงจูงใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ตอนปลาย 2) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 3) เพื่อพัฒนารูปแบบการให้คำปรึกษากลุ่มเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ 4) เพื่อเปรียบเทียบแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการให้คำปรึกษากลุ่ม ก่อนการทดลอง หลังการทดลอง และหลังการติดตามผล และ 5) เพื่อเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการให้คำปรึกษากลุ่มกับนักเรียนกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับการให้คำปรึกษากลุ่มก่อนการทดลอง หลังการทดลองและหลังการติดตามผล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาองค์ประกอบแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนชุมชนป้อมเพชร ซึ่งได้มาจากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน จำนวน 240 คน และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองรูปแบบการให้คำปรึกษากลุ่ม เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนชุมชนป้อมเพชร ที่มีคะแนนแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษจากผู้ที่ได้คะแนนน้อยที่สุดขึ้นมาตามลำดับ และสมัครใจเข้ารับการให้คำปรึกษา จำนวน 16 คน แล้วสุ่มอย่างง่ายโดยวิธีการจับฉลากเป็นคู่ตามคะแนนแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ เป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมกลุ่มละ 8 คน โดยกลุ่มทดลอง ได้รับการให้คำปรึกษากลุ่ม ในขณะที่กลุ่มควบคุมไม่ได้รับการให้คำปรึกษากลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ รูปแบบการให้คำปรึกษากลุ่มเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ และแบบสอบถามแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .27 – .74 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .93

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนชุมชนป้อมเพชร มีแรงจูงใจในการเรียนวิชา

ภาษาอังกฤษโดยรวมอยู่ในระดับสูงและเมื่อพิจารณาตามลักษณะของแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษอังกฤษเป็นรายด้าน พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมีแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ด้านการตั้งเป้าหมายในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ด้านความสนใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ และด้านความพยายามและอดทนในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ อยู่ในระดับสูง สำหรับความต้องการมีความสามารถในการเรียนภาษาอังกฤษ และด้านความเชื่อมั่นในการเรียนอยู่ในระดับปานกลาง

2. การศึกษาองค์ประกอบของพฤติกรรมด้านแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ พบว่า

แรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ การตั้งเป้าหมายในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ความสนใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ความเชื่อมั่นในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ความต้องการมีความสามารถในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษและความพยายามและอดทนในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยองค์ประกอบแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษมีความพอดีกับข้อมูลเชิงประจักษ์ มีน้ำหนักองค์ประกอบขององค์ประกอบทั้ง 5ประกอบ อยู่ในเกณฑ์สูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. รูปแบบการให้คำปรึกษากลุ่มเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ

ประกอบด้วย 3 ขั้น ตอน ได้แก่ ขั้นเริ่มต้นการให้คำปรึกษา ขั้นดำเนินการให้คำปรึกษา และขั้นยุติการให้คำปรึกษาโดยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีและเทคนิคการให้คำปรึกษากลุ่มเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ

4. ผลของการใช้รูปแบบการให้คำปรึกษากลุ่มเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการเรียนวิชา

ภาษาอังกฤษโดยเปรียบเทียบแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายก่อนการทดลอง หลังการทดลอง และหลังการติดตามผล พบว่า

4.1 การเปรียบเทียบแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น

มัธยมศึกษาตอนปลายกลุ่มทดลองที่ได้รับการให้คำปรึกษากลุ่มเพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษก่อนการทดลอง หลังการทดลอง และหลังการติดตามผล

4.1.1 นักเรียนกลุ่มทดลอง มีคะแนนแรงจูงใจในการเรียนวิชา

ภาษาอังกฤษโดยรวม หลังการทดลองกับก่อนการทดลอง และก่อนการทดลองกับหลังการติดตามผล แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนคะแนนแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษหลังการทดลองกับหลังการติดตามผลไม่แตกต่างกัน

4.1.2 นักเรียนกลุ่มทดลอง มีคะแนนแรงจูงใจในการเรียนวิชา

ภาษาอังกฤษในด้านความสนใจในการเรียน ความเชื่อมั่นในตนเอง ความต้องการมีความสามารถและความพยายามและอดทนในการเรียนหลังการทดลองกับก่อนการทดลอง และก่อนการทดลองกับหลังการติดตามผล แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านการตั้งเป้าหมายในการเรียน มีคะแนนเฉลี่ยแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่แตกต่างกัน สำหรับคะแนนแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษในแต่ละองค์ประกอบ หลังการทดลองกับหลังการติดตามผล ไม่แตกต่างกัน

4.2 การเปรียบเทียบแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น

มัธยมศึกษาตอนปลายระหว่างกลุ่มทดลองที่ได้รับการให้คำปรึกษากลุ่ม และกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับการให้คำปรึกษากลุ่ม ก่อนการทดลอง หลังการทดลอง และหลังการติดตามผล

4.2.1 ก่อนการทดลอง แรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษโดยรวมและ

รายองค์ประกอบระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม ไม่แตกต่างกัน

4.2.2 หลังการทดลอง แรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษโดยรวมของ

นักเรียนกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณารายองค์ประกอบ พบว่า กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ด้านความสนใจในการเรียน ความต้องการมีความสามารถและความพยายามและอดทนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านการตั้งเป้าหมายในการเรียนและด้านความเชื่อมั่นในตนเองในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ทั้งสองกลุ่มมีแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่แตกต่างกัน

4.2.3 หลังการติดตามผล แรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษโดยรวม

ของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณารายองค์ประกอบ พบว่า กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ด้านความสนใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ และด้านความต้องการมีความสามารถในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านการตั้งเป้าหมายในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ความเชื่อมั่นในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ และด้านความพยายามและอดทนในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ทั้งสองกลุ่มมีแรงจูงใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษไม่แตกต่างกัน

โพสต์โดย ครูหวาน : [9 มิ.ย. 2561 เวลา 22:13 น.]
อ่าน [3959] ไอพี : 184.22.165.9
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,668 ครั้ง
การปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเทียบวุฒิการศึกษาในประเทศเเละต่างประเทศระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2560
การปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเทียบวุฒิการศึกษาในประเทศเเละต่างประเทศระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2560

เปิดอ่าน 17,525 ครั้ง
ยิงปืนขึ้นฟ้า อายุความกี่ปี ?
ยิงปืนขึ้นฟ้า อายุความกี่ปี ?

เปิดอ่าน 15,790 ครั้ง
คลิป โอบามา เต้นกังนัมสไตล์
คลิป โอบามา เต้นกังนัมสไตล์

เปิดอ่าน 16,171 ครั้ง
ตัวอย่างบริษัท ที่ไม่ควรทำงานด้วย
ตัวอย่างบริษัท ที่ไม่ควรทำงานด้วย

เปิดอ่าน 11,038 ครั้ง
วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา
วิธีแก้เมื่อลืมกินยาตามเวลา

เปิดอ่าน 33,495 ครั้ง
xDSL คืออะไร?
xDSL คืออะไร?

เปิดอ่าน 16,254 ครั้ง
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด

เปิดอ่าน 8,530 ครั้ง
  เปิดวงวิพากษ์อินเทอร์เน็ต โลกเสมือนคนยุคใหม่
เปิดวงวิพากษ์อินเทอร์เน็ต โลกเสมือนคนยุคใหม่

เปิดอ่าน 13,698 ครั้ง
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เปิดอ่าน 43,604 ครั้ง
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค
กสศ. ผลิตสื่อให้ความรู้เรื่องโควิด-19 ฉบับภาษาถิ่น 4 ภาค

เปิดอ่าน 4,251 ครั้ง
สมาร์ทบอร์ด คืออะไร ข้อควรรู้ที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง
สมาร์ทบอร์ด คืออะไร ข้อควรรู้ที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

เปิดอ่าน 13,987 ครั้ง
อาหาร 10 อย่างที่ควรมีไว้ในตู้เย็น
อาหาร 10 อย่างที่ควรมีไว้ในตู้เย็น

เปิดอ่าน 12,454 ครั้ง
คิดเอาเองว่าเครียด ร้ายหนักกว่าเครียดจริง
คิดเอาเองว่าเครียด ร้ายหนักกว่าเครียดจริง

เปิดอ่าน 44,814 ครั้ง
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วย มาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.2556
ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วย มาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.2556

เปิดอ่าน 10,062 ครั้ง
พบ ยีน ต้นเหตุชายโตเร็วกว่าหญิง แต่ส่งผลอายุขัยสั้นกว่า!
พบ ยีน ต้นเหตุชายโตเร็วกว่าหญิง แต่ส่งผลอายุขัยสั้นกว่า!

เปิดอ่าน 17,302 ครั้ง
eco car เทรนด์ใหม่ รถเล็ก ประหยัดพลังงาน
eco car เทรนด์ใหม่ รถเล็ก ประหยัดพลังงาน
เปิดอ่าน 140,327 ครั้ง
การทำงานของเอนไซม์
การทำงานของเอนไซม์
เปิดอ่าน 21,105 ครั้ง
สมรรถนะหลัก 6 ด้าน
สมรรถนะหลัก 6 ด้าน
เปิดอ่าน 40,437 ครั้ง
หลักสูตรอบรม e-Trainning ผ่านระบบ GURU online
หลักสูตรอบรม e-Trainning ผ่านระบบ GURU online
เปิดอ่าน 16,593 ครั้ง
แก้รอยสิวด้วยน้ำผึ้งและแอปเปิ้ล
แก้รอยสิวด้วยน้ำผึ้งและแอปเปิ้ล

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ