ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D)

โดยการประยุกต์ใช้เทคนิคการรวบรวมข้อมูลแบบผสานวิธี (Mixed-Method Methodology)

มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี

ที่ 6ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 2) เพื่อประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะ คือ 2.1) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาก่อนเรียนและหลังเรียน2.2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาก่อนเรียนและหลังเรียน และ2.3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ที่มีต่อการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านสมสนุก อำเภอเมือง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 18 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดความสามารถการแก้ปัญหาและแบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและร้อยละ ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Samples)

ผลการวิจัย พบว่า

1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิด

แก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6มีประสิทธิภาพกระบวนการเท่ากับ 86.44

และประสิทธิภาพผลลัพธ์ เท่ากับ 82.36 แสดงว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์

ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ86.44/82.36

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหาสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) กระบวนการเรียนการสอน 4) การวัดผลและประเมินผล

ขั้นตอนการเรียนการสอน มี 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นการเตรียมก่อนการเรียนการสอน ขั้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ขั้นการวัดผลประเมินผล กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบประกอบด้วย 9 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 รู้เรื่องโครงงาน ขั้นที่ 2 ประสานความคิด ขั้นที่ 3 เนรมิตคำตอบ ขั้นที่ 4 ประกอบวิธีการ ขั้นที่ 5 ลงงานปฏิบัติ ขั้นที่ 6 เห็นชัดความจริง ขั้นที่ 7 เขียนสิ่งที่ทำ ขั้นที่ 8 เพื่อนำแสดง ขั้นที่ 9 เห็นแจ้งทั่วกัน

3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ปรากฏดังนี้

3.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์มีความสามารถการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.3 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้โครงงานวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดแก้ปัญหา มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ลาวัลย์ เปลี่ยนรัมย์ : [16 มิ.ย. 2561 เวลา 07:58 น.]
อ่าน [3158] ไอพี : 223.205.232.189
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,353 ครั้ง
บรรยากาศ (ATMOSPHERE)
บรรยากาศ (ATMOSPHERE)

เปิดอ่าน 17,631 ครั้ง
ฮาอึแตก! คลิปชายเปลือยออกจากห้องในโรงแรม แต่ประตูห้องดันล็อกอัตโนมัติ เป็นท่านจะทำยังไง
ฮาอึแตก! คลิปชายเปลือยออกจากห้องในโรงแรม แต่ประตูห้องดันล็อกอัตโนมัติ เป็นท่านจะทำยังไง

เปิดอ่าน 9,452 ครั้ง
[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"
[คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"

เปิดอ่าน 15,898 ครั้ง
การรักษาโรคตาแห้ง
การรักษาโรคตาแห้ง

เปิดอ่าน 11,486 ครั้ง
ไมโครซอฟท์ พร้อมเปิดตัว วินโดวส์ 7
ไมโครซอฟท์ พร้อมเปิดตัว วินโดวส์ 7

เปิดอ่าน 11,808 ครั้ง
รสชาติแบบไหนดีต่อสุขภาพ
รสชาติแบบไหนดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 19,142 ครั้ง
กฎกระทรวงการประกอบวิชาชีพควบคุม พ.ศ. 2549
กฎกระทรวงการประกอบวิชาชีพควบคุม พ.ศ. 2549

เปิดอ่าน 22,628 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2557
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2557

เปิดอ่าน 17,094 ครั้ง
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?
กินอาหารจากไมโครเวฟบ่อย ๆ อันตรายไหมนะ?

เปิดอ่าน 4,318 ครั้ง
ภาษาอีสานน่ารู้
ภาษาอีสานน่ารู้

เปิดอ่าน 30,924 ครั้ง
รับชมย้อนหลัง รายการ บ่ายนี้มีคำตอบ : ปฏิรูประบบบริหารการศึกษาใหม่หมด เด็กได้อะไร ?
รับชมย้อนหลัง รายการ บ่ายนี้มีคำตอบ : ปฏิรูประบบบริหารการศึกษาใหม่หมด เด็กได้อะไร ?

เปิดอ่าน 3,529 ครั้ง
William Herschel (วิลเลียม เฮอร์เชล) : ผู้ค้นพบอินฟราเรด และ ดาวยูเรนัส
William Herschel (วิลเลียม เฮอร์เชล) : ผู้ค้นพบอินฟราเรด และ ดาวยูเรนัส

เปิดอ่าน 13,215 ครั้ง
อยากรู้หรือไม่...คุณแก่เร็วไป หรือ อ่อนกว่าวัย ?
อยากรู้หรือไม่...คุณแก่เร็วไป หรือ อ่อนกว่าวัย ?

เปิดอ่าน 197,663 ครั้ง
อิทธิบาท 4 ธรรมะที่ใช้ในการทำงาน สู่ความสำเร็จ
อิทธิบาท 4 ธรรมะที่ใช้ในการทำงาน สู่ความสำเร็จ

เปิดอ่าน 13,676 ครั้ง
ปรากฏการณ์ในโฟโตสเฟียร์
ปรากฏการณ์ในโฟโตสเฟียร์

เปิดอ่าน 14,314 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู พ.ศ. 2558
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู พ.ศ. 2558
เปิดอ่าน 13,779 ครั้ง
8 วิธีสร้างความมั่นคงทางการเงินก่อนถึงวัยเกษียณ
8 วิธีสร้างความมั่นคงทางการเงินก่อนถึงวัยเกษียณ
เปิดอ่าน 19,174 ครั้ง
รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี
รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี
เปิดอ่าน 16,057 ครั้ง
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?
ไขข้อสงสัย "หมึกชอต" ทรมานสัตว์หรือไม่?
เปิดอ่าน 17,250 ครั้ง
"แก่นตะวัน" สมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักพืชเพื่อสุขภาพ-เป็นพลังงานทดแทน
"แก่นตะวัน" สมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักพืชเพื่อสุขภาพ-เป็นพลังงานทดแทน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ