ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการ

คิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อผู้วิจัย : นางอรุณรัตน์ รอดสม

โรงเรียน : โรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง

ปีการศึกษา : 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ดังนี้

1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการของครูในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ดำเนินการโดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา ซึ่งแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ศึกษาลักษณะความสำคัญในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา และศึกษาความต้องการของครู ขั้นตอนที่ 2 พัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 9 แผน แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหา และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน จากนั้นตรวจสอบความเหมาะสมโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 9 ท่าน เพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ นำแผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนรู้ที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญไปทำการศึกษานำร่องแบบภาคสนาม พร้อมทั้งหาประสิทธิภาพแผนการจัดการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ นำข้อมูลที่ได้จากการศึกษานำร่องมาปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการจัดการเรียนรู้ และเครื่องมือประกอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้ให้มีความเหมาะสม ขั้นตอนที่ 3 ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 40 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Sampling unit) มาจำนวน 1 ห้องเรียน เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรม 18 ชั่วโมง ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบจำนวน 9 แผน และขั้นตอนที่ 4 ประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยพิจารณาจากความสามารถในการคิดแก้ปัญหา ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (X)

ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติทีแบบไม่อิสระ (t-test dependent)

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้

1. สภาพปัจจุบันครูผู้สอนวิทยาศาสตร์จัดการเรียนการรู้ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา อยู่ในระดับปานกลาง (X = 2.52, S.D. = .14) และมีความต้องการในการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา อยู่ในระดับมากที่สุด (X = 4.63, S.D. = .09)

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีชื่อเรียกว่า “PPAEL Model” มีองค์ประกอบดังนี้ 1) ทฤษฎี / หลักการ/ แนวคิดของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบ ประกอบด้วยขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5 ขั้น คือ (3.1) ขั้นตระหนักปัญหา (Problem Orientation) (3.2) ขั้นการกำหนดหรือระบุปัญหา (Problem Finding) (3.3) ขั้นวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา (Analysis) (3.4) ขั้นเสนอวิธีการแก้ปัญหา (Exploring Strategies) (3.5) ขั้นตรวจสอบวิธีการและประเมินผล (Looking) 4) ผลที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเรียนรู้ตามรูปแบบ และ

5) การประเมินผลรูปแบบ รูปแบบมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก (X = 4.38, S.D. = .14) และ

มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.22/80.31 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 80/80

3. ความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .01 โดยความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับมากที่สุด

(X = 4.51, S.D. = .10)

โพสต์โดย เธียร : [8 ส.ค. 2561 เวลา 08:04 น.]
อ่าน [102429] ไอพี : 118.175.248.10
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,354 ครั้ง
กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดวาง ตำแหน่งของเตียง
กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดวาง ตำแหน่งของเตียง

เปิดอ่าน 20,558 ครั้ง
ดูกันชัดๆ ค่าเทอมหลักแสน โรงเรียนอินเตอร์
ดูกันชัดๆ ค่าเทอมหลักแสน โรงเรียนอินเตอร์

เปิดอ่าน 20,780 ครั้ง
อวสาน อ.ก.ค.ศ. โดย อดิศร เนาวนนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
อวสาน อ.ก.ค.ศ. โดย อดิศร เนาวนนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

เปิดอ่าน 28,090 ครั้ง
ประกาศ
ประกาศ

เปิดอ่าน 30,398 ครั้ง
"ข้าว" ในสมัยพุทธกาล
"ข้าว" ในสมัยพุทธกาล

เปิดอ่าน 12,222 ครั้ง
น้ำคั้นหัวบีทรู้ท ช่วยลดความดันได้ชัวร์
น้ำคั้นหัวบีทรู้ท ช่วยลดความดันได้ชัวร์

เปิดอ่าน 27,046 ครั้ง
สรภัญตารางธาตุ
สรภัญตารางธาตุ

เปิดอ่าน 22,093 ครั้ง
ข้อกำหนดวินัย และการดำเนินการทางวินัย การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ข้อกำหนดวินัย และการดำเนินการทางวินัย การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เปิดอ่าน 22,296 ครั้ง
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้
เทคนิคปลดหนี้ที่ควรรู้ หมดหนี้สินไว ๆ ต้องทำตามนี้

เปิดอ่าน 19,165 ครั้ง
ประเพณีขึ้นโขนชิงธง"คลองหัววัง-พนังตัก" เมืองชุมพร
ประเพณีขึ้นโขนชิงธง"คลองหัววัง-พนังตัก" เมืองชุมพร

เปิดอ่าน 17,391 ครั้ง
เชื่อหรือไม่? ดื่มน้ำวันละ 3ลิตรแล้วหน้าเด็ก
เชื่อหรือไม่? ดื่มน้ำวันละ 3ลิตรแล้วหน้าเด็ก

เปิดอ่าน 4,438 ครั้ง
ประโยชน์ของขมิ้นชัน
ประโยชน์ของขมิ้นชัน

เปิดอ่าน 35,314 ครั้ง
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 1,077 ครั้ง
พร้อมตอบคำถาม หม้อแปลงไฟฟ้า คืออะไร มีกี่ชนิด ทำงานอย่างไร
พร้อมตอบคำถาม หม้อแปลงไฟฟ้า คืออะไร มีกี่ชนิด ทำงานอย่างไร

เปิดอ่าน 12,457 ครั้ง
รณรงค์บริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพ
รณรงค์บริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 164,101 ครั้ง
การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
เปิดอ่าน 9,492 ครั้ง
เลือกนอน ให้ถูกท่าทาง
เลือกนอน ให้ถูกท่าทาง
เปิดอ่าน 10,215 ครั้ง
กว่าจะเป็นลี กวน ยิว และกว่าจะเป็นสิงคโปร์ในปัจจุบัน
กว่าจะเป็นลี กวน ยิว และกว่าจะเป็นสิงคโปร์ในปัจจุบัน
เปิดอ่าน 17,340 ครั้ง
พสกนิกรแชร์คลิปประทับใจ "สมเด็จพระเทพฯ" ทรงกวักพระหัตถ์เรียกบัณฑิต กลับมารับปริญญา หลังปริ
พสกนิกรแชร์คลิปประทับใจ "สมเด็จพระเทพฯ" ทรงกวักพระหัตถ์เรียกบัณฑิต กลับมารับปริญญา หลังปริ
เปิดอ่าน 11,195 ครั้ง
วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน
วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ