ครูบ้านนอก

เจนใจ ก้อนใจจิตร. 2559. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ STAD โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชา ประวัติศาสตร์ เรื่อง บุคคลสำคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

บทคัดย่อ

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ STAD โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เป็นรูปแบบหนึ่งของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สามารถตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล นักเรียนได้เรียนรู้ตามศักยภาพของตนเอง โดยอาศัยกลุ่มความร่วมมือจากการทำงานเป็นทีม โดยมีวัตถุประสงค์ของการศึกษา 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้แบบ STAD โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชา ประวัติศาสตร์ เรื่อง บุคคลสำคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้แบบ STAD โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง บุคคลสำคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบ STAD โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชา ประวัติศาสตร์ เรื่อง บุคคลสำคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาลบ้านตูม สำนักการศึกษา เทศบาลนครขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 30 คน ได้มาโดยใช้การสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบ STAD โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชา ประวัติศาสตร์ เรื่อง และบุคคลสำคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 แผน 2) บทเรียนสำเร็จรูป วิชา ประวัติศาสตร์ เรื่อง บุคคลสำคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ เป็นข้อสอบแบบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก และ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบ STAD โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชา ประวัติศาสตร์ เรื่อง บุคคลสำคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ผลการศึกษาพบว่า

1. แผนการจัดการเรียนรู้แบบ STAD โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชา ประวัติศาสตร์ เรื่อง บุคคลสำคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.07/83.33 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้แบบ STAD โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาประวัติศาสตร์ เรื่อง บุคคลสำคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.7273 แสดงว่านักเรียนมีคะแนนหลังเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่าคะแนนก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 72.73

3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้แผนการจัดการเรียนรู้แบบ STAD โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชา ประวัติศาสตร์ เรื่อง บุคคลสำคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่า มีค่าเท่ากับ 4.78 ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด แสดงว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรม การเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄= 4.78 , S.D. = 0.41) พิจารณารายการประเมินทุกด้าน นักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.63 – 4.90

โดยสรุปการจัดการเรียนรู้แบบ STAD โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เป็นรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักทำงานเป็นทีม มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน สามารถนำความรู้และประสบการณ์ ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้

เว็บน่าสนใจ