Advertisement
Advertisement
ประมาณ ๒,๖๐๐ ปีก่อนคริสต์ศักราช จีนในยุคโบราณได้พัฒนาการออกกำลังกายอย่างหนึ่งเพื่อการรักษาโรค การออกกำลังกายดังกล่าวมีลักษณะคล้ายยิมนาสติก แต่การพัฒนากีฬายิมนาสติกอย่างแท้จริงเริ่มต้นที่กรีกและโรมัน
กรีกเป็นชนชาติแรกที่ให้ความสำคัญกับยิมนาสติก คำว่า gymnastics ก็มาจากภาษากรีก แปลว่า เปลือย มีตำนานว่าในการแข่งขันวิ่งแข่งในกีฬาโอลิมปิกสมัยนั้น มีนักกีฬาผู้หนึ่งเปลือยกายวิ่ง และสามารถเข้าเส้นชัยได้เป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากความคล่องตัวปราศจากการพันธนาการจากเครื่องนุ่งห่มต่อมาได้กลายเป็นแนวความคิดในการใช้เครื่องแต่งกายรัดรูปสำหรับกีฬาประเภทนี้
บนเกาะครีต มีภาพวาดโบราณอายุ ๒,๐๐๐ ปี บนกำแพงพระราชวังโบราณไมโนน เป็นภาพเด็กหนุ่มกระโดดตีลังกาข้ามเขาวัว ซึ่งต่อมาก็พัฒนาเป็นกีฬายิมนาสติกที่ใช้อุปกรณ์ม้ากระโดดและม้าหู
พวกสปาตาร์ที่มีรูปร่างบึกบึนแข็งแรงก็เพราะมีการฝึกวิ่งกระโดด กลิ้งตัว ไต่เชือก ซึ่งเป็นพื้นฐานของยิมนาสติก
พอสิ้นยุคความเกรียงไกรของกรีก-โรมัน การออกกำลังกายแบบยิมนาสติกก็เสื่อมความนิยมมาเป็นเวลาหลายร้อยปีก่อนที่จะกลับมาได้รับความนิยมขึ้นในเยอรมนี สวีเดน และเดนมาร์ก
ผู้บุกเบิกการเล่นกีฬายิมนาสติกสมัยใหม่ คือ นักชาตินิยมชาวเยอรมันชื่อ เฟรดริคช์ลุกวิดจาห์น ผู้ประดิษฐ์สนามฝึกยิมนาสติกกลางแจ้งแห่งหนึ่งใกล้กรุงเบอร์ลิน เมื่อปี ค.ศ. ๑๘๑๒ เครื่องมือที่เขาสร้างได้กลายเป็นพื้นฐานของยิมนาสติกในปัจจุบันคือ บาร์เดี่ยว บาร์คู่ จนเขาได้รับฉายาว่าเป็น “บิดาแห่งยิมนาสติก"
ต่อมาจาห์นต้องโทษในข้อหาล้มล้างรัฐบาล ยิมนาสติกก็กลายเป็นกีฬาต้องห้าม ต้องเล่นกันอย่างลับ ๆ และอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกก็ลดขนาดลง เพื่อสามารถใช้ฝึกในที่ร่มได้ ในเวลาต่อมาก็แพร่หลายไปในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ในระยะแรก แต่ละสโมสรที่มีการฝึกยิมนาสติกยังไม่มีมาตรฐานการฝึกที่เป็นแบบอย่างสากล จนเมื่อมีการก่อตั้งสหพันธ์ยิมนาสติกนานาชาติ ในปี ค.ศ. ๑๘๘๑ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้มีการร่างแบบแผนและกฎเกณฑ์การฝึกและให้คะแนนยิมนาสติกอย่างเป็นสากลขึ้นเป็นครั้งแรก
และในปี ค.ศ. ๑๘๙๖ ศักราชการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกก็ได้บังเกิดขึ้นที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีก และยิมนาสติกก็ได้รับเกียรติเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกีฬาที่มีการแข่งขันด้วย
“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”
Advertisement
|
เปิดอ่าน 60,223 ครั้ง |
เปิดอ่าน 30,393 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,668 ครั้ง |
เปิดอ่าน 21,665 ครั้ง |
เปิดอ่าน 18,980 ครั้ง |
เปิดอ่าน 64,474 ครั้ง |
เปิดอ่าน 40,186 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,433 ครั้ง |
เปิดอ่าน 17,437 ครั้ง |
เปิดอ่าน 72,330 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,094 ครั้ง |
เปิดอ่าน 35,429 ครั้ง |
เปิดอ่าน 33,080 ครั้ง |
เปิดอ่าน 45,888 ครั้ง |
เปิดอ่าน 20,293 ครั้ง | |
|

เปิดอ่าน 11,114 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 72,330 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 12,068 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 29,958 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 15,732 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 29,979 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 27,835 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 26,452 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 12,109 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 20,616 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 32,539 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 12,314 ครั้ง |
|
|