|
Advertisement
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม เพื่อส่งเสริม
ความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นางสาวปวีณา อินทร์ติยะ
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนารูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม เพื่อ ส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้นให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มเพื่อ ส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มเพื่อ ส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น และความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่ม เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 55 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 1 (หนองแสง) สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 จำนวน 28 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 1 (หนองแสง) สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยการพัฒนารูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 12 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานดัชนีประสิทธิผล และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างผลทดสอบการเรียนโดยใช้ t test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า ความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น เป็นทักษะที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิต และผลสำรวจความต้องการของนักเรียนและ ผู้ครูสอน มีความเห็นที่สอดคล้องกันว่า ต้องการให้การออกแบบกิจกรรมที่มีความน่าสนใจ ชวนติดตาม ผู้เรียนต้องเรียนรู้ทักษะการคิดจากตัวอย่างในการสร้างทักษะการวางแผนร่วมกัน โดยกำหนดกรอบเนื้อหาร่วมกัน
2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า รูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้น ซึ่งประกอบด้วย มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดสาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผลบันทึกหลังสอน จำนวน 12 แผน มีค่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากับ 0.92 ผลการหาประสิทธิภาพของกลุ่มทดลอง ได้ค่าประสิทธิภาพ 84.04/83.21
3. ผลการประเมินและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการสอนโดยวิธีสอนแบบกระบวนการกลุ่มเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องสถิติและความน่าจะเป็นเบื้องต้น แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
|
โพสต์โดย ดอกไม้หอม : [30 ส.ค. 2562 เวลา 06:03 น.] อ่าน [102173] ไอพี : 125.24.97.255
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 97,943 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,953 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,764 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 40,691 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,875 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 27,385 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 32,793 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,833 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,446 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 50,090 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,561 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,448 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,908 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 19,251 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 21,368 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 10,712 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,203 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,312 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 4,122 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,595 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|