ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน โดยใช้รูปแบบการการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการการเรียนการสอน

เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ที่กำลังศึกษาใน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านในเมือง จำนวน 39 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบการการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 5 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อส่งเสริมความสามารถ

ในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบวัดทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ แบบประเมินทักษะปฏิบัติด้านความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ

กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหา ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ สถิติทดสอบที (t- test)

ผลการวิจัย พบว่า

1. รูปแบบการการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ดำเนินการพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพ มีชื่อเรียกว่า “PANIPA Model” มีองค์ประกอบ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระหลัก สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน กระบวนการเรียนการสอนมี 6 ขั้นตอน คือ 1)ขั้นเตรียมการและสร้างความสนใจ (Prepare and Engagement: P) 2) ขั้นกระตุ้นให้สำรวจและค้นหา (Activate Exploration: A) 3) ขั้นต้องการเสริมสร้างความรู้ (Needs Enhancement : N) 4) ขั้นการแนะนำและนำเสนอ (Introduction and Present : I) 5) ขั้นกระบวนการขยายความรู้ (Process Elaboration : P) 6) ขั้นประเมินผล (Assessment : A) โดยที่รูปแบบการการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้นมานี้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.71/83.42 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

2. ความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ที่เรียนด้วยรูปแบบการการเรียนการสอน ก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน โดยใช้รูปแบบการการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นักเรียนมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหา อย่างมีวิจารณญาณ ในขณะระหว่างเรียน และหลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ที่ระดับ .01

3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อรูปแบบการการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

( = 4.58, S.D. = 0.52) โดยนักเรียนพึงพอใจต่อการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ เมื่อแยกรายด้านในภาพรวมด้านความสามารถด้านตัวครูผู้สอน นักเรียนพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56, S.D. = 0.55) ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน นักเรียนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ( = 4.55, S.D. = 0.52) ด้านการวัดและประเมินผล นักเรียนพึงพอใจในระดับมากที่สุด ( = 4.55, S.D. = 0.50) และในภาพรวมด้านประโยชน์ของรูปแบบการเรียนการสอน นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.64, S.D. = 0.52) ซึ่งในด้านตัวครูผู้สอน ครูอธิบายให้ความรู้อย่างชัดเจน จัดบรรยากาศในห้องเรียนเหมาะสมกับสภาพกิจกรรม มีเนื้อหา และกิจกรรมในการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม มีการวัดผลประเมินผลให้นักเรียนได้ทราบถึงความก้าวหน้าในการเรียน และนักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเอง และร่วมกันเรียนรู้กับผู้อื่น นอกจากนี้นักเรียนได้ฝึกความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ และสรุปความรู้เดิมเชื่อมโยงความรู้ใหม่ ให้เป็นประโยชน์ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

คำสำคัญ : รูปแบบการเรียนการสอน, ความสามารถการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ

โพสต์โดย pannipa : [2 ก.ย. 2562 เวลา 11:48 น.]
อ่าน [5014] ไอพี : 1.46.41.2
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,429 ครั้ง
ทำไมจึงเรียกขนมจีน
ทำไมจึงเรียกขนมจีน

เปิดอ่าน 12,043 ครั้ง
การเลี้ยง "หมูหลุม" และ การผลิต "น้ำหมักชีวภาพ"
การเลี้ยง "หมูหลุม" และ การผลิต "น้ำหมักชีวภาพ"

เปิดอ่าน 9,836 ครั้ง
ออกกำลังแบบไหน ดีกับโรคอะไร
ออกกำลังแบบไหน ดีกับโรคอะไร

เปิดอ่าน 10,722 ครั้ง
งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม
งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม

เปิดอ่าน 51,322 ครั้ง
สักวา
สักวา

เปิดอ่าน 509,584 ครั้ง
จรรยาบรรณในวิชาชีพครู
จรรยาบรรณในวิชาชีพครู

เปิดอ่าน 50,645 ครั้ง
‘คุณค่าของครู’ ในโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลง
‘คุณค่าของครู’ ในโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลง

เปิดอ่าน 12,236 ครั้ง
อย่ารีรอ !! เรื่องสุขภาพหน้าจอ
อย่ารีรอ !! เรื่องสุขภาพหน้าจอ

เปิดอ่าน 76,814 ครั้ง
พื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม
พื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม

เปิดอ่าน 15,007 ครั้ง
ถั่วพร้า
ถั่วพร้า

เปิดอ่าน 20,350 ครั้ง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง

เปิดอ่าน 17,385 ครั้ง
เรียนคณิต ใครว่ายาก
เรียนคณิต ใครว่ายาก

เปิดอ่าน 47,518 ครั้ง
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข

เปิดอ่าน 17,376 ครั้ง
เลือดกำเดาไหล
เลือดกำเดาไหล

เปิดอ่าน 20,152 ครั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทย

เปิดอ่าน 15,761 ครั้ง
รังนก
รังนก
เปิดอ่าน 112,745 ครั้ง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
เปิดอ่าน 47,518 ครั้ง
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข
เปิดอ่าน 10,949 ครั้ง
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น
ตูนส์ศึกษา : หลักฐานยอดฮิต ที่แสดงว่าเด็กไทยคิดเป็น
เปิดอ่าน 27,550 ครั้ง
10 เทคนิคการ ซ่อมคอมพิวเตอร์ ด้วยตัวเอง
10 เทคนิคการ ซ่อมคอมพิวเตอร์ ด้วยตัวเอง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ