การศึกษา เรื่อง แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากร สังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัญหาและสาเหตุการขาดแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรสังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ และ (2) เสนอแนะแนวทางการสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรสังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ การศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาแบบผสานวิธี (Mixed Methods Research) แบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 เป็นการศึกษาด้วยวิธีเชิงปริมาณ (Quantitative Method) โดยการใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) เป็นการศึกษาสภาพปัจจุบันและสาเหตุของการขาดแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรสังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากครูและบุคลากร สังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 35 คนและระยะที่ 2 เป็นการศึกษาด้วยวิธีการเชิงคุณภาพ (Qualitative Method) โดยการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) เป็นการศึกษาแนวทางการสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรสังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้บริหาร ข้าราชการครู ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งหมด 9 คน
ผลการศึกษา
1. ผลการศึกษาสภาพปัญหาและสาเหตุการขาดแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากร สังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ สรุปผลการศึกษาได้ดังนี้
ผลการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งจูงใจที่เป็นการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากร สังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ สิ่งจูงใจที่เป็นการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานมากอันดับที่ 1 คือ ด้านผลประโยชน์ทางอุดมคติ และด้านสภาพการอยู่ร่วมกัน พิจารณาเป็นรายข้อในด้านผลประโยชน์ทางอุดมคติ พบว่า การแสดงความสามารถให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อองค์กรมากที่สุด รองลงมา คือ มีความพอใจที่มีโอกาสทำงานช่วยเหลือครอบครัวของตนเองและผู้อื่น และมีความภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้แสดงความสามารถ และพอใจที่ได้ทำงานอย่างเต็มความสามารถ ตามลำดับพิจารณาเป็นรายข้อในด้านสภาพการอยู่ร่วมกัน พบว่า มีความพึงพอใจในการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรมากที่สุด รองลงมา คือ มีการติดต่อสัมพันธ์และมีความเข้าใจอันดีกับเพื่อนร่วมงาน และ รู้สึกว่าทุกคนในหน่วยงานมีความสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ตามลำดับ
2. ผลการศึกษาแนวทางการสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรสังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ สรุปผลได้ดังนี้
2.1 ด้านสิ่งจูงใจที่เป็นวัตถุ ผู้บริหารควรมีการให้รางวัลตอบแทนในการปฏิบัติงานที่เกิดความสำเร็จลุล่วงต่างๆ แก่ บุคลากรทุกคน เช่น การเลี้ยงอาหารครูและบุคลากรทั้งองค์กร เพราะงานที่สำเร็จลุล่วงไม่ได้เกิดจากบุคคลคนใดคนหนึ่งแต่เกิดจากทุกคนในองค์กร ทำให้เกิดกำลังใจในการทำงาน
2.2 ด้านสิ่งจูงใจที่เกี่ยวกับโอกาสของบุคคล ผู้บริหารต้องกระจายงานอย่างเท่าเทียมกัน ให้โอกาสทุกคนได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ เพื่อลดความน้อยใจในการไม่ได้รับความสำคัญจากองค์กร
2.3 ด้านสิ่งจูงใจด้านสภาพทางกายภาพที่พึ่งปรารถนา มีการดูแลบุคลากรทุกคนเหมือนกับคนในครอบครัว เช่น การไปเยี่ยมบ้าน การให้กำลังใจ พาไปศึกษาดูงานเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ควรได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน ดูแลหรือปฏิบัติงานแทนตนกรณีเมื่อมีธุระที่จำเป็นเร่งด่วนหรือเจ็บป่วย และเมื่อมีผลงานจะต้องได้รับความยอมรับและยกย่องจากผู้บริหารเสมอเพราะถือได้ว่าครูและบุคลากรผู้นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนร่วมต่อความสำเร็จของงานขององค์กร รวมถึงวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งในด้านการจัดการเรียนการสอน และงานพิเศษอื่นที่ควรมีให้เพียงพอ
2.4 ด้านผลประโยชน์ทางอุดมคติ ให้บุคลากรทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น กระตุ้นให้เกิดความรักต่อองค์กร เช่น การให้โอกาสในการเติบโตในหน้าที่การงาน และควรให้ครูและบุคลากรมีความรู้สึกมั่นใจในตำแหน่งหน้าที่การงานที่ทำ รวมถึงเชื่อใจในการประเมินผลการปฏิบัติงานว่ามีความยุติธรรม เป็นไปตามระเบียบ กฎเกณฑ์และมาตรฐานที่กำหนดไว้ ถึงแม้ว่าผลที่ได้รับตอบแทนจะน้อย
2.5 ด้านความดึงดูดใจทางสังคม มอบอำนาจให้อย่างเหมาะสม สร้างให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร รวมถึงควรมีการมอบอำนาจในการตัดสินใจบางเรื่องตามโครงสร้างและอำนาจหน้าที่เพื่อให้การดำเนินงานขององค์กรมีประสิทธิภาพ เป็นการลดความเหลื่อมล้ำ และการมอบหมายงานในแต่ละครั้งควรมีการพิจารณาถึงคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ พฤติกรรม คุณธรรมจริยธรรมของผู้ที่ได้รับมอบหมายว่าสามารถดำเนินการตามงานที่ได้รับมอบหมายได้หรือไม่
2.6 ด้านสิ่งจูงใจเกี่ยวกับสภาพการทำงานโดยปรับสภาพการทำงานให้เหมาะสมกับความสามารถของบุคคลและทัศนคติของผู้ปฏิบัติงานแต่ละคน ผู้บังคับบัญชาควรมีแนวทางในการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เป็น ระบบไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย และในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรควรให้มีการวางแผนและกำหนดเวลาให้ชัดเจน เช่น มีการวางแผนการสอน มีการแบ่งเวลาและบริหารเวลาให้ได้อย่างเหมาะสม เพื่อลดความซับซ้อนของงานและลดปริมาณของภาระงานต่างๆ มองคนหลายๆ ด้านเลือกงานให้มีความเหมาะสมกับบุคคล ควรมีการกระจายงาน
2.7 ด้านโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในการทำงานอย่างกว้างขวาง เปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับ บัญชาได้แสดงความคิดเห็นกระตุ้นให้บุคคลรู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญ
2.8 ด้านสภาพการอยู่ร่วมกัน ส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีในองค์กร ให้เกิดความรัก และให้อภัยซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยลดความขัดแย้งในการทำงาน จัดกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสามัคคี
ข้อเสนอแนะ
1. จากผลการวิจัยเรื่อง แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรสังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อพิจารณาด้านที่มีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานมากที่สุด คือ ด้านผลประโยชน์ทางอุดมคติ และด้านสภาพการอยู่ร่วมกัน ดังนั้น ผู้บริหารควรสนับสนุนให้มีการร่วมกันคิด ร่วมแก้ปัญหา ส่วนแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรสังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ ด้านสิ่งจูงใจที่เป็นวัตถุเป็นลำดับน้อยสุด ผู้บริหารจึงควรมีนโยบายเน้นการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสมสอดคล้องกัน ในเรื่องของวัสดุอุปกรณ์ การจัดอุปกรณ์ให้เอื้อต่อการเรียนรู้ตามความต้องการของครูและบุคลากร จัดสถานที่ให้สะอาดถูกสุขลักษณะ มีสัดส่วนที่ชัดเจน
2. ควรมีการศึกษาแนวทางการสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรสังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ อย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับการปฏิบัติงานในศตวรรษที่ 21
ข้อเสนอแนะในการพัฒนาครั้งต่อไป
1. ควรมีการศึกษาปัจจัยจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรสังกัด กศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ
2. ใช้รูปแบบอื่นในการศึกษาเกี่ยวกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรสังกัดกศน.อำเภอกันทรลักษ์ สำนักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ เช่น การศึกษาเฉพาะกรณี การวิจัยกึ่งทดลอง ศึกษาวิธีการเพิ่มแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากร เป็นต้น