ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร ส

การพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ

เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ

การคูณ การหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นางปาลิกา ชื่นฤทัย

ปีที่ทำวิจัย 2562

บทคัดย่อ

การดำเนินการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development)

รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถ

ในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

1. เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริม

ความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสอบถาม เรื่อง ความ

ต้องการด้านการจัดการเรียนรู้โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการ

คิดเชื่อมโยง จำนวน 25 ข้อ 2) แบบสัมภาษณ์ เรื่อง แนวทางการพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์

เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง จำนวน 7 ประเด็นคำถาม

2. เพื่อสร้างรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อส่งเสริม

ความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร สำหรับ

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์

โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน

และการบวก การลบ การคูณ การหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) คู่มือการใช้รูปแบบ

การสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง

เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นข้อสอบแบบปรนัย

ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ านวน 30 ข้อ 4) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์

เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ส าหรับ

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบอัตนัย จ านวน 4 ข้อ

3. เพื่อทดลองรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ

เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) คู่มือการใช้รูปแบบการสอน

คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง

เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร

กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ านวน 30 ข้อ 3) แบบทดสอบวัดทักษะในการคิดเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบอัตนัย จำนวน 4 ข้อ

4. เพื่อความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับของลิเคิร์ท จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการหาประสิทธิภาพ การทดสอบค่าทีและการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริม

ความสามารถในการคิดเชื่อมโยง พบว่า 1.1 การสังเคราะห์เอกสาร แนวคิด ทฤษฎีงานวิจัยที่

เกี่ยวข้องกับการสร้างรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์เพื่อส่งเสริมความสามารถการคิดเชื่อมโยง

พบว่า เรื่องที่จะนำมาพัฒนารูปแบบ คือ เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร

รายวิชาคณิตศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มี 3 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบด้านหลักการ

องค์ประกอบด้านวัตถุประสงค์ และองค์ประกอบด้านกระบวนการ องค์ประกอบด้านกระบวนการมี 5

ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 ขั้นแบ่งกลุ่ม (Separating) ขั้นที่ 2 ขั้นเรียนรู้เนื้อหา (Learning) ขั้นที่ 3 ขั้นศึกษา

หาค าตอบ (Training) ขั้นที่ 4 ขั้นตรวจสอบความเข้าใจ (Testing) และขั้นที่ 5 ขั้นให้รางวัลหรือ

ชมเชย (Prizing) 1.2 ความต้องการด้านการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบ

ร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยงโดยรวมอยู่ในระดับมาก 1.3 การวิเคราะห์

ผลการสัมภาษณ์เพื่อหาแนวทางการพัฒนาการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถ

การคิดเชื่อมโยง พบว่า ผู้ทรงคุณวุฒิให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนารูปแบบการสอน

2. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ

เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า 2.1 รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎี

การเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก

การลบ การคูณ การหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขึ้นมี 4 องค์ประกอบ

คือ องค์ประกอบด้านหลักการ องค์ประกอบด้านวัตถุประสงค์ องค์ประกอบด้านระบบสังคม โดย

องค์ประกอบด้านกระบวนการ มี 5 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 ขั้นแบ่งกลุ่ม (Separating) ขั้นที่ 2 ขั้นเรียนรู้

เนื้อหา (Learning) ขั้นที่ 3 ขั้นศึกษาหาคำตอบ (Training) ขั้นที่ 4 ขั้นตรวจสอบความเข้าใจ

(Testing) และขั้นที่ 5 ขั้นให้รางวัลหรือชมเชย (Prizing) การประเมินความเหมาะสมของร่างรูปแบบ

การสอนคณิตศาสตร์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.2 ความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้

และคู่มือการใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริม

ความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวม และรายข้อ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.3 ประสิทธิภาพ

ของรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถ

ในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในการทดลองใช้ครั้งที่ 3 มีค่าเท่ากับ 75.60/75.00 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์

ค่าประสิทธิภาพที่ก าหนดไว้คือ 75/75

3. ผลการทดลองรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ

เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า

3.1 ประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ

เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 79.29/78.82 สูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้

3.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์

โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน

และการบวก การลบ การคูณ การหาร ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่า

ก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.3 ความสามารถในการคิดเชื่อมโยงของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอน

คณิตศาสตร์โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง

เรื่อง เศษส่วน และการบวก การลบ การคูณ การหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนคณิตศาสตร์

โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดเชื่อมโยง เรื่อง เศษส่วน

และการบวก การลบ การคูณ การหาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมอยู่ใน

ระดับมาก

โพสต์โดย ปาลิกา ชื่นฤทัย : [27 ก.พ. 2564 เวลา 07:21 น.]
อ่าน [2951] ไอพี : 27.55.64.220
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 48,955 ครั้ง
ทฤษฎีบทขิองปิทาโกรัส
ทฤษฎีบทขิองปิทาโกรัส

เปิดอ่าน 17,733 ครั้ง
10 เส้นทางสุดฮอตเที่ยวไทยปี"54 ที่มาแรง
10 เส้นทางสุดฮอตเที่ยวไทยปี"54 ที่มาแรง

เปิดอ่าน 19,081 ครั้ง
การประเมินความจำเป็นในการกำหนดวัตถุประสงค์
การประเมินความจำเป็นในการกำหนดวัตถุประสงค์

เปิดอ่าน 13,526 ครั้ง
กิน "ผัก" เหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร?
กิน "ผัก" เหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร?

เปิดอ่าน 22,322 ครั้ง
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579

เปิดอ่าน 12,865 ครั้ง
10 วิธีสร้าง "บ้านสุข" ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี
10 วิธีสร้าง "บ้านสุข" ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี

เปิดอ่าน 35,615 ครั้ง
ถั่วงอกคอนโดฯ ปลูกง่ายๆ สไตล์คนเมือง
ถั่วงอกคอนโดฯ ปลูกง่ายๆ สไตล์คนเมือง

เปิดอ่าน 12,685 ครั้ง
กว่าจะเป็น เวียงจันทน์เกมส์
กว่าจะเป็น เวียงจันทน์เกมส์

เปิดอ่าน 9,371 ครั้ง
การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT)
การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT)

เปิดอ่าน 11,530 ครั้ง
การเลี้ยง "หมูหลุม" และ การผลิต "น้ำหมักชีวภาพ"
การเลี้ยง "หมูหลุม" และ การผลิต "น้ำหมักชีวภาพ"

เปิดอ่าน 14,294 ครั้ง
ชมคลิป น้องนะโม วัยแค่ 4 ขวบ สวดมนต์ยาวคล่องปร๋อ
ชมคลิป น้องนะโม วัยแค่ 4 ขวบ สวดมนต์ยาวคล่องปร๋อ

เปิดอ่าน 16,376 ครั้ง
รู้มั้ย… คุณกำลังเสี่ยง เป็นโรคอะไรอยู่
รู้มั้ย… คุณกำลังเสี่ยง เป็นโรคอะไรอยู่

เปิดอ่าน 11,805 ครั้ง
ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจากไททานิค
ผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจากไททานิค

เปิดอ่าน 11,971 ครั้ง
ไปรษณีย์ไทย ยัน แสตมป์เซเว่น ใช้ส่งจดหมายไม่ได้
ไปรษณีย์ไทย ยัน แสตมป์เซเว่น ใช้ส่งจดหมายไม่ได้

เปิดอ่าน 4,155 ครั้ง
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน

เปิดอ่าน 20,752 ครั้ง
เจ๋งอ่ะ! 20 วิธีลดน้ำหนัก ผลาญ 500 แคลอรี่ต่อวัน
เจ๋งอ่ะ! 20 วิธีลดน้ำหนัก ผลาญ 500 แคลอรี่ต่อวัน
เปิดอ่าน 12,175 ครั้ง
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
เปิดอ่าน 34,084 ครั้ง
ธนบัตรไทยรุ่นแรก
ธนบัตรไทยรุ่นแรก
เปิดอ่าน 16,200 ครั้ง
เหล็กปลอม ดูกันชัดๆ มันเป็นยังไง (ชมคลิป)
เหล็กปลอม ดูกันชัดๆ มันเป็นยังไง (ชมคลิป)
เปิดอ่าน 69,038 ครั้ง
การพัฒนาการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ภายใต้พลวัตแห่งศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนอย่างยั่งยืนของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
การพัฒนาการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ภายใต้พลวัตแห่งศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนอย่างยั่งยืนของการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ