ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง รายงานผลการประเมินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่

ผู้ประเมิน ปิฐินนท์ จันทร์รัตน์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่

ปีที่ศึกษา 2564

การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายดังนี้ 1) เพื่อประเมินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ใน 4 ด้าน คือ ด้านสภาวะแวดล้อม ด้านปัจจัยเบื้องต้น ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต และประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่

ประชากร/แหล่งข้อมูล คือ ผู้บริหาร จำนวน 3 คน ครู จำนวน 16 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน และนักเรียน จำนวน 164 คน โดยเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่ผู้รายงานสร้างขึ้น ฉบับที่ 1 แบบสอบถามการประเมินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ.91 ฉบับที่ 2 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ.83 ฉบับที่ 3 แบบสอบถามความพึงพอใจของครูที่มีต่อโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .88 ฉบับที่ 4 แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ.78 และฉบับที่ 5 แบบประเมินทักษะภาษามือไทยครูที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ.98 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการประเมินโครงการสรุปได้ดังนี้

1. การประเมินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียน โสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ในภาพรวม 4 ด้านพบว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากและผ่านเกณฑ์การประเมินทุกด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุดและด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดเท่ากัน 2 ด้าน คือด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input : I) และด้านกระบวนการ (Process) รองลงมา คือด้านสภาพแวดล้อม (Context : C) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือด้านผลผลิต (Product : P)

1.1 การประเมินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ด้านสภาพแวดล้อม(Context : C) ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีผลการประเมินอยู่ระดับในระดับมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3 ลำดับแรกได้แก่ การดำเนินงานตามโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูเป็นงานที่จำเป็นของโรงเรียน หลักการของโครงการมีความสอดคล้องกับนโยบาย วิสัยทัศน์ การจัดการศึกษาของหน่วยงานต้นสังกัด โครงการก่อให้เกิดประโยชน์ต่อนักเรียน ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด คือ การกำหนดเป้าหมาย วิธีการดำเนินการ และระยะเวลาดำเนินการมีความเหมาะสมและปฏิบัติจริงได้

1.2 การประเมินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ด้านปัจจัยเบื้องต้น (Input : I) ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีผลการประเมินอยู่ระดับในระดับมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด 2 ลำดับแรก ได้แก่ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ในการดำเนินโครงการมีเพียงพอ มีระบบการนิเทศ กำกับ ติดตามการดำเนินงานโครงการอย่างต่อเนื่อง และมีค่าเฉลี่ยเท่ากัน 3 ลำดับ คือ มีคณะกรรมการดำเนินโครงการประกอบด้วย ผู้บริหาร ครู และผู้เชี่ยวชาญ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานต้นสังกัด ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากชุมชน บุคลากร หรือหน่วยงานเอกชน ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด คือ มีบุคลากรเหมาะสม เพียงพอต่อการร่วมดำเนินการโครงการ

1.3 การประเมินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ด้านกระบวนการ (Process : P) กระบวนการ ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับในระดับมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียง 3 ลำดับแรกได้แก่ มีการศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการพัฒนา มีการประเมินผลการดำเนินโครงการ มีการดำเนินกิจกรรมที่กำหนดในโครงการตามขั้นตอนทุกกิจกรรม ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด คือ มีการจัดทำกรอบแนวคิดและกำหนดจุดพัฒนาตามสภาพปัญหาและความต้องการ

1.4 การประเมินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ (Product : P) ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับในระดับมาก ถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด เรียง 3 ลำดับแรกได้แก่ บุคลากรมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ภาษามืออเมริกัน บุคลากรมีความเข้าใจวัฒนธรรมคนหูหนวก บุคลากรมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาภาษามือไทยด้วยกระบวนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ( PLC) ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด คือ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้น

2. การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการดำเนินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับในระดับมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากัน 2 อันดับ ได้แก่ นักเรียนได้รับคำปรึกษา ดูแล ช่วยเหลือด้านการเรียนและเรื่องอื่นๆ นักเรียนและครูมีสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกัน ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด เท่ากัน 2 อันดับ ได้แก่ นักเรียนสามารถสื่อสารกับครูโดยใช้ภาษามือไทย นักเรียนเข้าใจในเนื้อหาวิชาที่ครูสอน

3. การประเมินความพึงพอใจของครูต่อการดำเนินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่

กิจกรรมที่ 1 เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของคนที่บกพร่องทางการได้ยินต่างประเทศและประวัติศาสตร์ภาษามืออเมริกัน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากัน 2 ลำดับแรกได้แก่ วิทยากรเตรียมเนื้อหาการเรียนรู้สอดคล้องกับความต้องการ ความพร้อมของอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด คือระยะเวลาในการอบรม

กิจกรรมที่ 2 เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การจัดการเรียนการสอนสำหรับคนที่บกพร่องทางการได้ยินในประเทศไทยและภาษามือไทย ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับในระดับมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด เรียง 3 ลำดับแรกได้แก่ เตรียมเนื้อหาการเรียนรู้สอดคล้องกับความต้องการ สถานที่สะอาดและมีความเหมาะสม ความพร้อมของอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด เท่ากัน 2 ลำดับ คือสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงานได้ สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่ / ถ่ายทอดแก่บุคคลอื่นได้

กิจกรรมที่ 3 เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมคนที่บกพร่องทางการได้ยิน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับในระดับมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด เรียง 3 ลำดับแรกได้แก่ เตรียมเนื้อหาการเรียนรู้สอดคล้องกับความต้องการ ความพร้อมของอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ มีทักษะการสอนคล่องแคล่วสามารถอธิบายเนื้อหาได้ถูกต้องและชัดเจน ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด คือระยะเวลาในการอบรม

กิจกรรมที่ 4 อบรมเชิงปฏิบัติการภาษามือไทย ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับในระดับน้อยถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด เรียง 3 ลำดับแรกได้แก่ วิทยากรเตรียมเนื้อหาการเรียนรู้สอดคล้องกับความต้องการ สถานที่สะอาดและมีความเหมาะสม ความพร้อมของอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด คือทักษะภาษามือไทยก่อนการเข้าร่วมโครงการ

กิจกรรมที่ 5 เสวนาวิชาการ การศึกษาวิจัยภาษามือไทย ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับในระดับมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด เรียง2 ลำดับแรกได้แก่ วิทยากรเตรียมเนื้อหาการเรียนรู้สอดคล้องกับความต้องการ ความพร้อมของอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด คือระยะเวลาในการเสวนา

กิจกรรมที่ 6 แลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาทักษะภาษามือไทยด้วยกระบวนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ( PLC) ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับในระดับมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุด เรียง 2 ลำดับแรกได้แก่ การให้คำปรึกษาแนะนำเป็นรายบุคคลระหว่างครูและผู้เชี่ยวชาญ ระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาภาษามือไทยด้วยกระบวนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด เท่ากัน 2 ลำดับ คือสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงานได้ สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่/ถ่ายทอดแก่บุคคลอื่นได้

4. การประเมินความพึงพอใจของผู้บริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานต่อการดำเนินโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษา อนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับในระดับมากถึงมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุดเรียง 3 ลำดับแรกได้แก่ วิทยากรมีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดองค์ความรู้ ครูที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับการพัฒนาทักษะภาษามือไทย ครูที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถให้คำปรึกษา ดูแล ช่วยเหลือด้านการเรียนและเรื่องอื่นๆ ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด คือระยะเวลาในการอบรมมีความเหมาะสม

5. การประเมินทักษะภาษามือไทยของครูที่มีการได้ยินที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะภาษามือไทยสำหรับครูที่มีการได้ยินโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อก่อนรับการอบรมพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับน้อย โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากัน 2 อันดับ ได้แก่ ความเข้าใจภาษามือไทยด้านเนื้อหา การแสดงภาษามือไทยถูกต้องด้านเนื้อหา ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด คือ การแสดงภาษามือไทยถูกต้องด้านองค์ประกอบของภาษามือ (ใช้ท่ามือ ตำแหน่ง การเคลื่อนไหว การพลิกหันฝ่ามือ และสีหน้าท่าทางได้ถูกต้องชัดเจน) หลังรับการอบรมพบว่า ผลการประเมินอยู่ระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ความเข้าใจภาษามือไทยด้านเนื้อหา ข้อที่มีผลการประเมินต่ำที่สุด คือการแสดงภาษามือไทยถูกต้องด้านองค์ประกอบของภาษามือ (ใช้ท่ามือ ตำแหน่ง การเคลื่อนไหว การพลิกหันฝ่ามือ และสีหน้าท่าทางได้ถูกต้องชัดเจน)

โพสต์โดย นนท์ : [24 มิ.ย. 2564 เวลา 13:42 น.]
อ่าน [65219] ไอพี : 110.171.102.6
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 13,717 ครั้ง
ดังพริบตา ช่างภาพชาวอินโดฯหน้าเหมือนโอบามา
ดังพริบตา ช่างภาพชาวอินโดฯหน้าเหมือนโอบามา

เปิดอ่าน 50,689 ครั้ง
"อยู่ไกลเขา แต่รู้ทันเขา" ภาพยนตร์สั้น วันครู ครั้งที่ 65 ประจำปี 2564
"อยู่ไกลเขา แต่รู้ทันเขา" ภาพยนตร์สั้น วันครู ครั้งที่ 65 ประจำปี 2564

เปิดอ่าน 11,348 ครั้ง
มาดูกันว่า "เกาหลีใต้" เริ่มต้นการเป็นผู้นำด้านการศึกษาโฉมใหม่ของโลกอย่างไร?
มาดูกันว่า "เกาหลีใต้" เริ่มต้นการเป็นผู้นำด้านการศึกษาโฉมใหม่ของโลกอย่างไร?

เปิดอ่าน 23,777 ครั้ง
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
"ท่าออกกำลัง" ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน

เปิดอ่าน 30,257 ครั้ง
ดนตรีบำบัด
ดนตรีบำบัด

เปิดอ่าน 13,267 ครั้ง
โรค Computer Syndrome
โรค Computer Syndrome

เปิดอ่าน 16,018 ครั้ง
วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์
วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์

เปิดอ่าน 17,631 ครั้ง
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด
กรมแพทย์แผนไทยเผย 6โรคห้ามนวด

เปิดอ่าน 13,845 ครั้ง
สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร
สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร

เปิดอ่าน 17,177 ครั้ง
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก

เปิดอ่าน 2,716 ครั้ง
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย
กรมอนามัย เผยไข่ต้มคลุกน้ำปลาสารอาหารไม่พอ เด็กวัยเรียนควรกินไข่คู่กับอาหารให้ครบหมู่หลากหลาย

เปิดอ่าน 10,359 ครั้ง
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว

เปิดอ่าน 14,749 ครั้ง
มาดามคูรี : เคมี
มาดามคูรี : เคมี

เปิดอ่าน 21,725 ครั้ง
สีเสียด
สีเสียด

เปิดอ่าน 624 ครั้ง
ข้อดีของสินทรัพย์รอการขายคืออะไร พร้อมข้อควรระวังก่อนซื้อ
ข้อดีของสินทรัพย์รอการขายคืออะไร พร้อมข้อควรระวังก่อนซื้อ

เปิดอ่าน 13,449 ครั้ง
ป้องกันกลิ่นตัว ในหน้าร้อน
ป้องกันกลิ่นตัว ในหน้าร้อน
เปิดอ่าน 17,316 ครั้ง
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal
5 ทางเลือกเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองแบบ New-Normal
เปิดอ่าน 18,040 ครั้ง
ดื่มน้ำ 8 แก้วไม่เพียงพอแล้ว
ดื่มน้ำ 8 แก้วไม่เพียงพอแล้ว
เปิดอ่าน 38,507 ครั้ง
Download คู่มือ เส้นทางครูมืออาชีพสำหรับครูผู้ช่วย
Download คู่มือ เส้นทางครูมืออาชีพสำหรับครูผู้ช่วย
เปิดอ่าน 10,431 ครั้ง
มติ ครม. เห็นชอบลงทะเบียนซิมเติมเงิน-ฟรี Wi-Fi เป็นวาระแห่งชาติ
มติ ครม. เห็นชอบลงทะเบียนซิมเติมเงิน-ฟรี Wi-Fi เป็นวาระแห่งชาติ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ