ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ GKDMAE เพื่อส่งเสริมทักษะปฏิบัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบ การจัดการเรียนรู้ GKDMAE เพื่อส่งเสริมทักษะปฏิบัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ GKDMAE เพื่อส่งเสริมทักษะปฏิบัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ GKDMAE เพื่อส่งเสริมทักษะปฏิบัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ การจัดการเรียนรู้ GKDMAE เพื่อส่งเสริมทักษะปฏิบัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดโพธาวาส) เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 36 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยมีห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ GKDMAE เพื่อส่งเสริมทักษะปฏิบัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 9 แผน 15 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 40 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น (KR-20) 0.83 4) แบบวัดทักษะปฏิบัติ โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนแบบรูบริค (Rubric Scoring) มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.91 และ 5) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน มีค่าความเชื่อมั่น ( ) 0.93 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานกลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีความเป็นอิสระต่อกัน (t-test Dependent Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการศึกษา พบว่า

1. นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ชอบเรียนกลุ่มสาระการงานอาชีพ เพราะไม่มีความถนัด ไม่มีความ สามารถทางด้านการงานอาชีพ โดยให้เหตุผลว่าต้องใช้ความละเอียด ประณีต รอบคอบ มีทักษะ ใจเย็นและ ต้องมีสมาธิ นักเรียนไม่มีทักษะการฝึกปฏิบัติ ขาดทักษะในกระบวนการทำงาน โดยเฉพาะทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม นักเรียนกล่าวว่าวิชาเรียนยาก ไม่เหมาะกับสภาพของนักเรียน ไม่มีทักษะมาก่อน และนักเรียนบางกลุ่มไม่เข้าเรียนเลย โดยคิดว่าวิชาเหล่านั้นไม่เหมาะกับตัวนักเรียน อีกทั้งอาจไม่ชอบพฤติกรรมของครูผู้สอนบางคน ทำให้เกิดทัศนคติที่ไม่ดีต่อวิชาเรียน บางกิจกรรมที่ใช้เวลาค่อนข้างมากนักเรียนไม่ได้ทำกิจกรรมด้วยตนเอง ครูจะใช้วิธีการสาธิตให้ดูเป็นส่วนใหญ่ นำไปสู่การได้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ

2. ครูผู้สอนยังใช้เทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้แบบเดิม ใช้วิธีบรรยายตามตำรา หนังสือเรียน

หรือให้นักเรียนอ่านและจดบันทึกเนื้อหาจากหนังสือเรียน นักเรียนไม่มีโอกาสได้ปฏิบัติจริง ไม่เข้าใจเนื้อหาบทเรียนที่มีขั้นตอนในการทำงานและฝึกปฏิบัติ เวลามีไม่เพียงพอในการปฏิบัติ สื่อการเรียนรู้ไม่ทันสมัย ไม่ตรงตามจุดประสงค์ของการเรียนรู้ ไม่เร้าความสนใจของนักเรียนที่จะทำให้นักเรียน มีความต้องการที่จะสืบค้นความรู้ใหม่ ๆ ทำให้นักเรียนไม่สามารถจัดลำดับขั้นตอนของการปฏิบัติงานได้ เพราะไม่ได้ลงมือปฏิบัติจริง นักเรียนไม่สามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองได้ ขาดทักษะในการปฏิบัติ ขาดทักษะด้านการคิดสร้างสรรค์ และการวางแผนในการทำงาน เกิดความเบื่อหน่ายไม่สนใจเรียนไม่ส่งงาน ขาดเจตคติที่ดีต่อการเรียน ไม่เห็นคุณค่าของทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น ไม่สามารถนำวัสดุเหลือใช้หรือวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่เห็นคุณค่าของความรู้ ที่จะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

3. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ GKDMAE เพื่อส่งเสริมทักษะปฏิบัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน

อาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1. หลักการ 2. วัตถุประสงค์ 3. กระบวนการเรียนรู้ ประกอบด้วย 3.1 ขั้นเร่งเร้าความสนใจ (Gain Attention : G) 3.2 ขั้นแสวงหาความรู้ใหม่ (Knowledge Acquisition : K) 3.3 ขั้นที่ 3 การสาธิตทักษะ (Demonstration : D) 3.4 ขั้นลงมือกระทำ (Mechanism : M) 3.5 ขั้นนำไปใช้ (Apply : A) และ 3.6 ขั้นประเมินผล (Evaluation : E) 4. ระบบสังคม และ 5. การวัดและประเมินผล

4. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ GKDMAE เพื่อส่งเสริมทักษะปฏิบัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน

อาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.85/83.40 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80

5.กผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ GKDMAE เพื่อ

ส่งเสริมทักษะปฏิบัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

6. ทักษะปฏิบัติของนักเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ GKDMAE เพื่อส่งเสริมทักษะปฏิบัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

7. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ GKDMAE เพื่อส่งเสริมทักษะปฏิบัติ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( =4.63 S.D=0.34)

โพสต์โดย เก๋ : [22 ส.ค. 2564 เวลา 18:20 น.]
อ่าน [63151] ไอพี : 184.22.159.181
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,120 ครั้ง
การกัวซาบำบัดโรค
การกัวซาบำบัดโรค

เปิดอ่าน 9,686 ครั้ง
"กับดักส้มสอดไส้ตะปู" ที่แท้มาจากประเทศ......
"กับดักส้มสอดไส้ตะปู" ที่แท้มาจากประเทศ......

เปิดอ่าน 49,978 ครั้ง
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข
6 หลักสำคัญ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กดี เก่ง มีความสุข

เปิดอ่าน 11,774 ครั้ง
ชมหรือยัง? สถานการณ์ การศึกษาไทย 2557 (The State of Thai Education 2014)
ชมหรือยัง? สถานการณ์ การศึกษาไทย 2557 (The State of Thai Education 2014)

เปิดอ่าน 65,926 ครั้ง
4 พฤติกรรม "ผู้นำ" ที่ดี
4 พฤติกรรม "ผู้นำ" ที่ดี

เปิดอ่าน 19,099 ครั้ง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557

เปิดอ่าน 21,686 ครั้ง
วันพืชมงคล พระราชพิธีพืชมงคลและจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
วันพืชมงคล พระราชพิธีพืชมงคลและจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

เปิดอ่าน 232,750 ครั้ง
ความหมายของระบบ
ความหมายของระบบ

เปิดอ่าน 56,279 ครั้ง
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร
โรคหัวใจ เลี่ยงได้ แค่เลือกอาหาร

เปิดอ่าน 15,146 ครั้ง
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี '53

เปิดอ่าน 31,296 ครั้ง
โรงเรียนต้องปรับตัวอย่างไร เมื่อโควิด-19 รุกรานการศึกษา
โรงเรียนต้องปรับตัวอย่างไร เมื่อโควิด-19 รุกรานการศึกษา

เปิดอ่าน 15,102 ครั้ง
เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
เรื่องของวันหยุดยาวในเดือนเมษายน กับการเปิด-ปิดเทอมของมหาวิทยาลัย

เปิดอ่าน 13,344 ครั้ง
ขอบพระคุณคอลัมน์ "คลิกเฮียร์" หนังสือพิมพ์"เดลินิวส์"
ขอบพระคุณคอลัมน์ "คลิกเฮียร์" หนังสือพิมพ์"เดลินิวส์"

เปิดอ่าน 1,330 ครั้ง
เปิดร้านขายอะไรดีในปี 2025 รวมไอเดียธุรกิจมาแรง กำไรดี
เปิดร้านขายอะไรดีในปี 2025 รวมไอเดียธุรกิจมาแรง กำไรดี

เปิดอ่าน 39,886 ครั้ง
อินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์โครงการTraining OBEC
อินโฟกราฟิกประชาสัมพันธ์โครงการTraining OBEC

เปิดอ่าน 15,026 ครั้ง
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
วิธีบริหารเงิน ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
เปิดอ่าน 15,805 ครั้ง
ความเป็นมา  "วันสงกรานต์"
ความเป็นมา "วันสงกรานต์"
เปิดอ่าน 37,386 ครั้ง
พระนามพระเป็นเจ้าทางศาสนาพราหมณ์
พระนามพระเป็นเจ้าทางศาสนาพราหมณ์
เปิดอ่าน 42,593 ครั้ง
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
เปิดอ่าน 72,717 ครั้ง
วงจรไฟฟ้า
วงจรไฟฟ้า

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ