ชื่อผลงาน การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยการจัดการเรียนรู้แบบ

B–SLIM Model ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

ชื่อผู้รายงาน นายอานัส มะเด็ง

ปีการศึกษา 2563

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทคัดย่อ

การพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เรื่อง Daily Activities โดยการจัดการเรียนรู้แบบ B – SLIM Model ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เรื่อง Daily Activities โดยการจัดการเรียนรู้แบบ B–SLIM Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนและหลังเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบ

B–SLIM Model ประกอบแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เรื่อง Daily Activities 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เรื่อง Daily Activities ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบ B–SLIM Model กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ใน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนบ้านใหม่ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ปัตตานี เขต 1 จำนวน 11 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เรื่อง Daily Activities

โดยการจัดการเรียนรู้แบบ B – SLIM Model จำนวน 6 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบ B – SLIM Model ประกอบการใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เรื่อง Daily Activities จำนวน 20 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30 ข้อ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 10 ข้อ ดำเนินการทดลองแบบกลุ่มทดลองหนึ่งกลุ่ม วัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One group Pretest-Posttest Design) วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติ Wilcoxon Signed – Rank Test

ผลการวิจัยพบว่า 1) ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เรื่อง Daily Activities

โดยการจัดการเรียนรู้แบบ B – SLIM Model มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.59/80.30 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้

2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ใช้แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เรื่อง Daily Activities โดยการจัดการเรียนรู้แบบ B – SLIM Model หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) ความพึงพอใจของนักเรียนต่อแบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยการจัดการเรียนรู้แบบ B–SLIM Model ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยรวมอยู่ในระดับมาก

คำสำคัญ : แบบฝึกเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร, จัดการเรียนรู้แบบ B – SLIM Model, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

เว็บน่าสนใจ