ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา สังคมศึกษา สาระ : ศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม โดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative Learning) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/12

ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา สังคมศึกษา สาระ : ศาสนา ศีลธรรม และ จริยธรรม โดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning)

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/12

ผู้ศึกษา นางเบญจวรรณ นันทะเสน

ปีที่ทำการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา สังคมศึกษา สาระ : ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/12 ก่อนเรียนและหลังเรียนที่สอน โดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) 2) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/12 ที่เรียนโดยใช้โดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) ประชากรเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จำนวน 165 คน กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/12 ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย ที่เรียนวิชาสังคมศึกษา สาระ : ศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม (ส21103) ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) จำนวน 36 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) ซึ่งประกอบด้วยนักเรียน ที่มีระดับความสามารถทางการเรียนสูง ปานกลาง และต่ำ แล้วแบ่งนักเรียนในกลุ่มตัวอย่างออกเป็นกลุ่มย่อยกลุ่มละ 6 คน ประกอบด้วยสมาชิกกลุ่มที่มีระดับความสามารถทางการเรียนแตกต่างกัน โดยพิจารณาจากคะแนนผลสัมฤทธิ์ของภาคเรียนที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละกลุ่มประกอบด้วยนักเรียน เก่ง 1 คน ปานกลาง 3 คน และต่ำ 2 คน โดยกลุ่มตัวอย่างได้รับการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ชุดการเรียนประกอบการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning)

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ชุดการเรียนประกอบการเรียนรู้แบบร่วมมือ เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/12 จำนวน 6 แผนการจัดการเรียนรู้ ใช้เวลาในการสอน 6 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้ศึกษาสร้างขึ้นตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งลักษณะของแบบทดสอบเป็นแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก ทั้งหมด 30 ข้อ 30 คะแนน 3) แบบประเมินทักษะกระบวนการกลุ่มของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ ทั้งหมด 4 ด้าน คือ (1) ด้านบทบาทการเป็นผู้นำ (2) ด้านบทบาทการเป็นสมาชิกของกลุ่ม (3) ด้านกระบวนการทำงานเป็นทีมที่ดี (4) ด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของกลุ่ม 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที1/12 ที่เรียนโดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) การเก็บรวบรวมข้อมูล ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาเป็นผู้ดำเนินการทดลองด้วยตนเองกับกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/12 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ โดยใช้ชุดการเรียนประกอบการเรียนรู้แบบร่วมมือ จำนวน 6 แผนการจัดการเรียนรู้ ใช้เวลาสอน 6 ชั่วโมง กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/12 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย จำนวน 36 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ที่เรียนวิชา สังคมศึกษา สาระ : ศาสนา ศีลธรรม และจริยธรรม (ส21103) ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) ก่อนดำเนินการทดลอง ผู้ศึกษาได้ดำเนินการปฐมนิเทศนักเรียนเพื่อชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง เนื้อหาการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนการเรียนรู้แบบร่วมมือ ให้นักเรียนเข้าใจบทบาทของผู้เรียนในกลุ่มย่อยและบทบาทของครูผู้สอนในการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เป้าหมายและจุดประสงค์การเรียนรู้วิธีการวัดและประเมินผล และผู้ศึกษาดำเนินจัดการ เรียนการสอนโดยใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เมื่อสิ้นสุดระยะดำเนินการทดลอง ผู้ศึกษาทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาสังคมศึกษา สาระ :พระพุทธศาสนา เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สร้างขึ้น จำนวน 30 ข้อ และตรวจให้คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แล้วนำคะแนนที่ได้มาวิเคราะห์ เพื่อพิจารณาเกณฑ์การผ่านตามวัตถุประสงค์การศึกษา จากนั้น จึงรวบรวมข้อมูลที่ได้ มาหาค่าเฉลี่ยและ ค่าร้อยละ สรุปผลการศึกษาในลำดับต่อไป

สรุปผลการศึกษา

1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนโดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่มการ เรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative Learning) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ½ เท่ากับ 81.60/80.93 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/12 ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนโดยใช้ทักษะ กระบวนการกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ(Cooperative Learning) เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลงเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01

3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/12 ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนโดยใช้ทักษะ กระบวนการกลุ่มการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning) เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มีค่าเฉลี่ย 4.63 คือมีความพึงพอใจมากที่สุด

โพสต์โดย ครูเบญ : [23 มี.ค. 2565 เวลา 07:27 น.]
อ่าน [1827] ไอพี : 134.236.89.217
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,134 ครั้ง
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า
สี่ข้อควรระวังเพื่อการใช้ smartphone ที่ปลอดภัยกว่า

เปิดอ่าน 8,398 ครั้ง
ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา
ที่เกาหลีใต้? เขาฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วยถนนแห่งปัญญา

เปิดอ่าน 10,272 ครั้ง
ระวัง! สารฟอกขาวในตะเกียบ
ระวัง! สารฟอกขาวในตะเกียบ

เปิดอ่าน 33,374 ครั้ง
เผยสำรวจพบ8อาชีพมีรายได้เกินแสน นักบิน เงินเดือนสูงสุด
เผยสำรวจพบ8อาชีพมีรายได้เกินแสน นักบิน เงินเดือนสูงสุด

เปิดอ่าน 11,956 ครั้ง
คลิป ซึ้งๆ สอนให้รู้ว่า อย่าดูคนแค่ภายนอก
คลิป ซึ้งๆ สอนให้รู้ว่า อย่าดูคนแค่ภายนอก

เปิดอ่าน 15,782 ครั้ง
9 สัญญาณเตือนภัย! ถึงเวลาต้องลดความอ้วนแล้ว
9 สัญญาณเตือนภัย! ถึงเวลาต้องลดความอ้วนแล้ว

เปิดอ่าน 11,751 ครั้ง
กูเกิลเจ๋งทดลอง"รถแห่งอนาคต Google Car "วิ่งได้เองบนท้องถนน
กูเกิลเจ๋งทดลอง"รถแห่งอนาคต Google Car "วิ่งได้เองบนท้องถนน

เปิดอ่าน 17,687 ครั้ง
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ

เปิดอ่าน 33,707 ครั้ง
กีฬาฟุตบอล มาจากไหน?
กีฬาฟุตบอล มาจากไหน?

เปิดอ่าน 175,494 ครั้ง
ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล
ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล

เปิดอ่าน 11,385 ครั้ง
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ
ลีลาตำรวจโบกรถ เชียงใหม่ ช่วยผู้ขับขี่คลายเครียดได้เยอะ

เปิดอ่าน 57,671 ครั้ง
คอมพิวเตอร์กราฟิกกับการประยุกต์ใช้ในงานด้านต่าง ๆ
คอมพิวเตอร์กราฟิกกับการประยุกต์ใช้ในงานด้านต่าง ๆ

เปิดอ่าน 43,951 ครั้ง
ADDIE Model timeline
ADDIE Model timeline

เปิดอ่าน 12,205 ครั้ง
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สมรรถนะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ

เปิดอ่าน 111,575 ครั้ง
LMS คืออะไร
LMS คืออะไร

เปิดอ่าน 3,463 ครั้ง
Toyota Yaris 2022 เพื่อนซี้โฉมใหม่ที่ลงตัวมากกว่าเดิม
Toyota Yaris 2022 เพื่อนซี้โฉมใหม่ที่ลงตัวมากกว่าเดิม
เปิดอ่าน 18,197 ครั้ง
ไม่ยากเกินความพยายาม 10 วิธีง่ายๆ ช่วยให้ลูกเก่งภาษา
ไม่ยากเกินความพยายาม 10 วิธีง่ายๆ ช่วยให้ลูกเก่งภาษา
เปิดอ่าน 7,831 ครั้ง
เล่นหมากล้อม สามารถพัฒนาผลการเรียนคณิตศาสตร์ได้!
เล่นหมากล้อม สามารถพัฒนาผลการเรียนคณิตศาสตร์ได้!
เปิดอ่าน 14,767 ครั้ง
สมูทตี้สมุนไพร อร่อยได้ประโยชน์
สมูทตี้สมุนไพร อร่อยได้ประโยชน์
เปิดอ่าน 7,771 ครั้ง
"ฟุตบอล"...สอนอะไร
"ฟุตบอล"...สอนอะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ