ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รหัสวิชา 20101-2104 รายวิชา งานระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนสาขางานยานยนต์ วิทยาลัยการอาชีพนครปฐม ระดับชั้น ปวช.2 กลุ่ม 3 โดยการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการก

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชางานระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ ของนักเรียนสาขางานยานยนต์ วิทยาลัยการอาชีพนครปฐม ระดับชั้น ปวช.2 กลุ่ม3 โดยการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่มรูปแบบ LT (Learning Together) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขางานยานยนต์ ระดับชั้นปวช.2กลุ่ม 1,2,3 วิทยาลัยการอาชีพนครปฐม ที่ลงทะเบียนเรียนวิชางานเครื่องยนต์เล็ก ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จํานวน 64 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive selection) จะเห็นได้ว่านักเรียนสาขางานยานยนต์ ระดับชั้น ปวช.2 กลุ่ม 3 จํานวน 22 คน มีนักเรียนที่ได้คะแนนรวม 60 คะแนนขึ้นไป มีผลการเรียนอยู่ในระดับเกรด 2 ขึ้นไป จํานวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 100

การวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชางานระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ของนักเรียนระดับชั้น ปวช.2 กลุ่ม 3 สาขางานยานยนต์ วิทยาลัยการอาชีพนครปฐม ด้วยการเปรียบเทียบคะแนนข้อสอบก่อน – หลังการจัดการเรียนรู้โดยการใช้กระบวนการกลุ่มเรียนรูปแบบ LT (Learning Together) 50 ข้อ ในครั้งนี้พบว่าก่อนการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่ม นักเรียนจํานวน 22 คน ทําข้อสอบรวมเฉลี่ยได้ 17ข้อ มีคะแนนทดสอบเต็ม 10 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 3.4 คิดเป็นร้อยละ 34หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่ม นักเรียนทําข้อสอบรวมเฉลี่ยได้ 29.90 ข้อ มีคะแนนทดสอบเต็ม 10 ได้คะแนนรวมเฉลี่ย 5.98 คิดเป็นร้อยละ 59.80จากการทดลองจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่ม โดยแบ่งกลุ่มละ 5 คน เพื่อให้นักเรียนได้รู้จักความสามัคคี ความมีน้ําใจ รู้จักช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่ม ไม่สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้

เท่าที่ควร กลับกันการเรียนแบบกลุ่มทําให้นักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีอยู่แล้ว มีผลคะแนนเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการสอนทบทวนการเรียน และสอบได้คะแนนปฏิบัติงานจริง มีคะแนนจิตพิสัยเป็นตัวประเมินหลัก เพราะนักเรียนที่มีผลการเรียนดีจะมีความรับผิดชอบมากกว่า เมื่อสมาชิกในกลุ่มบางคนไม่ให้ความร่วมมือ ทําให้งานที่กําหนดไม่สามารถเสร็จได้ทันเวลา สตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ได้ เมื่อถึงกําหนดให้สอบปฏิบัติ

ประเมินภาพรวมสตาร์ทเครื่องยนต์ นักเรียนที่ไม่ให้ความร่วมมือจะไม่สามารถทําการสอบปฏิบัติสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีอยู่แล้ว เกิดความเบื่อหน่ายเพื่อนที่ไม่ตั้งในเรียน ทําให้ผู้วิจัยไม่สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ให้กับนักเรียนที่มีความตั้งใจเรียนน้อยและไม่สนใจเรียนเท่าที่ควร ด้วยกระบวนจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มรูปแบบ LT (LearningTogether)

ผู้วิจัย

นายหอมจันทร์ แก้วกาสี

โพสต์โดย งานวิจัยวก.นครปฐม : [3 พ.ค. 2565 เวลา 06:43 น.]
อ่าน [1939] ไอพี : 1.20.220.62
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,575 ครั้ง
เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน
เคล็ดลับ 12 ข้อ จากแพทย์จีน

เปิดอ่าน 27,077 ครั้ง
รู้หรือยัง ประวัติ "ปาท่องโก๋"
รู้หรือยัง ประวัติ "ปาท่องโก๋"

เปิดอ่าน 40,260 ครั้ง
ปลูกลีลาวดี อาชีพเสริมที่ไม่ควรมองข้าม
ปลูกลีลาวดี อาชีพเสริมที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 21,952 ครั้ง
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม
"ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน" กับความเชื่อทางสังคม

เปิดอ่าน 10,607 ครั้ง
จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ...เงินเดือน 25,000 จะทำไหม ?
จบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ...เงินเดือน 25,000 จะทำไหม ?

เปิดอ่าน 14,343 ครั้ง
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น
ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น

เปิดอ่าน 83,603 ครั้ง
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์
10 วิธีช่วยให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 15,592 ครั้ง
สื่อดิจิทัล “Learning Object” ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว
สื่อดิจิทัล “Learning Object” ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว

เปิดอ่าน 15,291 ครั้ง
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อระบบการศึกษาไทยในแบบ "รองเท้าเบอร์เดียว"
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อระบบการศึกษาไทยในแบบ "รองเท้าเบอร์เดียว"

เปิดอ่าน 14,268 ครั้ง
เอกสารแนบคำขอในระบบ DPA
เอกสารแนบคำขอในระบบ DPA

เปิดอ่าน 10,563 ครั้ง
ขับรถอย่างฉลาด ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน
ขับรถอย่างฉลาด ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน

เปิดอ่าน 13,872 ครั้ง
9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook
9 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำบน Facebook

เปิดอ่าน 20,418 ครั้ง
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"
อีกวิธีสำหรับหยุดอาการ "สะอึก"

เปิดอ่าน 28,421 ครั้ง
"โมสาร์ท เอฟเฟกต์" เรื่องจริงหรือแค่อิงวิจัย
"โมสาร์ท เอฟเฟกต์" เรื่องจริงหรือแค่อิงวิจัย

เปิดอ่าน 7,010 ครั้ง
ว่าด้วยการเรียนและการสอบ คอลัมน์ ฝ่ากำแพงเมืองจีน
ว่าด้วยการเรียนและการสอบ คอลัมน์ ฝ่ากำแพงเมืองจีน

เปิดอ่าน 94,279 ครั้ง
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?
เปิดอ่าน 288,834 ครั้ง
อาณาเขตประเทศไทย
อาณาเขตประเทศไทย
เปิดอ่าน 92,657 ครั้ง
20 เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้
20 เรื่องวิทยาศาสตร์น่ารู้
เปิดอ่าน 11,217 ครั้ง
สิทธิบัตร อัจฉริยะ
สิทธิบัตร อัจฉริยะ
เปิดอ่าน 14,939 ครั้ง
ผู้ว่าฯ เชียงราย ผุดไอเดีย สร้างถนนดอกซากุระ สั่งซื้อจากญี่ปุ่น
ผู้ว่าฯ เชียงราย ผุดไอเดีย สร้างถนนดอกซากุระ สั่งซื้อจากญี่ปุ่น

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ