ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

และการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้วิจัย นางสาวพัสนี สีระบุตร

ปีที่พิมพ์ 2563

หน่วยงาน โรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) พัฒนารูปแบบการสอนเพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนเพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4) ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการสอนเพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการวิจัยครั้งนี้ได้ทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา อำเภอน้ำขุ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 37 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) รูปแบบกิจกรรมการสอน ARITAM Model 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบสอบถามข้อมูลพื้นฐานเพื่อการจัดการเรียนรู้ 4) แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอนเพื่อรวบรวมแนวคิดในการจัดกิจกรรมรูปแบบการสอน 5) แบบทดสอบวัดทักษะการฟังภาษาอังกฤษ และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอน ARITAM Model การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test แบบ Dependent Samples และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1) ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า นักเรียนมีความสนใจในการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนเพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เนื่องจากนักเรียนต้องการที่จะพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจในการสื่อสาร และบทเรียนมัลติมีเดียที่มีความทันสมัยและสะดวกในการเรียน สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในการจัดการเรียนรู้ และกำหนดสมรรถนะหลักที่สำคัญให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนคือ ความสามารถเพื่อการสื่อสาร ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และความสามารถในการคิด ครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษเห็นด้วยกับรูปแบบการสอน ARITAM Model ที่จะนำมาพัฒนาศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพเพื่อใช้แก้ปัญหาในการพัฒนาทักษะการฟังของนักเรียน

2) ผลการพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้รูปแบบกิจกรรมที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า ARITAM Model โดยรูปแบบมีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการกิจกรรม สิ่งที่เสริมการเรียนรู้ได้แก่ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน สำหรับกระบวนการจัดกิจกรรมตามรูปแบบการสอนเพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีขั้นตอนดังนี้ 1) ขั้นสร้างแรงจูงใจและคาดการณ์ (A: Arousing and Predicting for Listening) 2) ขั้นทบทวนภาษาก่อนการฟัง (R: Revising the Language for Listening) 3) ขั้นฟังอย่างเข้มข้น (I: Intensive Listening) 4) ขั้นถ่ายโอนหลังการฟัง (T: Transferring after Listening) 5) ขั้นประเมินผลและสรุป (A: Assessing and Summarizing the Listening) และ 6) ขั้นนำเสนอและเผยแพร่ผลงาน (M: Making Publication of Works) ผลการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน มีความคิดเห็นต่อรูปแบบการสอนโดยรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด ( X-bar=4.72, S.D.=0.45) และผลการพัฒนารูปแบบการสอนในภาคสนามมีประสิทธิภาพ E1/E2 = 80.71/81.04

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนเพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่านักเรียนมีความสนใจ และกระตือรือร้นในการเรียน ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมเป็นอย่างดี นำเสนอผลงานเป็นที่น่าพอใจ และความสามารถในการฟังภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และผลการใช้รูปแบบการสอนมีประสิทธิภาพ E1/E2 = 81.45/82.43

4. ผลการประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการสอนเพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนเพื่อเสริมทักษะการฟังภาษาอังกฤษโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมากที่สุด ( X-bar= 4.54, S.D. 0.60) และได้ปรับปรุงเนื้อหาบริบทการฟังให้น่าสนใจ ทันสมัยและมีความยากง่ายให้เหมาะสมกับระดับความสามารถของผู้เรียน

โพสต์โดย พัส : [16 มิ.ย. 2565 เวลา 10:10 น.]
อ่าน [487] ไอพี : 118.174.219.79
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 51,504 ครั้ง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง
เคล็ดลับการเรียนเก่งด้วยตัวเอง

เปิดอ่าน 12,537 ครั้ง
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่

เปิดอ่าน 86,371 ครั้ง
ปล่อยปลาได้บุญสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง
ปล่อยปลาได้บุญสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง

เปิดอ่าน 11,557 ครั้ง
10 สัญญาณฟ้องว่าร่างกายเรากำลังขาดสารอาหารชนิดใดอยู่?
10 สัญญาณฟ้องว่าร่างกายเรากำลังขาดสารอาหารชนิดใดอยู่?

เปิดอ่าน 13,200 ครั้ง
มอบอำนาจเกี่ยวกับการลาบางกรณีให้ ผอ.สพท.,ผอ.สำนักบริหารงานงานการศึกษาพิเศษ
มอบอำนาจเกี่ยวกับการลาบางกรณีให้ ผอ.สพท.,ผอ.สำนักบริหารงานงานการศึกษาพิเศษ

เปิดอ่าน 14,261 ครั้ง
อย่าด่วนตัดสินอะไรเร็วเกินไป สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด!
อย่าด่วนตัดสินอะไรเร็วเกินไป สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด!

เปิดอ่าน 41,055 ครั้ง
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)
วิธีสะเดาะเคราะห์ (ด้วยตัวเอง)

เปิดอ่าน 26,805 ครั้ง
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)
การพิมพ์หนังสือราชการภาษาไทยด้วยโปรแกรมการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (ตามระเบียบสำนักนายกฯ)

เปิดอ่าน 14,695 ครั้ง
การถวายสังฆทาน
การถวายสังฆทาน

เปิดอ่าน 14,851 ครั้ง
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ

เปิดอ่าน 42,759 ครั้ง
มาแล้ว "ตารางสอบครูผู้ช่วย" สพฐ. 2/2558 (อย่างเป็นทางการ)
มาแล้ว "ตารางสอบครูผู้ช่วย" สพฐ. 2/2558 (อย่างเป็นทางการ)

เปิดอ่าน 17,679 ครั้ง
10 คำพูดดีๆที่ลูกอยากได้ยินจากพ่อแม่
10 คำพูดดีๆที่ลูกอยากได้ยินจากพ่อแม่

เปิดอ่าน 10,983 ครั้ง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง
เตือนกินเค็มจัดเป็นมะเร็งกระเพาะ ยังทำให้ความดันโลหิตถีบตัวขึ้นสูง

เปิดอ่าน 10,279 ครั้ง
ผลวิจัยใหม่ระบุ "ความสุข" ไม่ทำให้อายุยืน
ผลวิจัยใหม่ระบุ "ความสุข" ไม่ทำให้อายุยืน

เปิดอ่าน 192,441 ครั้ง
ลำดับขั้นในการวิจัย
ลำดับขั้นในการวิจัย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
Koi360
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
ตู้แช่ไวน์
BestKru
ตู้แช่ไวน์
Neonics.co.th
Tools.in.th
clonedbabies.com
gameszone.biz
nainokk.com
thechetter.com
รถมือสอง
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร

เปิดอ่าน 17,800 ครั้ง
เตรียมตัวให้พร้อม...ผลไม้ไทย ทานอย่างไรให้ดีต่อตัวเอง
เตรียมตัวให้พร้อม...ผลไม้ไทย ทานอย่างไรให้ดีต่อตัวเอง

เปิดอ่าน 18,134 ครั้ง
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า

เปิดอ่าน 12,903 ครั้ง
ปลูกฝังทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต
ปลูกฝังทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต

เปิดอ่าน 29,971 ครั้ง
รวมวิธีทำกระทงแบบใหม่ๆ เป็นมิตรกับธรรมชาติ
รวมวิธีทำกระทงแบบใหม่ๆ เป็นมิตรกับธรรมชาติ

เปิดอ่าน 13,632 ครั้ง
ตักขี้ควายขายรายได้เดือนละ 2 หมื่น
ตักขี้ควายขายรายได้เดือนละ 2 หมื่น



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ