ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง

งานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง

ชื่อผู้วิจัย : นางวิภา ศรีม่วงกลาง

ปี : 2564

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง ดังนี้ 2.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.2) เปรียบเทียบทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้านการปฏิบัติการสร้างชิ้นงานของนักเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.3) เปรียบเทียบพฤติกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน จากการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.4) เปรียบเทียบความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน ก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.5) เปรียบเทียบเจตคติของนักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.6) ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียน ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ (สาระทัศนศิลป์) เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง 2.7) ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อครูที่จัดการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง และ 2.8) ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อพฤติกรรมของนักเรียน หลังจากนักเรียนได้เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย 1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง 2) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง

เครื่องมือประกอบด้วย รูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง ซึงมีเอกสารประกอบ คือ คู่มือ การใช้รูปแบบและแผนการจัดการเรียนรู้การใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะ การเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบสอบถามและแบบประเมินรวมจำนวน 14 ฉบับ ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ เน้นความตรงเชิงเนื้อหา สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติทดสอบที (t-test) ผลการศึกษา พบว่า

1. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง ที่ผู้ศึกษาพัฒนา มีชื่อว่า CPS-learning plus model: Creative Process Self-Learning Plus Model มีองค์ประกอบของรูปแบบ คือ 1) หลักการของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ของรูปแบบ 4) การวัดและประเมินผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ และ 5) ปัจจัยสนับสนุน

การจัดการเรียนรู้ ซึ่งกระบวนการจัดการเรียนรู้ของรูปแบบ มีกระบวนการ 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 สร้างบรรยากาศดึงความสนใจในการเรียน ขั้นที่ 2 คำถามสร้างพลังคิด (เชื่อมโยงสู่ หัวข้อการเรียน) ขั้นที่ 3 เรียนรู้และค้นหา เพื่อออกแบบสร้างชิ้นงาน ขั้นที่ 4 นำเสนอผลงาน ขั้นที่ 5 สรุปและประเมินผลตามเกณฑ์ที่กำหนดร่วมกัน และในส่วนของปัจจัยสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ การจัดบรรยากาศและสภาพแวดล้อม มี 5 บรรยากาศ ดังนี้ 1) ครูสร้างบรรยากาศเชิงบวก และให้อิสระในการเรียน 2) ครูทำหน้าที่เป็นโค้ช Coaching และเป็น facilitator เน้นให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง 3) ครูกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้จากสื่อที่หลากหลาย เพื่อนำองค์ความรู้มาออกแบบและสร้างชิ้นงาน 4) ครูกระตุ้นให้นักเรียน เน้นการใช้ศิลปะในการออกแบบและการสร้างสรรค์ชิ้นงาน 5) ครูและนักเรียนประเมินผลร่วมกัน และแจ้งผลการประเมินเมื่อกิจกรรมเสร็จสิ้น ผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และผลการรับรองรูปแบบก่อนนำไปใช้ด้วยการยืนยันตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง โดยการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ (Connoisseurship) ใน 3 ด้าน คือ ด้านความเหมาะสมด้านความเป็นไปได้ และด้านความเป็นประโยชน์ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า รูปแบบมีคุณภาพมีความสอดคล้องกับทฤษฎีและเหมาะสมในการนำไปใช้ และหลังจากทดลองไปใช้พบว่าครูได้รับประโยชน์จากการทดลองใช้รูปแบบและนักเรียนมีพัฒนาด้านทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง และมีผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนสูงขึ้น

2. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง

ที่ชื่อว่า CPS-Learning Plus Model มีดังนี้ 2.1 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าคะแนนสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.2 ผลการเปรียบเทียบทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้านการปฏิบัติ การสร้างชิ้นงานของนักเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า คะแนนทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้านการปฏิบัติการสร้างชิ้นงานของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนพบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าคะแนนสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.3 ผลการเปรียบเทียบพฤติกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน จากการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า พฤติกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน ก่อนการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง แต่หลังการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.4 ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน ก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า ความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียน ก่อนการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับน้อย แต่หลังการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.5 ผลการเปรียบเทียบเจตคติของนักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียนก่อนและหลังการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า เจตคติของนักเรียน ก่อนการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับไม่เห็นด้วย แต่หลังการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับเห็นด้วย 2.6 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ศิลปะ (สาระทัศนศิลป์) เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2.7 ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อครูที่จัดการสอนด้วยรูปแบบการจัดการ เรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่างพบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และ 2.8 ความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียน ที่มีต่อพฤติกรรมของนักเรียน หลังจากนักเรียนได้เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทัศนศิลป์ เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านท่าอ่าง พบว่า โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย โอ๊ต : [20 ส.ค. 2565 เวลา 07:19 น.]
อ่าน [62774] ไอพี : 223.205.248.19
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 20,385 ครั้ง
เรื่องของกราฟ
เรื่องของกราฟ

เปิดอ่าน 35,238 ครั้ง
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย
ประโยชน์ของมัลติมีเดีย

เปิดอ่าน 12,334 ครั้ง
ใส่ 8 ข้อ เขียนจดหมายสมัครงานให้สะดุดตา สะดุดใจ
ใส่ 8 ข้อ เขียนจดหมายสมัครงานให้สะดุดตา สะดุดใจ

เปิดอ่าน 77,215 ครั้ง
รวมกฏกระทรวงศึกษาธิการ
รวมกฏกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 14,115 ครั้ง
จ้ำม่ำอย่างไร? ลูกถึงแข็งแรง
จ้ำม่ำอย่างไร? ลูกถึงแข็งแรง

เปิดอ่าน 18,629 ครั้ง
เลือกกระเบื้องให้เข้ากับห้อง
เลือกกระเบื้องให้เข้ากับห้อง

เปิดอ่าน 10,893 ครั้ง
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดี ทันตาเห็น
หลากหลายวิธี ช่วยให้อารมณ์ดี ทันตาเห็น

เปิดอ่าน 9,285 ครั้ง
ประโยคเพื่อการสื่อสาร
ประโยคเพื่อการสื่อสาร

เปิดอ่าน 38,308 ครั้ง
เทคนิค "การต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู"
เทคนิค "การต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู"

เปิดอ่าน 18,588 ครั้ง
เฮ ! ปรับลดค่าไฟลงอีก 1.05 สตางค์/หน่วย เริ่มพฤศจิกายนนี้
เฮ ! ปรับลดค่าไฟลงอีก 1.05 สตางค์/หน่วย เริ่มพฤศจิกายนนี้

เปิดอ่าน 12,080 ครั้ง
"หลับลึก" ฟื้นฟูจิตใจ ร่างกายและผิวพรรณ
"หลับลึก" ฟื้นฟูจิตใจ ร่างกายและผิวพรรณ

เปิดอ่าน 20,099 ครั้ง
วิธีแก้ปวดหลัง
วิธีแก้ปวดหลัง

เปิดอ่าน 80,022 ครั้ง
การเรียนรู้ตลอดชีวิต คืออะไรและสำคัญตรงไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
การเรียนรู้ตลอดชีวิต คืออะไรและสำคัญตรงไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับปรัชญาพิพัฒนาการนิยม

เปิดอ่าน 64,949 ครั้ง
การเบิกค่าเช่าบ้าน
การเบิกค่าเช่าบ้าน

เปิดอ่าน 17,101 ครั้ง
หมามุ่ย สมุนไพรสรรพคุณบรรเจิด เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ทีเด็ดอยู่ที่เมล็ด
หมามุ่ย สมุนไพรสรรพคุณบรรเจิด เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ทีเด็ดอยู่ที่เมล็ด

เปิดอ่าน 8,479 ครั้ง
รื้อระบบ - แก้ยกแผงดันมหาวิทยาลัยไทยสู่ระดับโลก
รื้อระบบ - แก้ยกแผงดันมหาวิทยาลัยไทยสู่ระดับโลก
เปิดอ่าน 12,236 ครั้ง
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ
เปิดอ่าน 23,949 ครั้ง
ใช้ชีวิต Slow Life เพื่อความสุขยืนยาว ช้าแต่ชัวร์!!
ใช้ชีวิต Slow Life เพื่อความสุขยืนยาว ช้าแต่ชัวร์!!
เปิดอ่าน 17,374 ครั้ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง
จุฬาฯวิจัยเปลือกมังคุดพบคุณค่าอื้อ ต้านอักเสบ รักษาเซลล์มะเร็ง
เปิดอ่าน 7,857 ครั้ง
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ต สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ