คือ พืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว แต่เป็นพืชล้มลุกที่มีอายุสั้น ประมาณ 40-60 วันเท่านั้น โดยผักชีที่นิยมปลูกกันในประเทศไทยคือ ผักชีพันธุ์สิงคโปร์, พันธุ์สิงคโปร์เมล็ดดำ และพันธุ์ไต้หวัน เป็นต้น ในการปรุงอาหาร คนไทยจัดผักชีเป็นเครื่องเทศที่มีไว้ใส่น้ำซุป และเป็นเครื่องเคียงอื่น ๆ เพราะผักชีสามารถนำมาปรุงอาหารได้ทุกส่วนของต้นและยังช่วยดับกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ได้ด้วย
ใช้เป็นเครื่องเทศช่วยปรุงอาหารให้รสชาติดีมากขึ้น โดยสามาถใช้ได้ทั้ง ใบ ราก และลำต้น
มีสรรพคุณช่วยย่อย บำรุงกระเพาะ ขับลมพิษ ลดน้ำตาลในเลือด ขับลม เป็นต้น
เมล็ดพันธุ์ผักชี สามารถหาซื้อได้ตามแหล่งขายเมล็ดพันธุ์ผักทั่วไป
- กระถาง
- ดินร่วน
- ปุ๋ยคอก
- ทราย หรือขี้เถ้า
- ฟางข้าว หรือหญ้าแห้ง
1. เตรียมดินสำหรับปลูก ด้วยการตากดินสัก 1 สัปดาห์ แล้วพรวนดินให้แตกเป็นก้อนเล็ก ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยสดคลุกเคล้าเข้าไป
2. บดเมล็ดพันธุ์ผักชีที่ซื้อมาให้แตกออกเป็น 2 ซีก แล้วนำเมล็ดไปแช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง
3. นำเมล็ดพันธุ์ผักชีที่แช่น้ำแล้วไปผึ่งลม ผสมกับทรายหรือขี้เถ้าเล็กน้อย
4. เมื่อเห็นเมล็ดเริ่มงอก ให้นำไปใส่กระถางปลูกที่เตรียมดินเอาไว้แล้ว จากนั้นคลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
5. รอเก็บเกี่ยวมารับประทานในอีก 30-45 วัน โดยเวลาถอนให้รดน้ำจนดินชุ่มก่อน และควรถอนทั้งราก
1. รดน้ำให้ชุ่มวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
2. เมื่อผักชีแตกใบให้ใส่ปุ๋ยหมัก หรือถ้าจะเร่งให้งามเร็ว ๆ ให้ใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต อัตราส่วน 3-4 ช้อนแกงต่อน้ำ 1 ปี๊บ แล้วนำไปฉีดพ่นเบา ๆ
3. ผักชีชอบอากาศเย็น แต่เมื่อเริ่มโตแล้วควรให้โดนแดดอ่อน ๆ ยามเช้าบ้าง
ขอบคุณข้อมูลจาก home.kapook.com/view90361.html