ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการจำแนกประเภทจากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การจำแนกสิ่งมีชีวิต โดยใช้สื่อแผนผังมโนทัศน์ (Concept Map) และวาดภาพประกอบ รายวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำ

สถานศึกษา โรงเรียนบ้านบือจะ

อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3

ชื่อผลงาน การพัฒนาทักษะการจำแนกประเภทจากชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การจำแนก

สิ่งมีชีวิต โดยใช้สื่อแผนผังมโนทัศน์ (Concept Map) และวาดภาพประกอบ

รายวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบือจะ

ชื่อผู้รายงาน นางสาวนูรอิลฮาม รีจิ

รายวิชา วิทยาศาสตร์

กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ปีการศึกษา 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การจำแนกสิ่งมีชีวิต

โดยใช้สื่อแผนผังมโนทัศน์ (Concept Map) และวาดภาพประกอบ รายวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระ

การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบือจะให้

มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) พัฒนาทักษะการจำแนกประเภทของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบือจะที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การจำแนกสิ่งมีชีวิต โดยใช้สื่อ

แผนผังมโนทัศน์ (Concept Map) และวาดภาพประกอบ และ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบือจะ ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง

การจำแนกสิ่งมีชีวิต โดยใช้สื่อแผนผังมโนทัศน์ (Concept Map) และวาดภาพประกอบ โดยประชากร

ที่ศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบือจะ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน

26 คน ใน 1 ห้องเรียน ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การจำแนกสิ่งมีชีวิต โดยใช้สื่อแผนผังมโนทัศน์ (Concept Map) และวาดภาพประกอบ

2) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การจำแนกสิ่งมีชีวิต หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง พืชน่ารู้ (หน้าที่และส่วนต่างๆของพืช) และหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง สิ่งมีชีวิตรอบตัว (ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต) จำนวน 16 แผนการจัดการเรียนรู้ เวลา 20 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบประเมินวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ว 1.2 ป.4/1 และ ว 1.3 ป.4/1-ป.4/4 จากการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ และ 2) แบบประเมินทักษะการจำแนกประเภทจากการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สถิตที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x ̅) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการวิจัยพบว่า คะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบระหว่างเรียนและคะแนนเฉลี่ยจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านบือจะ หลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การจำแนกสิ่งมีชีวิต โดยใช้สื่อแผนผังมโนทัศน์ (Concept Map) และวาดภาพประกอบ รายวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เท่ากับ 53.65 และ 25.38 ตามลำดับ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.06 และ 1.60 ตามลำดับ โดยมีประสิทธิภาพเท่ากับ 89.42/84.62 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 ถือว่าผ่านเกณฑ์และบรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 ส่วนผลการประเมินทักษะการจำแนกประเภทของนักเรียนหลังการใช้

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การจำแนกสิ่งมีชีวิต โดยใช้สื่อแผนผังมโนทัศน์ (Concept Map) และ

วาดภาพประกอบรายวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่านักเรียนมีทักษะการจำแนกประเภทโดยเฉลี่ยเท่ากับ 14.75 คิดเป็นร้อยละ98.33 ซึ่งมีระดับคุณภาพเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ถือว่าผ่านเกณฑ์และบรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 สอดคล้องกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน (ในวัตถุประสงค์ข้อที่ 3) ที่สูงขึ้นอีกด้วย

และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จากการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง การจำแนกสิ่งมีชีวิต โดยใช้สื่อแผนผังมโนทัศน์ (Concept Map) และวาดภาพประกอบ รายวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

โรงเรียนบ้านบือจะ ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 7.92 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 26.41 และหลังเรียน

มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 25.38 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 84.62 แสดงว่ามีค่าการพัฒนาคิดเป็นร้อยละ 58.21

ซึ่งถือได้ว่าบรรลุตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 อีกทั้งเมื่อศึกษาจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้ ว 1.2 ป.4/1 และ

ว 1.3 ป.4/1-ป.4/4 เปรียบเทียบในปีการศึกษา 2563 (ก่อนนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปใช้)

ในปีการศึกษา 2564 (ได้นำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Online ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19) และในปีการศึกษา 2565 (ได้นำชุดกิจกรรมการเรียนรู้

ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Onsite ปกติ) พบว่าในมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดดังกล่าว ในปีการศึกษา 2563 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 75.56 ในปีการศึกษา 2564 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 79.72 และในปีการศึกษา 2565 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 89.87 แสดงให้เห็นว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.16 และ 10.15 ตามลำดับ ซึ่งมีการพัฒนาขึ้น เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความสำเร็จในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี และยังแสดงให้เห็นว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้สามารถนำไปใช้ได้ทั้งการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Online และ Onsite

โพสต์โดย นูร : [10 ก.ย. 2565 เวลา 16:45 น.]
อ่าน [705] ไอพี : 171.7.246.248
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,213 ครั้ง
ฮือฮา พญานาคโผล่รับเครื่องสักการะ หลังพิธีบุญกฐินน้ำ
ฮือฮา พญานาคโผล่รับเครื่องสักการะ หลังพิธีบุญกฐินน้ำ

เปิดอ่าน 3,345 ครั้ง
สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์  การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย

เปิดอ่าน 12,781 ครั้ง
qr code คืออะไร
qr code คืออะไร

เปิดอ่าน 31,458 ครั้ง
ดาวน์โหลด! นโยบายด้านการศึกษาของนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)
ดาวน์โหลด! นโยบายด้านการศึกษาของนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)

เปิดอ่าน 9,232 ครั้ง
เปิดศักราช 2559 ต้อนรับ "AEC" จุดเปลี่ยนอาเซียนสู่ก้าวใหม่ "ค้าบริการ-นวัตกรรม"มาแรง
เปิดศักราช 2559 ต้อนรับ "AEC" จุดเปลี่ยนอาเซียนสู่ก้าวใหม่ "ค้าบริการ-นวัตกรรม"มาแรง

เปิดอ่าน 40,062 ครั้ง
เพลง "อิ่มอุ่น"
เพลง "อิ่มอุ่น"

เปิดอ่าน 9,676 ครั้ง
นาแปลงเดิม ปลูกด้วยวิธีเดิม ผลลัพธ์เหมือนเดิม
นาแปลงเดิม ปลูกด้วยวิธีเดิม ผลลัพธ์เหมือนเดิม

เปิดอ่าน 26,488 ครั้ง
แนวทางจัดทำแผนปฏิบัติการ
แนวทางจัดทำแผนปฏิบัติการ

เปิดอ่าน 10,385 ครั้ง
8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก
8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก

เปิดอ่าน 70,254 ครั้ง
ละครสังคีต
ละครสังคีต

เปิดอ่าน 2,321 ครั้ง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง

เปิดอ่าน 13,301 ครั้ง
น้ำส้มคั้นที่คุณดื่ม...จริงหรือปลอม?
น้ำส้มคั้นที่คุณดื่ม...จริงหรือปลอม?

เปิดอ่าน 18,324 ครั้ง
สูตรการจัดทำเกณฑ์ความสำเร็จ
สูตรการจัดทำเกณฑ์ความสำเร็จ

เปิดอ่าน 15,688 ครั้ง
งานนมัสการองค์พระธาตุพนม
งานนมัสการองค์พระธาตุพนม

เปิดอ่าน 98,289 ครั้ง
เรื่องของกาพย์ที่คุณควรรู้
เรื่องของกาพย์ที่คุณควรรู้

เปิดอ่าน 19,337 ครั้ง
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"
เปิดอ่าน 13,652 ครั้ง
รับประทาน"บร็อคโคลี"ช่วยลดอาการไขข้ออักเสบได้
รับประทาน"บร็อคโคลี"ช่วยลดอาการไขข้ออักเสบได้
เปิดอ่าน 935 ครั้ง
เคล็ดลับการยิ้มที่สมบูรณ์แบบเวลาถ่ายรูป
เคล็ดลับการยิ้มที่สมบูรณ์แบบเวลาถ่ายรูป
เปิดอ่าน 5,267 ครั้ง
10 เทคนิค ฝึกพูดภาษาอังกฤษให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ!
10 เทคนิค ฝึกพูดภาษาอังกฤษให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ!
เปิดอ่าน 11,186 ครั้ง
"พิกุล" สรรพคุณดีกว่าที่คิด
"พิกุล" สรรพคุณดีกว่าที่คิด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
Koi360
คลินิกเสริมความงาม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 081-3431047

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ