|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ของครูภาษาไทย 2) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ของครูภาษาไทย และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องที่มีต่อรูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ของครูภาษาไทย โดยใช้การวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ดำเนินการ 4 ขั้นตอน คือ 1) การสร้างและพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model 2) การตรวจสอบคุณภาพและปรับปรุงรูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ด้วยการตรวจสอบคุณภาพและยืนยันความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี ความเป็นไปได้ และความสอดคล้องของรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบตรวจสอบและยืนยันร่างรูปแบบการนิเทศที่พัฒนาขึ้น 3) การทดลองใช้รูปแบบและประเมินผลการใช้รูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ของครูภาษาไทย กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนภาษาไทยระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนเอกชน จำนวน 10 คน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ (1) รูปแบบการนิเทศและคู่มือการใช้รูปแบบการนิเทศ (2) แบบทดสอบความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA (3) แบบประเมินความสามารถด้านการสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านตามแนว PISA (4) แบบประเมินความสามารถด้านการออกแบบการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนว PISA (5) แบบประเมินความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนว PISA (6) แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีต่อการใช้รูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ของครูภาษาไทย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที (t-test) แบบ 2 กลุ่มสัมพันธ์กัน และแบบกลุ่มเดียวเทียบกับเกณฑ์ 4) การขยายผลและเผยแพร่รูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ของครูภาษาไทย
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ของครูภาษาไทย ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ดังนี้ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) เนื้อหา 4) กระบวนการนิเทศ และ 5) ปัจจัยสนับสนุนการนิเทศ
2. ผลการตรวจสอบคุณภาพของโครงร่างรูปแบบการนิเทศด้วยรูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model โดยการประเมินความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี ความเป็นไปได้ และความเหมาะสม ของรูปแบบ โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ผลการประเมินความสมเหตุสมผลเชิงทฤษฎี โดยรวมมีความสมเหตุสมผล อยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅ =4.76) ผลการประเมินความเป็นไปได้ โดยรวมมีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.75) ผลการประเมินความเหมาะสม โดยรวมมีความเหมาะสม ระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.71) และ ผลการตรวจสอบคุณภาพคู่มือการใช้รูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการเรียนพัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ของครูภาษาไทย โดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า มีความเหมาะสม โดยรวมระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (x ̅ = 4.67)
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ของครูภาษาไทย พบว่า ครูมีความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA หลังนิเทศสูงกว่าก่อนนิเทศ และหลังนิเทศมีคะแนนทดสอบสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05 มีความสามารถด้านการสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA หลังการนิเทศ อยู่ในระดับดีมากสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05 มีความสามารถด้านการออกแบบการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA อยู่ในระดับดีมากสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05 มีความสามารถด้านการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA อยู่ในระดับดีมาก สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05 และ ผลเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนนักเรียนของครูที่ได้รับการนิเทศโดยใช้รูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model พบว่า คะแนนหลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และหลังการใช้รูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model ส่งผลให้นักเรียนของครูที่ได้รับการนิเทศ มีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ และมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษาที่ผ่านมา
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เกี่ยวข้องที่มีต่อรูปแบบการนิเทศแบบ TAKECARE Model เพื่อเสริมสร้างความสามารถการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ของครูภาษาไทย พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาและและครูผู้รับการนิเทศ มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการนิเทศ โดยรวมระดับมากที่สุด นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของครูที่ได้รับการนิเทศแบบ TAKE CARE Model โดยรวมมีความพึงพอใจระดับมากที่สุด และผู้ปกครองนักเรียนมีความพึงพอใจของต่อการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA ของครูภาษาไทย โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
คำสำคัญ รูปแบบการนิเทศ, TAKECARE Model, การจัดการเรียนรู้,การอ่านตามแนว PISA
|
โพสต์โดย สุวิมล_LEE : [20 ก.ย. 2565 เวลา 13:33 น.] อ่าน [765] ไอพี : 49.228.8.28
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,187 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,051 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 204,288 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 134,834 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,792 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 43,833 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,235 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,343 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 24,180 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 17,438 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 74,135 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 9,334 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 58,241 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 84,819 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 12,232 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 3,292 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 104,931 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 18,532 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,909 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,817 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|