|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ผู้วิจัย นายอนุสรณ์ ปะทะวัง
หน่วยงาน ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ปีที่พิมพ์ 2564
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ใน 5 ด้าน คือ ด้านอาคารสถานที่และ สิ่งอำนวยความสะดวกในสถานศึกษา ด้านการจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ด้านการจัดการภัยพิบัติ ในสถานศึกษา ด้านการให้บริการความปลอดภัยและด้านสุขภาพอนามัยและการลดความเสี่ยง โดยดำเนินการตามกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (PAOR) ประกอบด้วย การวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนาคือ กระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ (AIC) การอบรมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศแบบมีส่วนร่วม กลุ่มผู้ร่วมวิจัย จำนวน 6 คน ประกอบด้วย ผู้วิจัย และครูผู้ร่วมวิจัย จำนวน 5 คน กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 60 คน ประกอบด้วย ครู จำนวน 36 คน และบุคลากรสนับสนุน จำนวน 24 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม จำนวน 10 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ และคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 1) แบบสอบถามสภาพ การดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา 2) แบบบันทึกการประชุม 3) แบบสังเกต 4) แบบสัมภาษณ์ 5) แบบบันทึกการนิเทศ และ 6) แบบสอบถามทัศคติต่อสถานศึกษา ใช้การตรวจสอบข้อมูลหลายมิติ ข้อมูลเชิงปริมาณนำเสนอโดยใช้ตารางเปรียบเทียบ และนำเสนอผลการวิจัยแบบพรรณนาวิเคราะห์
ผลการวิจัย พบว่า
1. การพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ในวงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์ การประชุมกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ (AIC) การอบรมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศแบบมีส่วนร่วม ทำให้ครูมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาดีขึ้น แต่ครูบางส่วนยังไม่สามารถดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาได้สมบูรณ์ครบทั้ง 5 คือ 1) ด้านอาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานศึกษา ทั้งนี้เพราะสถานศึกษาหลายแห่งได้ก่อตั้งมา เป็นเวลานับสิบปี ซึ่งมีความชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากการใช้งาน 2) ด้านการจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย ทั้งนี้ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด บริเวณอาคารต่าง ๆ ได้เปิดใช้มานานหลายปี ทำให้มีความชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากการใช้งาน 3) ด้านการจัดการภัยพิบัติในสถานศึกษา ไม่มีมีการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการป้องกันภัยธรรมชาติ เนื่องจากไม่ค่อยมีเหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้น ทำให้เกิดความชะล่าใจ 4) ด้านการให้บริการความปลอดภัย การติดไฟฟ้าให้สว่างยังไม่ทั่วถึงและไม่เพียงพอต่อการใช้งาน 5) ด้านสุขภาพอนามัยและการลดความเสี่ยง มีการปฏิบัติน้อย เนื่องจากการจัดสวัสดิศึกษาเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากภัยอันตรายต่าง ๆ ซึ่งต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการถ่ายทอดความรู้ ซึ่งบางเรื่องเป็นเรื่องที่ผู้เรียนไม่เคยประสบเหตุ จึงทำให้เกิดความประมาท ผู้เรียนมีปัญหาด้านสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงของผู้เรียน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ข้อมูลจาก 3 ส่วน คือ จากครู ประจำห้อง จากผู้ปกครองผู้เรียนและจากผู้เรียน เพื่อให้การพัฒนาได้ผลตามมาตรการดำเนินงาน ความปลอดภัยในสถานศึกษา
2. การพัฒนาในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์ การนิเทศแบบมีส่วนร่วม โดยครูทุกคนได้เสนอผลการดำเนินงานตามมาตรการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา แลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล และการกำกับติดตามให้มากขึ้น ทำให้ครูประจำห้องทุกคนสามารถดำเนินงานตามมาตรการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษา ได้ครบกระบวนการทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านอาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานศึกษา มีการปรับปรุงซ่อมแซม อาคารสถานที่ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ปรับปรุงซ่อมแซมประตู หน้าต่าง และพัดลมของห้องเรียน ให้มีสภาพการใช้งานได้ดี สำหรับใช้ปิด - เปิดให้อากาศถ่ายเทสะดวก 2) ด้านการจัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย มีการจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยต่อการจัดการเรียนการสอนทั้งในห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด บริเวณอาคารต่าง ๆ รอบศูนย์ให้มีความสะอาดปลอดภัย มีบรรยากาศที่ดี เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนจะช่วยให้ผู้เรียนมุ่งมั่นในการเรียนรู้ และสร้างศักยภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น 3) ด้านการจัดการภัยพิบัติในสถานศึกษา มีการสํารวจข้อมูลความเสี่ยงที่เกิดจากภัยธรรมชาติ มีการจัดทำแผนป้องกัน วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการป้องกันภัยธรรมชาติ มีถังดับเพลิงติดตั้งทุกอาคาร และในบริเวณที่จำเป็น และตรวจสอบให้ใช้งานได้อยู่เสมอ 4) ด้านการให้บริการความปลอดภัย มีการจัดบริการ เอื้ออำนวยความสะดวกในการส่งเสริมความรู้ การให้ประสบการณ์นอกเหนือจากการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมในการเรียนรู้สึกปลอดภัย และเกิดความพึงพอใจจากสิ่งอำนวยความสะดวก การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่เหมาะสมให้ผู้เรียนได้มีศักยภาพที่สูงมากขึ้น เช่น มีการจัดโต๊ะเรียน เก้าอี้นั่งเรียน ที่นั่งในโรงอาหาร ที่นั่งพัก โดยจัดเว้นระยะห่างระหว่างกัน อย่างน้อย 1-2 เมตร มีการทำสัญลักษณ์แสดงจุดตำแหน่งชัดเจนในการจัดเว้นระยะห่างระหว่างกัน ติดไฟฟ้าให้สว่างทั่วถึงและเพียงพอ ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) รวมถึง สื่อและเทคโนโลยีก็มีผลต่อความมั่นคงปลอดภัย 5) ด้านสุขภาพอนามัยและการลดความเสี่ยง มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ฝึกให้ผู้เรียนเกิดความระมัดระวังตนได้ดี โดยเริ่มจากการฝึกปฏิบัติจริง การให้ความรู้เรื่องใกล้ตัว เช่นเครื่องหมายและกฎจราจรหรือการให้สวัสดิศึกษา เกี่ยวกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าให้ปลอดภัย การหลีกเลี่ยงจากแหล่งมั่วสุม อบายมุข มีการตรวจสุขภาพประจำปี มีการเฝ้าระวังภาวะสุขภาพและการบริการรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้เรียน การเสริมสร้างสุขนิสัยที่ดีแก่ผู้เรียน การบริการอาหารกลางวันที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ส่งเสริมการออกกำลังกาย การเล่นกีฬาและนันทนาการในสถานศึกษา การประกันอุบัติเหตุของบุคลากรและผู้เรียน และห้องพยาบาลมียาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลที่เพียงพอ มีการประเมินพัฒนาการและสุขภาพอนามัยของผู้เรียน
โดยสรุป การพัฒนาบุคลากรด้านการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาโดยใช้กลยุทธ์ กระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ (AIC) การอบรมเชิงปฏิบัติการ และการนิเทศแบบมีส่วนร่วมทำให้ครูมีการพัฒนาดีขึ้นจึงควรสนับสนุนส่งเสริมกลยุทธ์ดังกล่าว ไปใช้ตามมาตรการดำเนินงานความปลอดภัยในสถานศึกษาต่อไป
|
โพสต์โดย บืนมอ : [14 ต.ค. 2565 เวลา 14:25 น.] อ่าน [1876] ไอพี : 223.206.234.22
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 45,401 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,695 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,122 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,391 ครั้ง
| เปิดอ่าน 6,470 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,404 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,789 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,826 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,900 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,561 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,625 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,015 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,304 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,641 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,293 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 19,648 ครั้ง
| เปิดอ่าน 137,823 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,997 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,666 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,251 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|