ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนาการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA model) รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ

บทคัดย่อ

การวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและแนวทาง

การพัฒนาการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA model)รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ (2) เพื่อสร้างและทดลองใช้การเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA model)รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ (3) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA model) รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เกี่ยวกับประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ดัชนีประสิทธิผลตามเกณฑ์ 70 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้ และความคงทนในการเรียนรู้หลังเรียน 2 สัปดาห์ และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA model)รายวิชาวิทยาการคำนวณ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการวิจัย คือ (1) สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนา คือ เอกสารที่เกี่ยวข้องด้วยการสัมภาษณ์นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 20 คน ครูผู้สอนสาระเทคโนโลยี จำนวน 6 คน เครื่องมือสำหรับการวิจัย คือ แบบบันทึกเอกสารและสรุปความ แบบสัมภาษณ์นักเรียนและครูผู้สอน (2) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการสร้างและการทดลองใช้การเรียนรู้ คือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน นักเรียนที่ใช้ในการสร้างและทดลองใช้ทั้งแบบรายบุคคลหรือแบบเดี่ยว จำนวน 3 คน แบบกลุ่มเล็ก จำนวน

6 คน และแบบกลุ่มใหญ่ จำนวน 22 คน จากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ปลายภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โดยใช้เครื่องมือ คือ แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA model) จำนวน 18 แผน แบบฝึกเสริมทักษะ จำนวน 9 เล่ม และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ (3) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้จริง กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ จำนวน 32 คน ใช้เครื่องมือเหมือนกับ

การทดลองใช้ เรื่องละ 2 ชั่วโมง รวมเวลาเรียน 18 ชั่วโมง (4) แหล่งข้อมูลที่ใช้ประเมินความพึงพอใจของนักเรียน คือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน เพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา และนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย

ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ และการทดสอบค่า t (Dependent samples) ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้

1. สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนา พบว่า รายวิชาเป็นปัญหาอันดับที่สอง กล่าวคือ ผู้เรียนส่วนใหญ่ไม่ชอบเรียนสาระเทคโนโลยี ขาดความใส่ใจจากผู้ปกครอง ความรู้ความสามารถตรงกับวิชาเอกที่สอน ครูส่วนใหญ่สอนตรงสาขากับวิชาเอกร้อยละ 80 แต่คาบสอนมากเกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมีงานพิเศษค่อนข้างมาก แนวทางแก้ไขปัญหา คือ ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควรได้รับการพัฒนา โดยนำทฤษฎีการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA model) และแบบฝึกเสริมทักษะมาใช้ เพราะตรงกับแนวทางการสอนเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยผู้เรียนมีส่วนร่วมและฝึกฝนมากที่สุด

2. การสร้างและทดลองใช้รูปแบบการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA model)

โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ มีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ หลักการของรูปแบบ วัตถุประสงค์ของรูปแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ และการประเมินผลการเรียนรู้ เมื่อนำไปทดลองใช้ด้วยรูปแบบการสอน พบว่า (1) การทดลองใช้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง มีประสิทธิภาพเท่ากับ 77.33/76.67 ต่ำกว่าเกณฑ์ 80/80 จึงได้ปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการสอน (2) การทดลองใช้แบบกลุ่มเล็ก มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.11/80.56 เท่ากับเกณฑ์ 80/80 โดยได้ปรับปรุงแก้ไขอีกครั้ง และ (3) การทดลองใช้แบบกลุ่มใหญ่

มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.12/82.61 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 แสดงว่า สามารถนำรูปแบบการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA model) และแบบฝึกเสริมทักษะไปใช้สอนจริงได้อย่างมีคุณภาพ

3. ผลการพัฒนาการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา (CIPPA model) โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ พบว่า (1) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.84/84.06 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 (2) มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7336 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 73.36 สูงกว่าเกณฑ์ 70 หรือมีประสิทธิผลอยู่ในระดับดี (3) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า

ก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ (4) นักเรียนมีความคงทนในการเรียนรู้

โดยนักเรียนมีคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.32

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการพัฒนารูปแบบซิปปา (CIPPA model) โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ โดยภาพรวมและรายด้าน 4 ด้าน มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด รายด้านเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการได้รับความรู้จากรูปแบบการสอน ด้านรูปแบบการสอน ด้านบรรยากาศในการเรียนรู้ของนักเรียน และด้านแบบฝึกเสริมทักษะ

โพสต์โดย ราม : [21 ม.ค. 2566 เวลา 18:41 น.]
อ่าน [63013] ไอพี : 1.2.228.155
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,303 ครั้ง
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..
หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..

เปิดอ่าน 19,720 ครั้ง
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20
เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20

เปิดอ่าน 19,753 ครั้ง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง

เปิดอ่าน 11,874 ครั้ง
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ

เปิดอ่าน 36,432 ครั้ง
หลักในการบริหารเวลาของคนเป็นครู
หลักในการบริหารเวลาของคนเป็นครู

เปิดอ่าน 16,897 ครั้ง
วลีเด็ดแห่งปี 2555
วลีเด็ดแห่งปี 2555

เปิดอ่าน 65,527 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning

เปิดอ่าน 15,164 ครั้ง
PowerPoint  ประกอบการประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)
PowerPoint ประกอบการประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)

เปิดอ่าน 18,187 ครั้ง
แนวทางการประเมินคุณภาพรอบสี่
แนวทางการประเมินคุณภาพรอบสี่

เปิดอ่าน 39,142 ครั้ง
หลักเกณฑ์การพิจารณาการย้าย
หลักเกณฑ์การพิจารณาการย้าย

เปิดอ่าน 18,754 ครั้ง
การเรืองแสงของสิ่งมีชีวิต
การเรืองแสงของสิ่งมีชีวิต

เปิดอ่าน 21,790 ครั้ง
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
การเวียนศีรษะมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

เปิดอ่าน 53,668 ครั้ง
ข้าราชการ เกษียณแล้ว.....ได้อะไรบ้างนะ?
ข้าราชการ เกษียณแล้ว.....ได้อะไรบ้างนะ?

เปิดอ่าน 18,470 ครั้ง
การจัดโต๊ะหมู่บูชา ที่ถูกต้องในพิธีต่างๆ โดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
การจัดโต๊ะหมู่บูชา ที่ถูกต้องในพิธีต่างๆ โดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

เปิดอ่าน 15,503 ครั้ง
ASEAN
ASEAN

เปิดอ่าน 29,720 ครั้ง
หนังสือดีเด่น 2559 ที่พ่อแม่ควรให้ "ลูก" อ่าน
หนังสือดีเด่น 2559 ที่พ่อแม่ควรให้ "ลูก" อ่าน
เปิดอ่าน 17,460 ครั้ง
เส้นทางรัก ... เพชรา มาถึงวันนี้ที่มีแต่ ชรินทร์
เส้นทางรัก ... เพชรา มาถึงวันนี้ที่มีแต่ ชรินทร์
เปิดอ่าน 13,933 ครั้ง
3 เรื่องที่ต้องรู้ "ตั้งเป้ารวยก่อนแก่"
3 เรื่องที่ต้องรู้ "ตั้งเป้ารวยก่อนแก่"
เปิดอ่าน 10,295 ครั้ง
พิชิตสุขภาพการเงินที่ดีใน 31 วัน
พิชิตสุขภาพการเงินที่ดีใน 31 วัน
เปิดอ่าน 13,949 ครั้ง
ว่านชักมดลูก
ว่านชักมดลูก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ