|
|
ชื่อเรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือรูปแบบร่วมเรียนร่วมรู้ (Learning Together : LT) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นายสุพล อูปแก้ว
สถานศึกษา โรงเรียนบางคูลัด สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี
ปีการศึกษา 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ รูปแบบร่วมเรียนร่วมรู้ (Learning Together : LT) สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 70 ขึ้นไป และให้มีจำนวนนักเรียนร้อยละ 70 ขึ้นไป ที่ผ่านเกณฑ์ เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทำงานกลุ่มของนักเรียน โดยให้มีจำนวนนักเรียนร้อยละ 70 ขึ้นไปผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดี และเพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ รูปแบบร่วมเรียนร่วมรู้ (Learning Together : LT) สาระที่ 2 หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/5 ที่กำลังศึกษาภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 34 คน เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) โดยมีการดำเนินการเป็น 3 วงจรปฏิบัติการ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ทดลองปฏิบัติการ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ รูปแบบร่วมเรียนร่วมรู้ (Learning Together : LT) สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 14 แผน 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผล ได้แก่ แบบบันทึกผลหลังการสอน แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูและนักเรียน แบบประเมินผลงานกลุ่มนักเรียน แบบทดสอบท้ายวงจร และ 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใน สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิต ในสังคม เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบประเมินทักษะกระบวนการทำงานกลุ่มของนักเรียน และแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ รูปแบบร่วมเรียนร่วมรู้ (Learning Together : LT) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสรุปโดยใช้การบรรยายเชิงพรรณนาความ
ผลการวิจัย พบว่า
1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ รูปแบบร่วมเรียนร่วมรู้ (Learning Together : LT) เป็นกิจกรรมที่สร้างบรรยากาศที่ดีในการเรียนการสอน ทำให้นักเรียนเกิด การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามความแตกต่างระหว่างบุคคล กระบวนการกลุ่ม มีการฝึกทักษะต่าง ๆ เช่น ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการแสวงหาความรู้ โดยมีการคิดแก้ปัญหาร่วมกันในกลุ่มเพื่อน ขณะปฏิบัติกิจกรรม มีการแสดงออกทางสังคมด้านการเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี ส่งผลให้นักเรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามมาตรฐานการเรียนรู้
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 80.10 และมีจำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์คิดเป็นร้อยละ 94.12 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3. นักเรียนจำนวนร้อยละ 88.23 มีทักษะกระบวนการทำงานกลุ่มผ่านเกณฑ์การประเมิน ในระดับดี สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
4. นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ รูปแบบร่วมเรียนร่วมรู้ (Learning Together : LT) โดยภาพรวมเห็นด้วยในระดับมาก ( X = 4.24) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่เห็นด้วยในระดับมากที่สุด ( X = 4.67) คือข้อที่ 1 เนื้อหาที่เรียนง่ายไม่ซับซ้อน อันดับรองลงมาเห็นด้วยในระดับมาก ( X = 4.40) คือ ข้อที่ 6 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้นักเรียนมีส่วนร่วมในการทำผลงานร่วมกับเพื่อน ๆ ทุกครั้ง และลำดับที่ 3 เห็นด้วยในระดับมาก ( X = 4.33) คือ ข้อที่ 20 มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในการประเมินผลการเรียน
|
โพสต์โดย pol : [29 ม.ค. 2566 เวลา 06:28 น.] อ่าน [1658] ไอพี : 124.120.12.236
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 10,725 ครั้ง
| เปิดอ่าน 58,354 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,476 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,186 ครั้ง
| เปิดอ่าน 5,908 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,853 ครั้ง
| เปิดอ่าน 2,443 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,542 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,914 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,410 ครั้ง
| เปิดอ่าน 45,582 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,260 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,801 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,775 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,698 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 89,635 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,238 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,885 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,921 ครั้ง
| เปิดอ่าน 36,339 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|