ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกม เพื่อส่งเสริมความเข้าใจหลักภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกม เพื่อส่งเสริมความเข้าใจ

หลักภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย นางวาสนา ขัติยะ

โรงเรียน โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย) อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ปีที่ทำวิจัย 2566

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัญหาและความต้องการในการพัฒนารูปแบบการ

เรียนรู้เพื่อส่งเสริมความเข้าใจหลักภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อสร้างและ

พัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกม เพื่อส่งเสริมความเข้าใจหลักภาษาไทย สำหรับ

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกม

ที่พัฒนาขึ้น และ 4) เพื่อประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกม

ที่พัฒนาขึ้น เป็นการวิจัยและพัฒนา เก็บข้อมูลเชิงปริมาณด้วยแบบสอบถาม แบบทดสอบ เก็บข้อมูล

เชิงคุณภาพด้วยการสังเกตและการสนทนากลุ่ม

การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาปัญหาและความต้องการพัฒนา

รูปแบบการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความเข้าใจหลักภาษาไทย โดยการสอบถามด้วยแบบสอบถามและ

สนทนากลุ่มจากครูภาษาไทยและครูวิชาการ จำนวน 10 คน ในโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย)

ระยะที่ 2 สร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกมโดยการศึกษาเอกสาร

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ทดลองใช้กับนักเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง เพื่อปรับปรุงรูปแบบ ระยะที่ 3

นำรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกมที่พัฒนาขึ้นไปใช้กับกลุ่มตัวอย่างการวิจัย

โดยจัดทำเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 9 แผน ใช้เวลา 18 ชั่วโมง ไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็น

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 30 คน และ ระยะที่ 4

ประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกม โดยการสอบถามครูผู้ใช้

รูปแบบการเรียนรู้และผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 10 คน เป็นครูในโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย) จำนวน

10 คน และครูโรงเรียนอื่น จำนวน 5 คน สอบถามนักเรียนและสนทนากลุ่มนักเรียนที่เรียนด้วย

รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกม จำนวน 1 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

ประกอบด้วย แบบสอบถามสภาพปัญหาและความต้องการพัฒนาการสอนหลักภาษาไทย การสนทนากลุ่มครู

การสนทนากลุ่มนักเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกม จำนวน

9 แผน แบบทดสอบวัดความเข้าใจหลักภาษาไทย แบบประเมินความพึงพอใจในการเรียน และแบบประเมิน

ความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนรู้ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย

ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที แบบ dependent t-test วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการ

สรุปประเด็น

ผลการวิจัยพบว่า

1) สภาพปัญหาและความต้องการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ ครูมีความเห็นว่า ขอบเขตเนื้อหา

หลักภาษาไทยระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ครูสนใจพัฒนาคือ การวิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคำ

และเรียนรู้ลักษณะของประโยค กลวิธีการสอนที่ครูควรนำมาใช้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสอน

ได้แก่ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่ม มีการเคลื่อนไหวร่างกาย และนำเกมการศึกษามาประยุกต์ใช้

ในกิจกรรมการเรียนการสอน

2) รูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกม เพื่อส่งเสริมความเข้าใจหลักภาษาไทย

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น เกิดจากการบูรณาการหลักการของการเรียนรู้

แบบร่วมมือ การเรียนรู้แบบกลุ่มเล็ก การจัดการเรียนรู้ผ่านการเล่นและเกม และบูรณาการขั้นตอนจาก

วิธีการเดิม จัดการเรียนรู้โดยแบ่งนักเรียนคละความสามารถเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน รูปแบบการเรียนรู้

มี 5 องค์ประกอบ คือ หลักการของรูปแบบ วัตถุประสงค์ของรูปแบบ เนื้อหาการเรียนรู้ ขั้นตอน

กิจกรรมการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผล โดยขั้นตอนกิจกรรมการเรียนรู้ มี 6 ขั้นตอน หรือ

PTGAST model ประกอบด้วย 1) ขั้นเตรียม (Preparation) 2) ขั้นครูนำเสนอเนื้อหา (Teaching)

3) ขั้นศึกษาในกลุ่ม (Group Study) 4) ขั้นเล่นเกมเพื่อการเรียนรู้ (Academic Game) 5) ขั้นสรุป

เนื้อหา (Summary) และ 6) ขั้นทดสอบ (Test) นำรูปแบบการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นไปใช้ โดยการสร้าง

แผนการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกม จำนวน 9 แผน ผลการ

ตรวจสอบประสิทธิภาพ (E1/E2) ขั้นทดลองใช้ เท่ากับ 87.22/88.00

3) นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกม มีคะแนนความเข้าใจ

หลักภาษาไทยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และรูปแบบการเรียนรู้

แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกมมีประสิทธิภาพ (E1/E2) ขั้นนำไปใช้จริง เท่ากับ 87.96/88.67

4) นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็กร่วมกับการใช้เกมมีความพึงพอใจ

ในการเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนรู้แบบกลุ่มเล็ก

ร่วมกับการใช้เกมโดยครูที่เกี่ยวข้อง มีความเหมาะสมระดับมาก

โพสต์โดย วาสนา : [13 ม.ค. 2567 (08:07 น.)]
อ่าน [100040] ไอพี : 171.101.100.79
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,358 ครั้ง
สื่อดิจิทัล "Learning Object" ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว
สื่อดิจิทัล "Learning Object" ชุดใหม่ สสวท.พร้อมให้ใช้งานแล้ว

เปิดอ่าน 11,101 ครั้ง
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม อีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรมองข้าม

เปิดอ่าน 30,994 ครั้ง
แผ่นพับประชาสัมพันธ์ระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา
แผ่นพับประชาสัมพันธ์ระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา

เปิดอ่าน 18,610 ครั้ง
ข่าวดี ! สกัด"ผักติ้ว-สนสามใบ" ยาสู้มะเร็ง ทีมวิจัยไทยเฮทำสำเร็จ
ข่าวดี ! สกัด"ผักติ้ว-สนสามใบ" ยาสู้มะเร็ง ทีมวิจัยไทยเฮทำสำเร็จ

เปิดอ่าน 76,703 ครั้ง
ลักษณะของแสงเงาที่ใช้ในการวาดเขียน
ลักษณะของแสงเงาที่ใช้ในการวาดเขียน

เปิดอ่าน 20,867 ครั้ง
เหมือนอย่างกับแกะ! หุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ตัวล่าสุด (มีคลิป)
เหมือนอย่างกับแกะ! หุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ตัวล่าสุด (มีคลิป)

เปิดอ่าน 17,702 ครั้ง
ใครเป็นหนี้???..มีทางออก
ใครเป็นหนี้???..มีทางออก

เปิดอ่าน 37,641 ครั้ง
คุณหมอเผย 9 เทคนิคเลี้ยงลูกอย่างไรให้เรียนเก่ง
คุณหมอเผย 9 เทคนิคเลี้ยงลูกอย่างไรให้เรียนเก่ง

เปิดอ่าน 480 ครั้ง
บริษัทรับทำ SEO ให้ติดหน้าแรกจ้างแล้วคุ้มจริงไหม เลือกเจ้าไหนดี?
บริษัทรับทำ SEO ให้ติดหน้าแรกจ้างแล้วคุ้มจริงไหม เลือกเจ้าไหนดี?

เปิดอ่าน 10,134 ครั้ง
คำตอบของ 3 จี ในประเทศไทย เอาไงกันแน่
คำตอบของ 3 จี ในประเทศไทย เอาไงกันแน่

เปิดอ่าน 986 ครั้ง
ติว TCAS ยังไงให้ติดรอบแรก! รวมเทคนิคที่เด็กสอบติดใช้จริง
ติว TCAS ยังไงให้ติดรอบแรก! รวมเทคนิคที่เด็กสอบติดใช้จริง

เปิดอ่าน 5,364 ครั้ง
เอเปก หรือ เอเปค
เอเปก หรือ เอเปค

เปิดอ่าน 10,692 ครั้ง
หนังสือเสียงสร้างสุขในโลกมืด
หนังสือเสียงสร้างสุขในโลกมืด

เปิดอ่าน 16,307 ครั้ง
เดินหน้าปฏิรูป การวัดผลการศึกษา 59
เดินหน้าปฏิรูป การวัดผลการศึกษา 59

เปิดอ่าน 11,819 ครั้ง
รวยด้วยมรรค 8
รวยด้วยมรรค 8

เปิดอ่าน 13,613 ครั้ง
เรื่องที่คุณไม่รู้ เกี่ยวกับช็อกโกแลต
เรื่องที่คุณไม่รู้ เกี่ยวกับช็อกโกแลต
เปิดอ่าน 21,383 ครั้ง
เทควันโด : ประวัติเทควันโดในประเทศไทย
เทควันโด : ประวัติเทควันโดในประเทศไทย
เปิดอ่าน 31,145 ครั้ง
ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย
ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย
เปิดอ่าน 10,796 ครั้ง
เคล็บลับอร่อยได้ดังใจ แต่..ไม่อ้วน
เคล็บลับอร่อยได้ดังใจ แต่..ไม่อ้วน
เปิดอ่าน 17,355 ครั้ง
มากกว่านี้มีอีกไหม! พบคู่แฝด 29 คู่เรียนในโรงเรียนเดียวกันที่อุดรธานี
มากกว่านี้มีอีกไหม! พบคู่แฝด 29 คู่เรียนในโรงเรียนเดียวกันที่อุดรธานี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ