ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

วิจัย การใช้ชุดฝึกการขับร้องเพลงไทย ที่มีผลต่อการแก้ไขเพี้ยนเสียง

การใช้ชุดฝึกการขับร้องเพลงไทย ที่มีผลต่อการแก้ไขเพี้ยนเสียง

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

กมณนันต์ โทธกานันท์

ปี พ.ศ. ๒๕๖๗

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อแก้ไขปัญหาการเพี้ยนเสียงในการขับร้องของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๑๓ โรงเรียนพานทองสภาชนูปถัมภ์ ปีการศึกษา ๒๕๖๗ โดยมีเป้าหมายว่าผู้เรียนจะมีพัฒนาการที่ดีในการขับร้องและไม่เพี้ยนเสียงในการขับร้อง สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๑๓ จำนวน ๔๐ คน

ผลการวิจัยพบว่า

สามารถแก้ไขการเพี้ยนเสียงในการขับร้องได้จริง โดยการสร้างแบบฝึกและทฤษฎีการขับร้องและจัดการเรียนการสอนที่มีรูปแบบผสมผสาน ทำให้นักเรียนมีพัฒนาการก้าวกระโดดในการขับร้อง

ความสำคัญและความเป็นมา

มนุษย์เรียนรู้ดนตรีตั้งแต่อยู่ในครรภ์โดยรับรู้จังหวะการเต้นของหัวใจมารดาทั้งช้าและเร็วหากมารดารู้สึกผ่อนคลาย จังหวะการเต้นของหัวใจจะมีความราบเรียบสม่ำเสมอเป็นจังหวะที่คงที่แต่หากมารดาได้รับความตื่นเต้นหรือตกใจ อาจทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นได้ ทั้งนี้ทารกสามารถเรียนรู้และซึมซับ "จังหวะ" มาโดยตลอดและต่อเนื่อง ครั้นเมื่อได้รับการคลอดมาสู่โลกภายนอก ทารกน้อย ๆเรียนรู้ดนตรีครั้งแรกจากเสียงร้องไห้ของตนเอง อาจเกิดความตกใจ หวาดกลัว ร้อน หนาว หรือหิวจึงเปล่งเสียงเพื่อบ่งบอกความรู้สึกและความต้องการของตนเมื่อทารกเจริญวัยขึ้นจนเข้าศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลเป็นต้นมา สถานศึกษาแต่ละแหล่งมักมีกิจกรรมการ "ร้องเพลง" ทั้งในการเรียนการสอน และกิจกรรมเพื่อบันเทิงเริงใจต่าง ๆ การขับร้องเพลงไทย ถือเป็นการออกเสียงร้องเพื่อสื่อความหมายด้วยรูปแบบเป็นทั้งบทกลอน เป็นทำนอง เป็นคำร้อง ฯลฯ ทั้งนี้ยังไม่พบเอกสารตำราหรือบทความที่บันทึกว่ามีแบบฝึกการขับร้องเพลงไทยแต่อย่างใด (วิทยา ศรีผ่อง, ๒๕๖๓, หน้า ๑)

เนื่องจากการเรียนการสอนในวิชา ดนตรีไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๑๓

โรงเรียนพานทองสภาชนูปถัมภ์ ปีการศึกษาที่ ๒๕๖๗ นั้น นอกเหนือจากความรู้พื้นฐานทั่วไปของดนตรีและนาฏศิลป์แล้วยังมีการขับร้องเพลงต่างๆ เช่น เพลงเกี่ยวข้าว เพลงพื้นบ้าน เพลงไทยเดิม เพลงเทศกาลต่างๆ เป็นต้น ส่วนมากเป็นเพลงที่นักเรียนต้องนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ปัญหาที่พบก็คือ นักเรียนไม่มีพื้นฐานในการขับร้องเพลงที่ถูกต้อง ขับร้องไม่ตรงกับระดับเสียงดนตรีหรือมีการเพี้ยนทำนองเพลง ทำให้เพลงดังกล่าวฟังผิดแปลกออกไป ไม่ตรงกับจุดประสงค์ของผู้ประพันธ์ ความหมายเพลง และอาจจะทำให้นักเรียนขาดความมั่นใจในการขับร้อง

ผู้วิจัยเล็งเห็นว่า "ชุดการฝึกขับร้องเพลงไทย" จะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ "ลัดสั้น" และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถนำพาให้ผู้ขับร้องที่ใช้ชุดฝึกนี้เป็นเครื่องมือให้เกิดศักยภาพแห่งตนรวมถึงเกิดแรงจูงใจเพื่อมุ่งหมายไปสู่การขับร้องให้ไพเราะ รวมถึงมีความเข้าใจในทักษะการขับร้องเพลงไทยที่ถูกวิธีสามารถพัฒนาตนเองให้เข้มแข็งเพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพสูงสุด

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อสร้างชุดฝึกการขับร้องเพลงไทยการแก้ไขการเพี้ยนเสียง

สมมติฐานการวิจัย

ชุดฝึกในการขับร้องเพลงไทยสามารถแก้ไขการเพี้ยนเสียงในการขับร้องไทยได้จริงโดยการสร้างแบบฝึกและทฤษฎีการขับร้องและจัดการเรียนการสอนที่มีรูปแบบผสมผสาน ทำให้นักเรียนมีพัฒนาการในการขับร้องเพลงไทย

ประโยชน์ที่ได้รับ

๑. นักเรียนได้รับการพัฒนาการร้องเพลงให้มีความถูกต้อง

๒. นักเรียนสามารถนำหลักการขับร้องที่ถูกต้องไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

ขอบเขตของการวิจัย

การสร้างชุดฝึกการขับร้องเพลงไทย ที่มีผลต่อการแก้ไขเพี้ยนเสียงของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ประชากร

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนพานทองสภาชนูปถัมภ์ ภาคเรียนที่ 2

ปีการศึกษา ๒๕๖๗ จำนวน ๑3 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 520 คน

กลุ่มตัวอย่าง

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/13 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา ๒๕๖๗ ของโรงเรียน พานทองสภาชนูปถัมภ์ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี จำนวน ๔๐ คน ผู้วิจัยได้มาโดยใช้วิธีสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย ( Simple Random Sampling )

ตัวแปรที่ศึกษา

1. ตัวแปรต้น คือ ชุดฝึกการขับร้องเพลงไทย

2. ตัวแปรตาม คือ การแก้ไข้การเพี้ยนเสียงในการขับร้องเพลงไทย

ระยะเวลาในการศึกษา

เวลาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ใช้เวลา ๔ คาบ โดยสอนสัปดาห์ละ ๑ คาบ

เป็นเวลา ๔ สัปดาห์ ของภาคเรียนเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา๒๕๖๗

นิยามศัพท์เฉพาะ

๑.ชุดฝึกชุดฝึกการขับร้องเพลงไทย หมายถึง เครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นสำหรับใช้พัฒนาศักยภาพของผู้ขับร้อง มีจำนวน ๓ ชุด คือ ชุดที่ ๑ เป็นการนำการเอื้อนมาเป็นแบบฝึก ชุดที่ ๒

การเพิ่มระดับความยากของทำนองเอื้อนให้มีความซับซ้อนทั้งนี้ยังคงรักษาการฝึกไล่ระดับเสียง ตั้งแต่เสียงต่ำไปจนถึงเสียงสูง และจากระดับเสียงสูงลงมาหาเสียงต่ำ และชุดที่ ๓ เป็นการนำการเอื้อนและคำร้องมาผสมผสาน เป็นแบบฝึก

๒. การเพี้ยนเสียงในการขับร้อง หมายถึงเสียงที่ไม่ตรงกับระดับที่ถูกต้อง เพี้ยนก็คือผิด แต่เป็นการผิดเพียงเล็กน้อย ไม่ว่าเสียงร้องหรือเสียงดนตรี ถ้าหากว่าไม่ตรงกับระดับเสียงที่ถูกต้องแล้วไม่ว่าจะสูงไปหรือต่ำไป แม้แต่เพียงเล็กน้อย ก็เรียกว่า “เพี้ยน” ทั้งสิ้น

๓. ทำนอง หมายถึง เสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ ซึ่งสลับสับกัน และมีความสั้น ยาว หนัก เบา ต่างกัน ตามลักษณะของเพลงและวัตถุประสงค์ของผู้ประพันธ์เพลง

๔.การร้องเพลง หมายถึงการทำให้เกิดเสียงดนตรีจากเสียงและเสริมด้วยถ้อยคำทั้งระบบเสียงสูงต่ำและจังหวะ คนที่ขับร้องเพลงเรียกว่านักร้อง

๕.ทักษะการร้องเพลง หมายถึง ความชำนาญ ความคล่องแคล่วในการร้องเพลงหลังจากที่ได้รับการฝึกปฏิบัติ ชุดการสอนการแก้ไขการร้องเพี้ยนเสียง

การวิจัยเรื่อง การใช้ชุดฝึกการขับร้องเพลงไทย ที่มีผลต่อการแก้ไขเพี้ยนเสียง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประเด็นสำคัญสรุปได้ดังนี้

วัตถุประสงค์ของการวิจัย

การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการร้องเพี้ยนเสียง ของนักเรียนโรงเรียนพานทองสภาชนูปถัมภ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๑๓ เนื่องจากนักเรียนขาดทักษะที่ถูกต้องในการร้องเพลง จึงทำให้การร้องเพลงนั้นผิดเพี้ยนไปเนื่องจากการบังคับลมในการออกเสียงไม่ถูกต้อง การบังคับรูปปากที่ผิด ทำให้เสียงหรือคำร้องที่เปล่งออกมาเพี้ยนได้ ผู้วิจัยจึงเห็นว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ โดยผู้วิจัยที่คิดชุดการสอนการร้องเพี้ยนเสียงขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีเป้าหมายว่าผู้เรียนจะมีพัฒนาการในการขับร้องและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

กลุ่มตัวอย่าง

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑/๑๓ โรงเรียนพานทองสภาชนูปถัมภ์ จำนวน ๔๐ คน มีพัฒนาการที่ดีขึ้น หลังจากได้ผ่านการใช้ชุดแบบทดสอบการร้องเพี้ยนเสียง

เครื่องมือการวิจัย

๑.เครื่องดนตรีไทย (ระนาดทุ้ม) เพื่อพัฒนาทักษะทางด้านการฟัง

๒.แบบบันทึกเพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงของการขับร้อง

๓. แบบฝึกทักษะในการขับร้อง

การเก็บรวบรวมข้อมูล

เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสังเกตการณ์พัฒนาการของนักเรียนแต่ละคนว่ามีการพัฒนาการเป็นอย่างไร เปรียบเทียบจากเทปบันทึกเสียงของนักเรียนในแต่ละครั้ง

สรุปผลการวิจัย

การวิจัยเรื่อง การแก้ไขการเพี้ยนเสียงในการขับร้องในครั้งนี้พบว่า นักเรียนมีพัฒนาการที่ดีในการขับร้อง สามารถขับร้องเพลงด้วยความมั่นใจ ร้องไม่เพี้ยนเสียง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการร้องเพลงอื่น ๆ ได้

วิเคราะห์ผลการวิจัย

การวิจัยเรื่อง การใช้ชุดฝึกการขับร้องเพลงไทย ที่มีผลต่อการแก้ไขเพี้ยนเสียง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ สามารถแก้ไขการเพี้ยนเสียงในการขับร้องได้จริง เนื่องจากผู้วิจัย ได้สร้างแบบฝึกและทฤษฎีการขับร้อง และจัดการเรียนการสอนที่มีรูปแบบผสมผสาน ได้แก่ การสอนแบบอธิบาย การสอนแบบค่อยเป็นค่อยไป และสอนแบบปฏิบัติจริง โดยมีเครื่องบันทึกเสียงเปรียบเทียบการขับร้องแต่ละครั้งให้นักเรียนฟัง เพื่อให้ทราบข้อผิดพลาดของตัวเอง หลังจากนั้นครูก็ค่อยๆแก้ไขให้ทีละจุด ทำให้มีพัฒนาการก้าวกระโดดในการขับร้อง การฝึกการขับร้องเป็นกลุ่มทำให้นักเรียนเกิดความสามัคคีกันในกลุ่ม เพื่อนที่เข้าใจหรือปฏิบัติได้ก่อนก็จะช่วยเพื่อนที่ยังปฏิบัติยังไม่ได้ ทำให้บรรยากาศในการเรียนการสอนมีความสุขและสนุกกับการเรียน

ข้อเสนอแนะ

๑. จากผลการวิจัย การแก้ไขการเพี้ยนเสียง พบว่า นักเรียนมีสมาธิเพิ่มขึ้น จึงเห็นสมควรที่ครูผู้สอนวิชาดนตรีจะจัดเป็นชุดการสอนเพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนต่อไป

๒. ส่งเสริมให้มีการศึกษาค้นคว้าวิจัย ผลิตและพัฒนาสื่อการสอนการขับร้อง เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยลดปัญหาการสอนการขับร้อง ทั้งทางด้านการขาดบุคลากรและสื่อการสอน

โพสต์โดย ครูฟ้า : [16 ก.ค. 2568 (09:28 น.)]
อ่าน [57595] ไอพี : 61.91.57.150
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,483 ครั้ง
คำว่า "ตายน้ำตื้น" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ชมคลิป
คำว่า "ตายน้ำตื้น" มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ชมคลิป

เปิดอ่าน 17,692 ครั้ง
6 ข้อดีของการพาลูกไปที่ทำงาน
6 ข้อดีของการพาลูกไปที่ทำงาน

เปิดอ่าน 8,779 ครั้ง
ทดสอบความทนทาน"ไอโฟน 5" พัง-ไม่พัง แตก-ไม่แตก
ทดสอบความทนทาน"ไอโฟน 5" พัง-ไม่พัง แตก-ไม่แตก

เปิดอ่าน 31,523 ครั้ง
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที
เคล็ดลับการทำให้หน้าเรียวกระชับใน 3 นาที

เปิดอ่าน 1,036 ครั้ง
"วุ้น" กินแล้วไม่อ้วนจริงไหม ? มีประโยชน์อะไรบ้าง ?
"วุ้น" กินแล้วไม่อ้วนจริงไหม ? มีประโยชน์อะไรบ้าง ?

เปิดอ่าน 22,735 ครั้ง
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ผู้บริหารสถานศึกษา)
การประเมินวิทยฐานะช่วงเปลี่ยนผ่านจากเกณฑ์เก่าสู่ระบบ PA (ผู้บริหารสถานศึกษา)

เปิดอ่าน 12,487 ครั้ง
ตำนาน ชา
ตำนาน ชา

เปิดอ่าน 14,826 ครั้ง
ลูกน้อยทานยาลดไข้หลายวัน เป็นอันตรายไหม
ลูกน้อยทานยาลดไข้หลายวัน เป็นอันตรายไหม

เปิดอ่าน 16,746 ครั้ง
จำปี ดอกจำปี ต้นจำปี
จำปี ดอกจำปี ต้นจำปี

เปิดอ่าน 13,667 ครั้ง
เสริมสร้างความเข้าใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการคิดแบบปิงปองดูสิ
เสริมสร้างความเข้าใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการคิดแบบปิงปองดูสิ

เปิดอ่าน 12,221 ครั้ง
8 สถานที่ยอดฮิตฉลองปีใหม่
8 สถานที่ยอดฮิตฉลองปีใหม่

เปิดอ่าน 80,022 ครั้ง
การเรียนรู้ตลอดชีวิต คืออะไรและสำคัญตรงไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับปรัชญาพิพัฒนาการนิยม
การเรียนรู้ตลอดชีวิต คืออะไรและสำคัญตรงไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับปรัชญาพิพัฒนาการนิยม

เปิดอ่าน 16,455 ครั้ง
ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์
ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์

เปิดอ่าน 11,902 ครั้ง
"อัดความรู้" แต่แบเบาะ สร้างอนาคตเด็กได้จริงหรือ?
"อัดความรู้" แต่แบเบาะ สร้างอนาคตเด็กได้จริงหรือ?

เปิดอ่าน 9,132 ครั้ง
แนวทางการขับเคลื่อนวิชาชีพครูสู่อาเซียน (พ.ศ.2557-2560)
แนวทางการขับเคลื่อนวิชาชีพครูสู่อาเซียน (พ.ศ.2557-2560)

เปิดอ่าน 27,479 ครั้ง
การศึกษาและเปรียบเทียบสาเหตุการย้ายของข้าราชการครู
การศึกษาและเปรียบเทียบสาเหตุการย้ายของข้าราชการครู
เปิดอ่าน 611 ครั้ง
จัดการสต๊อกด้วยโปรแกรม ERP ลดปัญหาสต๊อกจม เพิ่มกระแสเงินสด
จัดการสต๊อกด้วยโปรแกรม ERP ลดปัญหาสต๊อกจม เพิ่มกระแสเงินสด
เปิดอ่าน 19,999 ครั้ง
คลิปยอดฮิต ครูนกเล็ก ร้อง PPAP สอนเด็กนักเรียน
คลิปยอดฮิต ครูนกเล็ก ร้อง PPAP สอนเด็กนักเรียน
เปิดอ่าน 20,059 ครั้ง
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่
26 มิถุนายน วันสุนทรภู่
เปิดอ่าน 13,090 ครั้ง
กระชับรูขุมขนด้วยน้ำแข็ง
กระชับรูขุมขนด้วยน้ำแข็ง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ