ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
Advertisement

โรงเรียนวิถีพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ทักษะอาชีพ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย WASH MODEL

ชื่อนวัตกรรม โรงเรียนวิถีพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ทักษะอาชีพ

ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย WASH MODEL

ประเภทนวัตกรรม การบริหารจัดการ

ผู้เสนอผลงานนวัตกรรม นายวัชรินทร์ กล้าณรงค์ชาญ ตำแหน่ง ผู้บริหารสถานศึกษา

สถานศึกษา โรงเรียนบ้านแม่ดอกแดง

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม เขต 1

1. ความเป็นมาและความสำคัญของการพัฒนานวัตกรรม

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระบรมชนกาธิเบศร

มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) พระราชทานพระราชดำริชี้แนะแนวทาง และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนอันจะเป็นกำลังสำคัญเป็นอนาคตของชาติ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้อง

มีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในภายนอก ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการ ทุกขั้นตอน และขณะเดียวกัน จะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเยาวชน เจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ

ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ได้ทรงพระราชทานพระบรมราโชบายด้านการศึกษาเพื่อมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียนและผู้เกี่ยวข้องได้น้อมนำไปปฏิบัติให้บังเกิดผลตามแนวพระบรมราโชบายทั้ง 4 ด้าน โดยผู้รายงานได้เห็นความสำคัญ คือ มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง

มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง - มีคุณธรรม มีงานทำ - มีอาชีพ และเป็นพลเมืองดี ซึ่งสอดคล้องกับความ

มุ่งหมายและหลักการของการจัดการศึกษาที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ

พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ว่าด้วยการจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา มีความรู้ควบคู่กับคุณธรรมจริยธรรม อันจะนำไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ซึ่งสะท้อนบทบาทของแหล่งเรียนรู้ โดยให้สถานศึกษาส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียนการสอน และอำนวยความสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนกับครูผู้สอนเกิดการเรียนรู้ไปพร้อมกัน จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ที่เกิดจาก

องค์ความรู้ด้านเนื้อหา สถานที่ และตัวบุคคล โดยผู้รายงานได้เล็งเห็นปัญหาของสถานศึกษาว่ายังขาดแหล่งเรียนรู้ที่เป็นสถานที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทักษะอาชีพและภูมิปัญญาท้องถิ่น สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยมีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยมีสัมมาชีพตามความถนัดของตนเอง มุ่งเน้นผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้และมีใจใฝ่เรียนรู้ตลอดเวลา

ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีจุดมุ่งหมายหลักในการพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคงยั่งยืนและ

มีความสมดุลในทุกด้านโดยเฉพาะในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

ซึ่งสอดคล้องกับโครงการนวัตกรรมนี้ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการเรียนรู้ที่ยั่งยืนและสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยการพัฒนาองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับการศึกษาและเศรษฐกิจพอเพียง (ยุทธศาสตร์ชาติ, 2560) ดานการพัฒนาและเสริมสรางศักยภาพทรัพยากรมนุษยใหความสําคัญกับการเปลี่ยนโฉมบทบาท “ครู” ใหเปนครูยุคใหม โดยปรับบทบาทจาก “ครูสอน” เปน “โคช” หรือผูอํานวยการเรียนรู” ทําหนาที่กระตุน สรางแรงบันดาลใจ แนะนําวิธีเรียนรูและวิธีการจัดระเบียบการสรางความรูออกแบบกิจกรรมและสรางนวัตกรรมการเรียนรูใหผูเรียน และมีบทบาทเปนนักวิจัยพัฒนากระบวนการเรียนรู เพื่อผลสัมฤทธิ์ของผูเรียน รวมทั้งปรับระบบการผลิตและพัฒนาครู ตั้งแตการดึงดูด คัดสรร ผูมีความสามารถสูงใหเขามาเปนครูคุณภาพ มีระบบการพัฒนาศักยภาพและสมรรถนะครูอยางตอเนื่อง และสําหรับยุทธศาสตรดานการปรับสมดุลและการพัฒนาระบบบริหาร

นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการปีงบประมาณ 2568-2569 จึงประกาศนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมุ่งมั่นสานต่อนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อผู้เรียนเป็นที่ประจักษ์ ภายใต้หลักการ “การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต” ใช้แนวทางการทำงาน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” มุ่งสร้าง“การศึกษา

เท่าเทียม” ผ่านเครือข่ายการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และต่อยอดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับให้ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล ภายใต้แนวคิด “ปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศ” เพื่อพัฒนาคนไทยทุกคนในทุกช่วงวัยให้ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” มีศักยภาพและความพร้อมสนับสนุนการพัฒนาประเทศให้ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อเป็นแนวทางให้ส่วนราชการในสังกัดและองค์กรในกำกับกระทรวงศึกษาธิการ นำไปใช้ในการขับเคลื่อนนโยบาย ดังนี้

นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 – 2569 เน้นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาของนักเรียนในทุกระดับ โดยมุ่งส่งเสริมการเรียนรู้ที่ครอบคลุมและตรงตามความต้องการของนักเรียนในยุคปัจจุบัน นโยบายสำคัญ

ที่สอดคล้องกับโครงการ ซึ่งได้แก่นโยบายปลูกฝังความรักในสถาบันหลักของชาติ และน้อมนำ

พระบรมราโชบายด้านการศึกษา สู่การปฏิบัติ สร้างความรู้ ความเข้าใจการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในสถานศึกษา เพื่อการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลและยั่งยืน ส่งเสริม สนับสนุนการจัดกิจกรรมที่น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวง รัชกาลที่ 10 สู่การปฏิบัติ มีการสนับสนุนการพัฒนาทักษะอาชีพในโรงเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานจริงในอนาคต โดยเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงในสถานการณ์การทำงานจริงหรือ Work-based Learning โดยส่งเสริมให้โรงเรียนในทุกระดับ

นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาและการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างพอเพียงและยั่งยืน การส่งเสริมการเรียนรู้แบบบูรณาการ สพฐ. ได้สนับสนุนการเรียนรู้ที่ครอบคลุมในทุกด้าน ด้านทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต และทักษะอาชีพ

จากสารสนเทศรายงานผลการดำเนินงาน ปีการศึกษา 2567 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 สนับสนุนโรงเรียนเป็น “ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง”สนับสนุนให้โรงเรียนจัดพื้นที่เรียนรู้ภายในโรงเรียน เช่น แปลงผัก, โรงเรือนเลี้ยงสัตว์, ครัวเรือนตัวอย่างพัฒนาโรงเรียนต้นแบบ เช่น “โรงเรียนพอเพียงท้องถิ่น” หรือ “โรงเรียนวิถีพอเพียง”บูรณาการเข้ากับรายวิชา สอดแทรกใน กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ (ทดลองเพาะถั่วงอก), คณิตศาสตร์ (คิดต้นทุนกำไร), ศิลปะ (ออกแบบฉลากสินค้า) ใช้รูปแบบ “โครงงานอาชีพ” (Project-based Learning) นักเรียนได้ฝึกวางแผน ปฏิบัติจริง และสรุปบทเรียนจากการลงมือทำ เช่น โครงงานทำน้ำหมักชีวภาพ, โครงงานปลูกผักสวนครัว มีการพัฒนาครูและบุคลากร จัดอบรม

เชิงปฏิบัติการ ให้ครูมีทักษะในการออกแบบกิจกรรมทักษะอาชีพ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างโรงเรียนเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานภายนอก เชิญ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น ปราชญ์ชาวบ้าน, ช่างฝีมือ มาร่วมถ่ายทอดความรู้ โดยเชื่อมโยงกับ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น พัฒนาชุมชน, สหกรณ์, มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ส่งผลให้ผู้เรียน มีทักษะอาชีพจริง สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงหรือประกอบอาชีพเสริม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เกิดรายได้เสริมให้แก่ครอบครัวนักเรียน และจุดเน้นนโยบายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 (สพป.เชียงใหม่ เขต 1) มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ผู้เรียนทุกระดับชั้นมีความสามารถ มีสมรรถนะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 และได้รับการศึกษา

ที่เท่าเทียม โดยให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

ในการบริหารจัดการ, การส่งเสริมความปลอดภัยของสถานศึกษา และการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางโรงเรียนวิถีพอเพียงสู่การจัดการ

เรียนรู้ทักษะอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย WASH MODEL ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้งด้านทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และเทคโนโลยี

จากข้อมูลดังกล่าวผู้รายงานได้ศึกษาและค้นพบประเด็นปัญหาด้านการบริหารจัดการ

แหล่งเรียนรู้ที่มีความเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนบ้านแม่ดอกแดง พบว่ายังขาดระบบการจัดทำแหล่งเรียนรู้ด้านทักษะอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่พอเพียงและเหมาะสมกับผู้เรียน ที่จะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตามหลักสูตรของสถานศึกษาและหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ซึ่งปัจจุบันนักเรียนโรงเรียนบ้านแม่ดอกแดงส่วนมากยังขาดทักษะในกระบวนการ

ด้านอาชีพ จึงส่งผลให้ผู้เรียนขาดโอกาสในการเรียนรู้ด้านทักษะอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพียง ที่สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา และชุมชน ปีงบประมาณ 2568 โรงเรียน

บ้านแม่ดอกแดง จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงได้วางกรอบภารกิจตามขอบข่ายที่กฎหมายกำหนดและมุ่งพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน โดยผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะครู ผู้ปกครอง และชุมชนร่วมกันวางแผนการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนบ้านแม่ดอกแดง โดยได้ทำการศึกษาสภาพปัจจุบันของปัญหาทางด้านการจัดทำแหล่งเรียนรู้ทักษะอาชีพของโรงเรียนอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขและพัฒนาโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม

โรงเรียนบ้านแม่ดอกแดงจึงน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังกล่าว

มาประยุกต์ใช้ผ่านนวัตกรรมโรงเรียนวิถีพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ทักษะอาชีพตามหลักปรัชญา

ของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย WASH MODEL ซึ่งประกอบด้วย

W: Wisdom-Based Learning (การจัดการเรียนรู้โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น)

A: Active Learning (การจัดการเรียนรู้เชิงรุก)

S: Sufficiency Thinking (การจัดการเรียนรู้โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง)

H: Holistic Learning (การจัดการเรียนรู้อย่างครบวงจร)

เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะสำคัญในศตวรรษที่ 21 สามารถประกอบอาชีพได้จริง

ในอนาคตเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตอย่างพอเพียงและยั่งยืนตามบริบทของโรงเรียนชุมชนและท้องถิ่น ซึ่งเป็นการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทักษะอาชีพที่มีแบบแผนเป็นมาตรฐานและยั่งยืน ตลอดจนสามารถนำแนวคิดการบริหารดังกล่าวไปประยุกต์ใช้กับการบริหารงานอื่น ๆ ได้ด้วย

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายการพัฒนานวัตกรรม

1. เพื่อพัฒนารูปแบบนวัตกรรมโรงเรียนวิถีพอเพียงสู่การจัดการเรียนรู้ทักษะอาชีพ

ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย WASH MODEL

2. เพื่อส่งเสริมให้ครู พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เข้ากับทักษะอาชีพตามเอกลักษณ์ของโรงเรียน

3. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากก

ใช้แหล่งเรียนรู้จริงภายในโรงเรียนและนอกโรงเรียน

โพสต์โดย วัชรินทร์ : [3 ส.ค. 2568 (00:01 น.)]
อ่าน [57668] ไอพี : 223.24.162.190
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
Advertisement

 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,271 ครั้ง
วิธีทาลิปกลอสให้สวย
วิธีทาลิปกลอสให้สวย

เปิดอ่าน 13,203 ครั้ง
ฝึกอ่าน ภาษาอังกฤษ จาก VOA !! ฝึกให้เก่งไปเลย
ฝึกอ่าน ภาษาอังกฤษ จาก VOA !! ฝึกให้เก่งไปเลย

เปิดอ่าน 10,577 ครั้ง
ประหยัดน้ำมันทำยังไง
ประหยัดน้ำมันทำยังไง

เปิดอ่าน 70,168 ครั้ง
จำนวนข้าราชการครูจำแนกตามระดับวิทยฐานะ
จำนวนข้าราชการครูจำแนกตามระดับวิทยฐานะ

เปิดอ่าน 15,205 ครั้ง
ปัญหาหน้าห้องใหญ่กว่านาย ... การศึกษาไทยสะดุด
ปัญหาหน้าห้องใหญ่กว่านาย ... การศึกษาไทยสะดุด

เปิดอ่าน 20,609 ครั้ง
10 อันดับเมืองที่มลพิษมากที่สุดในโลก
10 อันดับเมืองที่มลพิษมากที่สุดในโลก

เปิดอ่าน 14,624 ครั้ง
การบวกเมตริก
การบวกเมตริก

เปิดอ่าน 28,561 ครั้ง
แมงมุม
แมงมุม

เปิดอ่าน 57,029 ครั้ง
เผยแพร่ตัวอย่างเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์(ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2561)ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
เผยแพร่ตัวอย่างเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์(ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2561)ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

เปิดอ่าน 50,689 ครั้ง
"อยู่ไกลเขา แต่รู้ทันเขา" ภาพยนตร์สั้น วันครู ครั้งที่ 65 ประจำปี 2564
"อยู่ไกลเขา แต่รู้ทันเขา" ภาพยนตร์สั้น วันครู ครั้งที่ 65 ประจำปี 2564

เปิดอ่าน 63,972 ครั้ง
แบ่งปันเทคนิคการอ่าน พ.ร.บ. กฎ ระเบียบต่างๆ ให้เข้าใจและจำง่าย
แบ่งปันเทคนิคการอ่าน พ.ร.บ. กฎ ระเบียบต่างๆ ให้เข้าใจและจำง่าย

เปิดอ่าน 17,146 ครั้ง
สาวเกาหลีเต้น กังนัมสไตล์
สาวเกาหลีเต้น กังนัมสไตล์

เปิดอ่าน 16,619 ครั้ง
น้ำผึ้ง...หวานเป็นยา
น้ำผึ้ง...หวานเป็นยา

เปิดอ่าน 18,916 ครั้ง
ชื่อสายงาน และชื่อตำแหน่งตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 (ไทย-อังกฤษ)
ชื่อสายงาน และชื่อตำแหน่งตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 (ไทย-อังกฤษ)

เปิดอ่าน 2,007 ครั้ง
BLOCKCHAIN คืออะไร ?
BLOCKCHAIN คืออะไร ?

เปิดอ่าน 60,604 ครั้ง
"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ช่วยพัฒนาการเรียนการสอน
"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ช่วยพัฒนาการเรียนการสอน
เปิดอ่าน 621 ครั้ง
ข้อดีของสินทรัพย์รอการขายคืออะไร พร้อมข้อควรระวังก่อนซื้อ
ข้อดีของสินทรัพย์รอการขายคืออะไร พร้อมข้อควรระวังก่อนซื้อ
เปิดอ่าน 26,846 ครั้ง
ยาสามัญประจำบ้าน
ยาสามัญประจำบ้าน
เปิดอ่าน 11,472 ครั้ง
กำจัดเซลลูไลท์ กำจัดผิวเปลือกส้ม
กำจัดเซลลูไลท์ กำจัดผิวเปลือกส้ม
เปิดอ่าน 44,431 ครั้ง
ทำไมขี้จิ้งจกถึงมีสองสี
ทำไมขี้จิ้งจกถึงมีสองสี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
ติวสอบ GED
ติวสอบ SAT
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ