บทสรุปผู้บริหาร
ชื่องานวิจัย การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน
โรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
ชื่อผู้วิจัย นางอาริญา เสนา
สังกัด โรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี
สังกัดเทศบาลนครภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
ปีที่วิจัย 2567
การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินผลการดำเนินงานโครงการการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนพิบูล 4 ด้าน ดังนี้คือด้านสภาวะแวดล้อม (Context) ด้านปัจจัยนำเข้า(Input) ด้านกระบวนการ (Process) และด้านผลผลิต(Product) 2) เพื่อนำเสนอแนวทางในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่มประกอบด้วยครูผู้สอนและผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 31 คนโดยใช้ประชากรทั้งหมด ในการวิจัย และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 649 คน สุ่มตัวอย่างวิธีการแบบแบ่งชั้นภูมิ ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 101 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการแบบแบ่งชั้นภูมิของทาโร ยามาเน่ (Yamane) ได้กลุ่มตัวอย่างตามระดับชั้นต่าง ๆ เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม 3 ฉบับ ลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) ดังนี้ ฉบับที่ 1 แบบสอบถามความคิดเห็นของครูที่มีต่อโครงการส่งเสริมนิสัยการอ่านใน 2 ด้าน คือ ด้านสภาวะแวดล้อมมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.88 และด้านปัจจัยนำเข้ามีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.70 ฉบับที่ 2 แบบสอบถามด้านกระบวนการมีค่าความเชื่อมั่นฉบับเท่ากับ 0.75 และด้านผลผลิต มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.81 และฉบับที่ 3 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.78 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมินโครงการ
1. ผลการประเมินโครงการการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี สำนักการศึกษา เทศบาลนครภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต 4 ด้าน ดังนี้คือ 1) ด้านสภาวะแวดล้อมพบว่า โดยรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก 2) ด้านปัจจัยนำเข้าพบว่า บุคลากร วัสดุอุปกรณ์ และงบประมาณ มีความเพียงพออยู่ในระดับมาก 3) ด้านกระบวนการ พบว่า กระบวนการดำเนินงาน การจัดกิจกรรม การพัฒนาบุคลากร และการติดตามประเมินผลมีการปฏิบัติงานอยู่ในระดับมาก 4) ด้านผลผลิต พบว่า ผลการดำเนินงานโครงการนิสัยรักการอ่าน ครูมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก และกลุ่มนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
2. แนวทางที่เหมาะสมในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี
2.1 มีแผนกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินการโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน โรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี
2.2 มีคณะกรรมการบริหารงานห้องสมุดโรงเรียนโดยความร่วมมือกันระหว่างครูผู้รับผิดชอบโครงการ ครูผู้ร่วมกิจกรรม ผู้บริหาร และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการชมรมผู้ปกครอง และตัวแทนสำนักการศึกษา เทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งเป็นหน่วยงาน
ต้นสังกัด เพื่อศึกษาด้านบริบท ปัจจัยพื้นฐาน กระบวนผลผลิต โดยใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model)
2.3 พัฒนาครูทุกคนให้มีนิสัยรักการอ่านการค้นคว้า และมีเทคนิควิธีส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน
2.4 สถานศึกษาจัดหางบประมาณ ทรัพยากรในห้องสมุด และรักษาให้มีสภาพพร้อมใช้ เพียงพอ ตรงกับความต้องการของนักเรียน มีความสอดคล้องกับรายวิชาที่จัดการเรียนการสอน ให้ได้แก่ หนังสือ วารสาร สื่อมัลติมีเดีย วัสดุอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศในห้องสมุด
2.5 จัดทำปฏิทินการดำเนินการกิจกรรมตามโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน เพื่อให้ครูในโรงเรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมด้วยความเต็มใจและตระหนักถึงความสำคัญของนโยบายส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน อ่านทุกวัน อ่านทุกที่ อ่านทุกคน โดยใช้กิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่มีความหลากหลายเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนและผู้เรียนโดยกิจกรรมตามโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ประกอบด้วย 1)ห้องสมุดในสวน 2) ถุงผ้าเสริมปัญญา 3)รักการอ่านด้วยหนังสือเล่มเล็ก (นิทานทำมือหนังสือทำเอง) 4)ส่งเสริมการอ่านผ่านสื่อหุ่น 5) ห้องสมุด e - book on line และเพิ่มเติมกิจกรรมอีก 2 กิจกรรมคือ 1)จัดนิทรรศการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ได้แก่ ในวันสำคัญต่าง ๆ เปิดโลกวิชาการวันภาษาไทย ฯลฯ 2) ยุวบรรณารักษ์