Advertisement
Advertisement
1. ทานเกลือมากไป
โดยปกติแล้ว คุณควรได้รับโซเดียมประมาณ 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ถ้าคุณอายุมากกว่า 50 ปีแล้ว คุณไม่ควรรับโซเดียมเกิน 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะมันอาจนำโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคไตมาให้คุณได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า คุณผู้หญิงหลายคนทานโซเดียมมากกว่า 2,300 มิลลิกรัมต่อวันเสียอีก ซึ่งโซเดียมที่ว่านี้ ไม่ได้มาจากการเหยาะเกลือใส่อาหารเพียงอย่างเดียว แต่ส่วนใหญ่มาจากอาหารที่คุณรับประทานในแต่ละมื้อ อย่างพวกอาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารปรุงสำเร็จ หรืออาหารแปรรูป พิสูจน์ง่าย ๆ เลยก็คือ เวลาที่คุณจะซื้ออาหารอะไรก็ลองอ่านส่วนผสมด้านหลังกล่องดูสิจ๊ะ แล้วคุณจะเซอร์ไพรส์กับปริมาณโซเดียมที่ผสมอยู่ล่ะ
ทางแก้ : ไม่ยากเลยหากจะหลีกเลี่ยงโซเดียม เพียงแค่คุณทานอาหารสดให้มากขึ้น อย่างเช่น ซื้อกับข้าวมาทำอาหารทานเองที่บ้าน มันจะช่วยให้คุณควบคุมปริมาณเกลือได้ นอกจากนั้นแล้ว ควรเลี่ยงการทานอาหารแปรรูป หรืออาหารพร้อมทานที่บรรจุห่อมาแล้ว เช่น อาหารกระป๋อง อาหารแช่เย็น ขนมกรุบกรอบบรรจุถุง ฯลฯ เพราะนี่แหละที่เต็มไปด้วยโซเดียม
2. กินน้ำตาลมากเกิน
ในหนึ่งวันเราควรทานน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือประมาณ 24 กรัม แต่ถ้าสาว ๆ คนไหนชอบดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้ว เติมน้ำตาลทีละ 2-3 ก้อน คุณก็ได้รับน้ำตาลเกินปริมาณไปแล้วล่ะ ยังไม่รวมถึงอาหารที่คุณรับประทานระหว่างวันอีก แถมน้ำตาลยังซ่อนอยู่ในส่วนผสมบางอย่างที่เราใส่ในอาหารอย่างคาดไม่ถึงด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้ทานน้ำตาลเกินความต้องการได้อย่างไรนะ
ทางแก้ : ก่อนอื่นคุณควรจะรู้ด้วยว่า น้ำตาลถูกใส่มาในรูปแบบไหนบ้าง เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงไม่บริโภคมากเกินไป ซึ่งนอกจากน้ำตาลก้อน น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง ยังมีน้ำเชื่อมข้าวโพด น้ำผึ้ง ข้าวบาร์เลย์ แป้ง ซีเรียล รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ใส่ในอาหารอย่าง ซอส น้ำสลัด ที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือ เครื่องดื่มกระป๋อง หรือเครื่องดื่มบรรจุขวดทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชามะนาว กาแฟเย็น เครื่องดื่มชูกำลัง ฯลฯ มีน้ำตาลผสมอยู่ทั้งนั้น รู้แล้วก็ข้าม ๆ ไปบ้างนะ
3. เมิน "ไฟเบอร์"
ไฟเบอร์ ตัวช่วยชั้นยอดที่ช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนาน เมื่ออิ่มนาน คุณก็จะไม่รู้สึกหิวจนทานอาหารมากเกินความต้องการของร่างกาย ดังนั้น มันจึงช่วยควบคุมน้ำหนักให้คุณได้ด้วย นอกจากนี้ ไฟเบอร์ยังช่วยไม่ให้ท้องผูก ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ เบาหวาน รวมทั้งมะเร็งลำไส้ เห็นประโยชน์ดี ๆ ขนาดนี้แล้ว ช่างน่าเสียดายจริง ๆ ที่สาว ๆ ทานไฟเบอร์น้อยเกินไป เพียง 10-15 กรัมต่อวันเท่านั้น ทั้งที่เราควรทานไฟเบอร์ประมาณ 25 กรัมต่อวัน
ทางแก้ : เมื่อทานน้อยไปก็ต้องทานเพิ่มแล้วล่ะ คุณอาจจะโรยถั่วลงไปบนสลัดผัก หรือพาสต้าของคุณ เพื่อเพิ่มปริมาณไฟเบอร์ แต่ที่สำคัญ ห้ามลืมทานผักและผลไม้ซึ่งมีไฟเบอร์สูง อย่าง แอปเปิล มันฝรั่ง รวมทั้งธัญพืชพวกโฮลเกรนต่าง ๆ มันจะช่วยเพิ่มไฟเบอร์ให้คุณ อย่าลืมนะว่า ทานไฟเบอร์มาก ๆ จะทำให้น้ำหนักคุณลดลงได้ด้วย
4. มองข้ามโปรตีน
โปรตีนสำคัญมากสำหรับผู้หญิง และการลดน้ำหนัก โดยทั่วไปเราควรทานโปรตีนประมาณ 46 กรัมต่อวัน แต่หลายคนพยายามลดความอ้วน จึงทานโปรตีนน้อยไปด้วย เพราะกลัวว่ามันจะทำให้อ้วน แต่คุณสาว ๆ รู้ไหมว่า การทานโปรตีนน้อยเกินไปจะทำให้คุณหิวเร็ว ซึ่งความหิวนั่นแหละอาจทำให้คุณไม่สนใจอะไรทั้งนั้น จนหยิบอาหารที่ไม่มีประโยชน์ทานเอาได้ง่าย ๆ อย่างเช่นพวกขนมกรุบกรอบทั้งหลายนั่นไง แล้วหลังจากนี้ น้ำหนักก็จะขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ
ทางแก้ : ผู้หญิงควรทานโปรตีนให้ได้ทุกมื้อ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเนื้อสัตว์ทุกมื้อก็ได้นะ (เพราะอาจทำให้คุณอ้วนได้) ให้เลือกทานโปรตีนจากอาหารประเภทอื่น ๆ เช่น ไข่ โยเกิร์ตไขมันต่ำ อาหารประเภทถั่ว ชีสไขมันต่ำ เนยถั่ว โดยอาจจะผสมลงไปในมื้ออาหารนั้น ๆ ของคุณ และอย่าลืมโรยถั่วลงบนสลัด หรือซุปของคุณด้วย เพื่อจะได้ทานโปรตีนให้มากขึ้น
5.ทานเนื้อแดง และอาหารแปรรูปมากเกินไป
แม้ว่าเนื้อสัตว์จะเป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอด แต่จากการศึกษาของ American Cancer Society พบว่า เนื้อแดง และอาหารแปรรูป อย่างเช่น ไส้กรอก เบคอน มีส่วนสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็ง อย่างเช่นมะเร็งลำไส้ เพราะฉะนั้น การทานเนื้อแดง หรืออาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์เหล่านี้มากเกินไป มีแต่ผลเสียมากกว่าแน่ ๆ
ทางแก้ : อย่าให้เนื้อสัตว์เป็นอาหารจานหลักของคุณ โดยคุณอาจเลือกทานผักสลัด แล้วสไลด์เบคอน หรือไส้กรอกลงไปผสมเล็กน้อย พูดง่าย ๆ ก็คือ ให้อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์เหล่านี้เป็นเพียงส่วนประกอบของอาหารเท่านั้น เพื่อที่คุณจะได้ทานผักมากกว่าอาหารแปรรูป และเลือกทานพืชจำพวกถั่วให้มากขึ้น เพื่อให้ได้รับโปรตีนเพียงพอ
6.ดื่มน้ำไม่พอ
ใคร ๆ ก็รู้ว่าควรจะดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว ซึ่งไม่ใช่แค่น้ำเปล่าจากแก้วเท่านั้น ยังรวมถึงน้ำในผัก ผลไม้ หรือในอาหารแต่ละมื้อด้วย ว่าแต่คุณสาว ๆ ทำได้แบบนี้หรือเปล่าล่ะ รู้ไหมเอ่ย การดื่มน้ำน้อยไปจะทำให้คุณหิวเร็วขึ้นนะ แถมยังมีผลต่อประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันซะด้วย แบบนี้แย่แน่ ๆ
ทางแก้ : ก่อนทานอาหารแต่ละมื้อ แนะนำให้ดื่มน้ำก่อน 1 แก้ว เพื่อคุณจะได้อิ่มเร็ว และระหว่างวันก็อย่าลืมจิบน้ำบ่อย ๆ ไม่ควรดื่มรวดเดียว นอกจากนั้นแล้ว เรายังสามารถทานผลไม้เพื่อให้ได้น้ำด้วย ไม่ว่าจะเป็นเบอร์รี่ ใบมินต์ ผลไม้จำพวกส้ม หรือแตงกวาหั่นชิ้น ก็มีน้ำให้คุณด้วยเช่นกัน
7.ไม่จำกัดคาร์โบไฮเดรต
ไม่ปฏิเสธว่า คาร์โบไฮเดรตเป็นอาหารหลักที่ช่วยเติมพลังงานให้คุณ แต่รู้ไหมว่า จริง ๆ แล้ว 45-65% ของแคลอรี่ที่คุณได้รับทั้งวันมาจากคาร์โบไฮเดรตทั้งนั้นแหละ ซึ่งเป็นเพราะคุณทานคาร์โบไฮเดรตมากไป แล้วร่างกายขจัดออกไม่หมด ไม่ใช่แค่ขนมปัง ข้าว พาสตาที่ให้คาร์โบไฮเดรตเท่านั้นนะ แต่ยังมีคาร์โบไฮเดรตในอาหารเพื่อสุขภาพทั้งหลาย อย่างเช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช หรือพืชจำพวกถั่วที่เป็นฝักอีกด้วย
ทางแก้ : จำกัดการรับประทานคาร์โบไฮเดรตเสียหน่อย โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตที่ได้จากอาหารแปรรูป เช่น ขนมปังขัดขาว ขนมอบทั้งหลาย ให้ไปเลือกทานพวกข้าวโอ๊ต ถั่ว ผัก ผลไม้สด รวมทั้งโฮลเกรนอย่างเช่น ขนมปังโฮลวีท แซนด์วิชโฮลวีท ข้าวกล้อง น่าจะดีกว่า
8. ปฏิเสธมื้อเช้า
นี่เป็นข้อผิดพลาดข้อสำคัญของคุณสาว ๆ หลายคนเลยล่ะ คนส่วนหนึ่งมักจะมองข้ามอาหารเช้าไป ก็แหม...ตื่นก็สาย กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ต้องรีบออกจากบ้านไปทำงานแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนมาทานอาหารเช้าล่ะจริงไหม? ข้ออ้างแบบนี้ล่ะค่ะ ทำให้คุณพลาดอาหารมื้อสำคัญที่สุดไป ซึ่งมีผลการศึกษาระบุชัดว่า คนที่ไม่ทานอาหารเช้ามีแนวโน้มจะมีน้ำหนักเกินมากกว่าคนที่ทานอาหารเช้าด้วยนะ เพราะมันจะทำให้คุณขาดพลังงานที่จะไปเบิร์นแคลอรี่
ทางแก้ : ไม่ว่าจะยุ่งขนาดไหน คุณต้องจัดสรรเวลามาทานอาหารเช้าให้ได้ภายใน 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอน หากไม่ชอบทานอาหารในมื้อเช้าก็อาจเลือกทานของทานง่าย ๆ เช่น กล้วย โยเกิร์ตไขมันต่ำ เพื่อช่วยให้คุณได้รับพลังงานบ้าง และอาจนำอาหารจำพวกโปรตีน ไฟเบอร์ และไขมันอย่างละนิด ๆ หน่อย ๆ ไปทานระหว่างนั่งทำงาน จะช่วยทำให้คุณอิ่มขึ้น
ขอบคุณที่มาจาก กระปุก.คอม
Advertisement
|
เปิดอ่าน 25,074 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,205 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,565 ครั้ง |
เปิดอ่าน 22,896 ครั้ง |
เปิดอ่าน 26,930 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,356 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,522 ครั้ง |
เปิดอ่าน 26,277 ครั้ง |
เปิดอ่าน 15,489 ครั้ง |
เปิดอ่าน 2,542 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,938 ครั้ง |
เปิดอ่าน 15,179 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,344 ครั้ง |
เปิดอ่าน 3,402 ครั้ง |
เปิดอ่าน 3,012 ครั้ง | |
|

เปิดอ่าน 10,305 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 16,110 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 14,806 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 12,722 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 12,913 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 14,013 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 14,011 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 10,832 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 14,160 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 40,365 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 27,419 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 14,602 ครั้ง |
|
|