จัดสวนอย่างไร...ให้ถูกฮวงจุ้ย

1. ตำแหน่งสวนควรอยู่ทางทิศตะวันออก ด้วยเหตุผลที่ว่าทิศตะวันออกเป็นทิศที่พระอาทิตย์ขึ้น แสงแดดในยามเช้าจะช่วยส่งเสริมต้นไม้ให้มีความงอกงามและเขียวสด เพราะเป็นแสงที่ไม่แรงจนเกินไป 2. สวนต้องครบองค์ประกอบของธาตุทั้ง 5 คือ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง สวนที่ดีจะต้องประกอบไปด้วย ต้นไม้(ธาตุไม้) น้ำตก น้ำพุ อ่างบัว บ่อปลา(ธาตุน้ำ) แสงแดดส่องถึง(ธาตุไฟ) มีดินที่สมบูรณ์(ธาตุดิน) และที่สำคัญจะต้องมีการตกแต่งสวนอย่างสวยงาม(ธาตุทอง 3. น้ำตกในสวนจะต้องหันหน้าน้ำตกเข้าบ้านเสมอ "หน้าน้ำตกจะต้องหันเข้าบ้าน ห้ามหันออกนอกบ้าน" เพราะการหันออกนอกบ้าน จะหมายถึงการเงินไหลออก เพราะน้ำแทนความหมายของโชคลาภการเงิน นั่นเอง นี่เป็นกฎเกณฑ์ที่จะต้องจำไว้ในการแต่งสวน 4. บ่อน้ำ สระน้ำ รูปทรงต้องไม่ร้าย การขุดบ่อน้ำ หรือสระน้ำในสวนนั้น สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงจะเป็นเรื่องของรูปทรงของสระนั้น ในทางฮวงจุ้ยจะให้ใช้รูปทรงที่ไม่ทำร้ายคนในบ้าน เช่น รูปทรงที่เป็นสี่เหลี่ยม รูปทรงขนมเปียกปูน สามเหลี่ยม เป็นต้น ควรใช้รูปทรงโค้งมน หรือวงกลม จะถือว่าดีที่สุด 5. การนำก้อนหินมาตกแต่งสวนจะต้องระวังให้มาก โดยเฉพาะก้อนหินใหญ่ เพราะในทางฮวงจุ้ย "ก้อนหิน" จะหมายถึงอุปสรรค การเลือกก้อนหินในการแต่งสวนจะต้องเลือกก้อนที่มีลักษณะกลมมน ห้ามเป็นเหลี่ยมคม หรือมีมุมแหลม ก้อนหินที่มีรูก็จะเป็นลักษณะต้องห้ามเช่นกัน ตำแหน่งในการวางส่วนใหญ่จะวางบริเวณมุมบ้าน ห้ามวางไว้หน้าบ้าน หรือบริเวณที่ตรงกับประตูบ้าน 6. บ้านเล็ก ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่ บ้านที่มีขนาดเล็ก มีพื้นที่จำกัดในการจัดสวน อย่างบ้านทาวน์เฮ้าส์ ห้ามเอาต้นไม้ใหญ่มาปลูก เพราะจะก่อผลเสียมากกว่าผลดี สิ่งที่มองเห็นได้ชัดก็คือ ต้นไม้ใหญ่จะทำลายฐานบ้าน และกิ่งก้านของต้นไม้ยังทำลายตัวบ้านอีกด้วย 7. หลีกเลี่ยงไม้หนามในการแต่งสวน เรื่องต้นไม้ที่มีหนามแหลม เพราะหนามที่แหลมคมจะส่งผลกระทบต่อคนในบ้านได้  ที่มาบทความ: http://www.thaihomemaster.com/showinformation.php?TYPE=17&ID=982 ที่มารูปภาพ: Ginggaanbai Co., Ltd. หรือ http://gi

ลองมาดูกันสิว่า ในทางฮวงจุ้ยพูดถึงการจัดสวนเอาไว้อย่างไร 1. ตำแหน่งสวนควรอยู่ทางทิศตะวันออก ด้วยเหตุผลที่ว่าทิศตะวันออกเป็นทิศที่พระอาทิตย์ ขึ้น แสงแดดในยามเช้าจะช่วยส่งเสริมต้นไม้ให้มีความงอกงามและเขียวสด เพราะเป็นแสงที่ไม่แรงจน เกินไป 2. สวนต้องครบองค์ประกอบของธาตุทั้ง 5 คือ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง สวนที่ดีจะต้อง ประกอบไปด้วย ต้นไม้(ธาตุไม้) น้ำตก น้ำพุ อ่างบัว บ่อปลา(ธาตุน้ำ) แสงแดดส่องถึง(ธาตุไฟ) มีดิน ที่สมบูรณ์(ธาตุดิน) และที่สำคัญจะต้องมีการตกแต่งสวนอย่างสวยงาม(ธาตุทอง 3. น้ำตกในสวนจะต้องหันหน้าน้ำตกเข้าบ้านเสมอ "หน้าน้ำตกจะต้องหันเข้าบ้าน ห้ามหันออก นอกบ้าน" เพราะการหันออกนอกบ้าน จะหมายถึงการเงินไหลออก เพราะน้ำแทนความหมายของโชค ลาภการเงิน นั่นเอง นี่เป็นกฎเกณฑ์ที่จะต้องจำไว้ในการแต่งสวน 4. บ่อน้ำ สระน้ำ รูปทรงต้องไม่ร้าย การขุดบ่อน้ำ หรือสระน้ำในสวนนั้น สิ่งที่จะต้องคำนึงถึง จะเป็นเรื่องของรูปทรงของสระนั้น ในทางฮวงจุ้ยจะให้ใช้รูปทรงที่ไม่ทำร้ายคนในบ้าน เช่น รูปทรงที่ เป็นสี่เหลี่ยม รูปทรงขนมเปียกปูน สามเหลี่ยม เป็นต้น ควรใช้รูปทรงโค้งมน หรือวงกลม จะถือว่าดีที่ สุด 5. ก้อนหิน การนำก้อนหินมาตกแต่งสวนจะต้องระวังให้มาก โดยเฉพาะก้อนหินใหญ่ เพราะ ในทางฮวงจุ้ย "ก้อนหิน" จะหมายถึงอุปสรรค การเลือกก้อนหินในการแต่งสวนจะต้องเลือกก้อนที่มี ลักษณะกลมมน ห้ามเป็นเหลี่ยมคม หรือมีมุมแหลม ก้อนหินที่มีรูก็จะเป็นลักษณะต้องห้ามเช่นกัน ตำแหน่งในการวางส่วนใหญ่จะวางบริเวณมุมบ้าน ห้ามวางไว้หน้าบ้าน หรือบริเวณที่ตรงกับประตูบ้าน 6. บ้านเล็ก ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่ บ้านที่มีขนาดเล็ก มีพื้นที่จำกัดในการจัดสวน อย่างบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ห้ามเอาต้นไม้ใหญ่มาปลูก เพราะจะก่อผลเสียมากกว่าผลดี สิ่งที่มองเห็นได้ชัดก็คือ ต้นไม้ ใหญ่จะทำลายฐานบ้าน และกิ่งก้านของต้นไม้ยังทำลายตัวบ้านอีกด้วย 7. หลีกเลี่ยงไม้หนามในการแต่งสวน เรื่องต้นไม้ที่มีหนามแหลม เพราะหนามที่แหลมคมจะ ส่งผลกระทบต่อคนในบ้านได้

การทำน้ำตกเอาไว้ในบ้านจะถือว่าผิดหลักฮวงจุ้ยหรือไม่?

                                              โดย 

ธูปพยากรณ์หนึ่งเดียวในโลก

อาจารย์อันติกา   อริยชวัล

    หลายคนกังวลกับเรื่องการทำน้ำตกในบ้านมาก ว่า ทำได้หรือไม่ เพราะซินแสบางคนบอกทำไม่ได้ บางคนบอกทำได้ แล้วจะเชื่อใครดีล่ะ จนอาจารย์ต้องลองนำน้ำตกมาทำเองภายในบ้าน...
     ผลปรากฏว่า มีผลกระทบจริงๆ แต่เป็นผลกระทบในทางที่ดีมากกว่าเสีย ผลดีที่เห็นได้ชัดก็คือ ทำให้บ้านมีชีวิตชีวามากขึ้น เพราะเสียงของน้ำตกช่วยให้คนในบ้านรู้สึกผ่อนคลาย การมองเห็นน้ำที่เคลื่อนไหว เป็นการกระตุ้นให้รู้สึกคึกคัก ไม่มีอาการซึมเศร้าเหงาหงอย ใครมาเยี่ยมบ้านก็มีแต่คนชอบ ไม่เห็นมีใครติว่าไม่ดีสักคน อาจารย์ก็เลยทำน้ำตกอีกจุดหนึ่งในบ้าน รวมเป็น 2 จุด คราวนี้ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เห็นน้ำได้ยินเสียงน้ำ เป็นการสร้างจุดพักผ่อนในบ้านเพิ่มขึ้นอีก เพราะใครก็อยากนั่งใกล้น้ำ ที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย เลยมาตั้งคำถามว่า ทำน้ำตกในบ้านไม่ดีตรงไหน เพราะตั้งแต่ทำน้ำตกมาจนถึงปัจจุบัน  มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต ไม่เห็นมีเรื่องเสียอะไรเลย

 

 

 

อีกตัวอย่างหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้เอง ได้ไปดูให้บ้านหลังหนึ่ง บ้านนี้มีน้ำตกขนาดใหญ่ เรียกว่าใครเดินเข้าไปในบ้านนี้จะต้องหันมามองทุกคน ถือเป็นจุดเด่นของบ้าน เจ้าของบ้านถามว่า ทำน้ำตกแบบนี้ถือว่าผิดฮวงจุ้ยหรือไม่ เพราะมีหลายคนมาทักทำให้ไม่สบายใจ

เลยถามไปว่า ตั้งแต่ทำน้ำตกมา มีผลอย่างไรบ้าง เจ้าของบ้านตอบว่า ก็ไม่มีอะไร จะรู้สึกดีมากกว่า เพราะเวลามีแขกมาเยี่ยมที่บ้านก็จะชมกันทุกคนว่า สวย อยากทำบ้าง กิจการก็เจริญรุ่งเรืองดี นี่ที่เชิญมาก็อยากให้อาจารย์ช่วยดูฮวงจุ้ยให้ ว่าจะสร้างออฟฟิศใหม่เพิ่ม   เพราะฉะนั้น ฟังธงได้เลยว่า ทำได้ ถ้าทำแล้วไม่ดี ป่านนี้คงแย่ไปแล้ว หรือไม่ลูกค้ารายนี้ก็ไม่มีโอกาสได้ขยายงานเพิ่มหรอกจริงมั้ย

     หลังจากนั้น ก็พยายามค้นคว้าในตำราฮวงจุ้ยถึงเรื่องนี้ ก็ไม่เห็นตำราเล่มไหนระบุ เอาว่า ห้ามทำน้ำตกเลยสักเล่ม ตำราเพียงแต่บอกว่า ถ้าจะทำน้ำตก จะต้องหันหน้าน้ำตกเข้ามาในบ้าน "ห้ามหันออกนอกบ้าน "

เหตุผลก็คือ ลักษณะของน้ำตกเป็นเสมือนภูเขา ถ้าหันน้ำตกออกนอกบ้าน คนในบ้านก็จะมองเห็นหลังเขาของน้ำตกแทน ไม่ได้รับพลังชี่จากน้ำ นั่นเอง การสร้างน้ำตกในบ้านจุดที่ต้องคำนึงถึงก็คือ รูปทรงของน้ำตก และขนาดของน้ำตก จะต้องมีลักษณะที่สมดุล

รูปทรงของน้ำตก จะต้องมีลักษณะไล่ระดับเป็นชั้นๆ ไม่ควรใช้รูปทรงที่เป็นหน้าผา เพราะรูปทรงน้ำตกที่เป็นหน้าผา น้ำจะไหลแรง และเสียงจะดัง

น้ำตกที่ดีน้ำจะต้องค่อยๆไหล มีเสียงเหมือนน้ำไหลมากกว่าน้ำตก จะให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลกว่า

     ขนาดของน้ำตกก็มีความสำคัญ น้ำตกที่ใหญ่เกินไปย่อมก่อความชื้นในบ้านได้ง่าย นอกจากนี้เสียงของน้ำก็จะดังเกินไป รบกวนโสตประสาทให้รู้สึกหงุดหงิดแทนที่เสียงจะช่วยให้ผ่อนคลาย ขนาดน้ำตกจึงต้องเหมาะกับพื้นที่ของบ้าน

     ตำแหน่งของน้ำตกที่ดีควรวางในตำแหน่งที่คนในบ้านมองเห็น อาจจะเป็นหน้าบ้าน ข้างบ้าน หรือหลังบ้านก็ได้ บางคนกังวลว่า วางหลังบ้านไม่ได้ เพราะผิดหลักฮวงจุ้ยที่ว่า น้ำห้ามอยู่หลังบ้าน เรื่องนี้หลายคนเข้าใจผิด ตำราระบุเอาไว้จริงว่า หลังบ้านไม่ควรเป็นน้ำ แต่ต้องเป็นน้ำจากธรรมชาติครับ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง เพราะน้ำที่มีขนาดใหญ่จะทำลายตลิ่ง ส่งผลเสียกับบ้านได้

     การสร้างน้ำ(จำลอง) เอาไว้ในบ้าน เช่น น้ำตก น้ำพุ บ่อเลี้ยงปลา หรือน้ำอะไรก็แล้ว ไม่ถือว่าเข้าข่ายนี้ครับ ถึงแม้จะสร้างเอาไว้หลังบ้าน เพราะน้ำลักษณะนี้ไม่สามารถทำร้ายทำลายบ้านได้หรอกครับ

     มาพูดเรื่องน้ำตกกันต่อ เหตุผลสำคัญที่น้ำตกกลายเป็นลักษณะร้าย น่าจะมาจากเรื่องชื่อมากกว่า เพราะคำว่า "ตก" นั่นแหละ ที่ฟังแล้วไม่เป็นมงคล สู้น้ำพุ น้ำล้น ไม่ได้ คนส่วนใหญ่เลยกลัวว่าทำไปแล้วจะทำให้ชีวิตตกต่ำตามชื่อน้ำตกไปด้วย บางคนอยากทำน้ำตกมาก มาปรึกษาว่าตัวเองอยากทำ แต่ผู้ใหญ่ไม่ให้ทำเพราะมีความเชื่อว่าไม่ดี ให้ทำน้ำพุแทน อาจารย์เลยแนะนำไปว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เวลาทำน้ำตก ให้ทำน้ำพุเอาไว้ในบ่อน้ำตก เวลาน้ำตกลงมา น้ำพุก็ทำให้น้ำพุ่งขึ้น ปรากฏว่า ตกลงกันได้ เจ้าของบ้านได้ทำน้ำตกสมใจ ผู้ใหญ่ในบ้านก็ไม่ว่าอะไร

การมีน้ำอยู่ในบ้านไม่ว่าจะเป็นน้ำประเภทใดก็ตาม ล้วนส่งผลดีแทบทั้งสิ้น เพราะน้ำเป็นตัวแทนของธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกที่ดี เย็นสบาย มองกี่ครั้งก็รู้สึกผ่อนคลาย ยิ่งบ้านในเมืองที่อยู่กันอย่างแออัด หาความเป็นธรรมชาติได้น้อยเต็มที การมีน้ำสักจุดในบ้าน ย่อมช่วยให้คนในบ้านได้ใกล้ชิดธรรมชาติบ้าง ถึงแม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม

ด้วยความรักความปราถนาดี

ธูปพลังรัก  อันติกา  อริยชวัล....

รับออกแบบจัดสวนระบบออนไลน์ สนใจติดต่อ 0871381099   หรือ ส่งข้อมูลพื้นที่ที่ต้องการออกแบบที่ อีเมลล์       kunanuwat1@thaimail.com