ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


Advertisement

ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

พระไตรลักษณ ์ อนิจจัง - ทุกขัง - อนัตตา


เรื่องราวจากสมาชิก

8,124

views
Advertisement

พระไตรลักษณ  ์ อนิจจัง - ทุกขัง - อนัตตา

 

 

 
                         เดือนต่ำดาวตก รุ่งสางอโณทัย หริ่งหริ่งเรไร

 


            สายน้ำระยับ คู่รักพรอดพร่ำ แต่ค่ำถึงเช้า เฝ้าชวนดู 

 

                           ทุกสิ่งที่เกิด ทุกสิ่งที่เห็น เป็นอนิจจัง


            ตั้งอยู่แล้วก็ดับไป ไม่เที่ยงแท้ 
 


                                                หมู่ดาวเกลื่อนฟ้ามองว่าสวย เช้ามาก็หายสิ้น 

 
                                    สายน้ำดูพราวตา นานไปอาจเน่าเหม็น
                                                                              คู่รัก ดูรักยิ่ง สุขจริง คงไม่นาน 


                                      เช้าค่ำ คงเวียนย่ำ สุขทุกข์ คงคือกัน 

 

                              ไม่มีอะไรแน่นอนและยั่งยืนครับ ไม่ว่าธรรมชาติและชีวิต 


ธรรมชาติแสนสวยงามที่ทั้งคู่มองเห็น ต่อไปก็เปลี่ยนแปลง อาจด้วยน้ำมือมนุษย์หรือด้วยธรรมชาติเอง
             คู่รักวันนี้ดูสุขนัก ชีวิตข้างหน้าไป จะอย่างไร จากพราก สุขทุกข์ เจ็บไข้ ดับสิ้นไป 

 

พระไตรลักษณ์
อนิจจัง - ทุกขัง - อนัตตา
ความไม่เที่ยง - ความเป็นทุกข์ - ความไม่เป็นของๆ ใครทั้งสิ้น
พระไตรลักษณ์ เป็นธรรมะสำคัญมาก เป็นแก่นของธรรมชาติทั้งปวง ที่ผู้มุ่งหาทางรู้จักกับโลกรู้จักกับธรรมชาติทั้งหลายทั้งปวง รู้จักความจริงเกี่ยวกับตัวของตัวเอง รู้จักความจริงของกายและใจ เพื่อจะได้รู้เท่าทันและเพื่อการมุ่งทำลายกิเลส ทำลายทุกข์ทั้งปวง ทำลายอวิชชา จะต้องเข้าใจรู้ให้ซึ้งชัดเจนถ่องแท้ เกี่ยวกับพระไตรลักษณ์นี้ (ด้วยการปฏิบัติตน ปฏิบัติกาย ปฏิบัติใจ)
พระไตรลักษณ์ คือ ความเป็นจริงของสรรพสิ่งในธรรมฝ่ายโลกหรือ ธรรมฝ่ายทุกข์ทั้งปวง ความเป็นจริงที่ว่าก็คือ
(๑)
สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนไม่เที่ยง (อนิจจัง)
(๒)
สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนเป็นทุกข์ (ทุกขัง)
(๓)
สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนไม่ได้เป็นของๆ ใคร ไม่ได้เป็น ใครผู้หนึ่งผู้ใด ไม่ได้อยู่ในบังคับบัญชาของใคร ไม่มีใครเป็น ผู้สร้าง (อนัตตา)
อนิจจัง - ไม่เที่ยง
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ได้ทรงเข้าไปตรัสรู้ความเป็นจริงที่ว่า สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนไม่เที่ยง แต่ที่จริงล้วน เกิดขึ้น-ตั้งอยู่ และดับไป ตลอดเวลา เพียงแต่ว่าด้วยความสามารถรับรู้ด้วย ผัสสะทั้ง ๖ แบบคนธรรมดาทั่วๆ ไปในชีวิตแบบทั่วๆ ไปนั้น ไม่สามารถเข้าไปสังเกตรู้ได้ ทั้งนี้ในทางธรรมอธิบายไว้ว่า เป็นเพราะความไม่เที่ยงนี้ถูกบดบังไว้ด้วยความต่อเนื่อง ของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจน คนธรรมดาๆ ไม่สามารถเข้าไปรับรู้ได้ก็เลยนึกว่าเที่ยง
ยกตัวอย่างเช่น มนุษย์เรานี้เอง ในทางแพทย์ก็พิสูจน์แล้วว่า นับตั้งแต่วันที่คลอดออกมาดูโลกเซลล์ต่างๆ ก็เกิด-ตาย เกิด-ตาย ต่อเนื่องกันอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งเมื่อมนุษย์คนใดอายุ ๗ ขวบ นั้น ที่จริงแล้วทุกๆ เซลล์ที่เกิดมาพร้อมกับการออกมาดูโลกของ คนๆ นั้นได้ตายไปหมดแล้ว เซลล์ที่เหลือเป็นเซล์ใหม่กว่านั้นทั้งนั้น และก็กำลังเกิด-ตาย เกิด-ตายอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
แต่ทั้งหมดนี้ เราไม่รู้ เราก็เห็นๆ อยู่ว่ามนุษย์คนหนึ่งเกิดขึ้นมา แล้วก็เจริญเติบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จะมาเห็นชัดก็ตอนอายุเข้าเขตชรา ผิวหนังเหี่ยวย่น อวัยวะต่างๆ เสื่อมสมรรถภาพลงแล้วนั่นแหละ
สิ่งที่มาบดบังความจริงที่ว่าไม่เที่ยงนี้ก็คือ 'ความต่อเนื่อง' เซลล์ก็ เกิดดับต่อเนื่องสืบทอดหน้าที่กันไป กิริยาอาการต่างๆ อารมณ์ ต่างๆ ก็เกิดดับต่อเนื่องสืบทอดกันไปอย่างรวดเร็วจนยากที่จะ สังเกตได้หากไม่ใช้วิธีการโดยเฉพาะ ความต่อเนื่องตัวนี้ภาษา ธรรมเรียกว่า 'สันตติ'
ทุกขัง - เป็นทุกข์
สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนเป็นทุกข์
ตามธรรมดาแล้ว เรามักเห็นชีวิตเป็นทุกข์ก็เมื่อต้องเจ็บป่วย มีปัญหา หรือต้องพบกับการพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รักที่ต้องการ หรือการต้อง ถูกบังคับหรือมีความจำเป็นต้องทนอยู่กับสิ่งที่ไม่รักไม่ต้องการ
แต่ในความเป็นจริงแท้ๆ แล้ว ความทุกข์มีอยู่ตลอดเวลาแต่เราจับสังเกต ไม่ได้เท่านั้นเอง อย่างเช่น ที่จริงแล้วในชีวิตประจำวันความทุกข์ได้แสดง ตัวอยู่ตลอดเวลากับอาการของกายและใจของเรา แต่เราไม่ทราบ ที่จริงแล้ว เมื่อต้องยืนนานๆ เราก็ทุกข์จึงต้องเปลี่ยนเป็นลงนั้ง นั่งเข้านานๆ ก็เมื่อยและทุกข์จึงเปลี่ยนเป็นนอน นอนที่ว่าเป็นอาการ ที่สบายที่สุดแล้ว เอาเข้าจริงๆ นอนนานๆ ก็เมื่อย ต้องขยับ ต้องเปลี่ยน ท่า ต้องลุกขึ้นนั่ง ลุกขึ้นเดินบ้าง เดินนานๆ ก็เมื่อยต้องลงนั่งพัก ฯลฯ เป็นอย่างนี้อยู่ตลอดเวลานับแต่เกิดจนตายไป แต่เราไม่รู้
ที่เราไม่รู้ก็เพราะว่ามี 'การเปลี่ยนอิริยาบท' เกิดขึ้นตลอดเวลา เป็นไป โดยอัตโนมัติที่เราไม่เคยจับสังเกต ดังนั้น เมื่อมาทำวิปัสสนากรรมฐาน ครูบาอาจารย์ท่านจึงบอกให้เดินนานๆ คือ เดินจงกรมให้นานๆ ช้าๆ แต่นานๆ ค่อยๆ สังเกตอาการของกายและใจไปเรื่อยๆ เวลานั่งสมาธิ ท่านก็บอกว่าไม่ให้เปลี่ยนท่า ทั้งนี้เพราะว่าตลอดเวลาในชีวิต มนุษย์เรามีการเปลี่ยนอิริยาบทนี้เอง ที่เข้ามาปิดบังไม่ให้เราเห็น ความจริงที่ว่าที่แท้อะไรๆ ก็เป็นทุกข์ เมื่อเรามาเดินจงกรมและ นั่งสมาธิตามแนววิปัสสนากรรมฐานและสติปัฏฐานสี่นี้เอง เราจึง พยายามเดินจงกรมนานๆ ดูความทุกข์ ดูความเมื่อย ดูไปจนถึง ที่สุดแห่งความทุกข์ความเมื่อยความเจ็บปวด นั่งสมาธิก็ให้พยายาม อยู่ในท่านั้นนานๆ ไม่กระดุกกระดิก เพื่อให้เห็นเท่าทันความเป็นจริง อันนี้ของกายและใจ ว่ากายและใจนอกจากจะไม่เที่ยงแล้วยังเป็นทุกข์
อนัตตา - ไม่ใช่ตัวตน ไม่อยู่ในบังคับบัญชาใครทั้งสิ้น
อีกความจริงอันสำคัญก็คือ สรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงนั้น ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์บุคคลเราเขาที่ไหน ไม่เป็นของใคร ไม่มีใครสร้าง ไม่มีใครบังคับบัญชาได้ ล้วนเกิดเพราะเหตุ ได้อัตภาพตัวตนแบบนั้น แบบนี้ก็เพราะมีเหตุมาให้เป็นแบบนั้นแบบนี้
สิ่งที่บดบังไม่ให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปเห็นความเป็นจริง (อนัตตา) อันนี้ ก็คือ ความเป็นกลุ่มเป็นก้อน (ฆนสัญญา = ความสำคัญว่าเป็นก้อน ความสำคัญเห็นเป็นชิ้นเป็นอัน ซึ่งบังปัญญาไม่ให้เห็นภาวะที่เป็น อนัตตา)
กล่าวคือ ที่แท้อย่างเช่นร่างกายเรานี้ก็ประกอบด้วยธาตุทั้ง ๔ มาประชุม กัน อวัยวะต่างๆ ก็เกิดจากธาตุทั้งสี่มาประชุมกัน อวัยวะต่างๆ มารวมกัน ประกอบกันเข้าจนเป็นกาย แต่หากลองแยกอวัยวะแต่ละส่วนออกมาวาง ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร เป็นของๆ ใคร อวัยวะต่างๆ เมื่อเค้า จะป่วยไข้ไม่สบายไปใครก็บังคับไม่ได้ บังคับหรือสั่งให้ไม่เจ็บก็ไม่ได้ ให้ไม่แก่ไม่เสื่อมก็ไม่ได้ ฯลฯ แต่เรานึกว่าเป็นเรา เป็นตัวเรากายเรา ตัวเขากายเขา เป็นต้นไม้ เป็นสัตว์ เป็นสิ่งของต่างๆ ก็เพราะเรามองเห็นทั้งก้อน ทั้งหมด ทั้งแท่ง โดยไม่ได้ เข้าไปเห็นในรายละเอียดจริงๆ ว่าสรรพสิ่งล้วนเป็นการประกอบกันเข้า ระหว่างสิ่งละเอียดหลายๆ อย่าง มาเป็นสิ่งที่หยาบขึ้นหลายๆ อย่าง มาเป็นสิ่งที่หยาบจนเห็นชัดอย่างเช่นกายของคนๆ หนึ่ง ฯลฯ

ขอขอบคุณ http://www.geocities.com/easydharma/dm004017.html

        

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3113 วันที่ 3 ส.ค. 2552

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


พระไตรลักษณ ์ อนิจจัง - ทุกขัง - อนัตตา พระไตรลักษณอนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ต้อง"ผอม"เท่าไรจึงจะสวย

ต้อง"ผอม"เท่าไรจึงจะสวย


เปิดอ่าน 8,120 ครั้ง
กาแฟที่แพงที่สุดในโลก

กาแฟที่แพงที่สุดในโลก


เปิดอ่าน 8,121 ครั้ง
 Matsuri - KITARO

Matsuri - KITARO


เปิดอ่าน 8,121 ครั้ง
Teddy Bearตุ๊กตาหมีเท็ดดี้

Teddy Bearตุ๊กตาหมีเท็ดดี้


เปิดอ่าน 8,112 ครั้ง
มากพูดมากความ....<>..<>

มากพูดมากความ....<>..<>


เปิดอ่าน 8,119 ครั้ง
ฉลาดเลือกครีมกันแดด

ฉลาดเลือกครีมกันแดด


เปิดอ่าน 8,124 ครั้ง
หุ้นส่วนชอบอม

หุ้นส่วนชอบอม


เปิดอ่าน 8,112 ครั้ง
ครูบางคนอาจลืมไปว่า .....

ครูบางคนอาจลืมไปว่า .....


เปิดอ่าน 8,122 ครั้ง
ปัญหาเชาว์.....กวนอารมณ์

ปัญหาเชาว์.....กวนอารมณ์


เปิดอ่าน 8,950 ครั้ง
เด็กซน - ขาดสมาธิ

เด็กซน - ขาดสมาธิ


เปิดอ่าน 8,112 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ผิวหน้าสวย.....ด้วยใบเตย

ผิวหน้าสวย.....ด้วยใบเตย

เปิดอ่าน 8,120 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
เคล็ดลับวิธีทำให้รวย...... ช่วยเงินทำงาน
เคล็ดลับวิธีทำให้รวย...... ช่วยเงินทำงาน
เปิดอ่าน 8,111 ☕ คลิกอ่านเลย

หวานได้ไม่ทำลายสุขภาพ
หวานได้ไม่ทำลายสุขภาพ
เปิดอ่าน 8,117 ☕ คลิกอ่านเลย

อย่านับไข่ของคุณ....
อย่านับไข่ของคุณ....
เปิดอ่าน 8,122 ☕ คลิกอ่านเลย

..ตกยุค...
..ตกยุค...
เปิดอ่าน 8,118 ☕ คลิกอ่านเลย

"กล้วยเล็บมือนาง"
"กล้วยเล็บมือนาง"
เปิดอ่าน 8,125 ☕ คลิกอ่านเลย

นิทานบทกลอน  เรื่อง ตีนกับตา
นิทานบทกลอน เรื่อง ตีนกับตา
เปิดอ่าน 8,160 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

มารยาทในการพูด
มารยาทในการพูด
เปิดอ่าน 334,961 ครั้ง

วิธีแต่งบ้านคลายร้อน
วิธีแต่งบ้านคลายร้อน
เปิดอ่าน 11,842 ครั้ง

1 กันยายน วันรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร
1 กันยายน วันรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร
เปิดอ่าน 17,153 ครั้ง

กันเกรา
กันเกรา
เปิดอ่าน 23,919 ครั้ง

คลิปรายการ "เปิดปม" กรณีทุจริตสอบครูผู้ช่วย รีบดูครับ
คลิปรายการ "เปิดปม" กรณีทุจริตสอบครูผู้ช่วย รีบดูครับ
เปิดอ่าน 23,799 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ