Advertisement
❝ บทคัดย่อ
รายงานผลการพัฒนาเอกสารประกอบการสอน รายวิชาพลศึกษา พ 22101
(วอลเลย์บอล) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ครั้งนี้มี วัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบ
การสอนตามเกณฑ์ 80 / 80 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านหนองโพธิ์ มิตรภาพที่ 129 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชุมพร เขต 2 ที่เรียนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2548 จำนวน 14 คน ปีการศึกษา 2549 จำนวน 16 คน ปีการศึกษา 2550 จำนวน 15 คน รวมทั้งสิ้น 45 คน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านหนองโพธิ์ มิตรภาพที่ 129 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชุมพร เขต 2 ที่เรียนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2548 ปีการศึกษา 2549 ปีการศึกษา 2550 ดังนี้ 1. ปีการศึกษา 2548 สร้างและทดลองเอกสารประกอบการสอน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 3 คน เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอนแบบหนึ่งต่อหนึ่ง 2. ปีการศึกษา 2549 สร้างและทดลองเอกสารประกอบการสอน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 9 คน เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอนแบบกลุ่มเล็ก 3. ปีการศึกษา 2550 สร้างและทดลองเอกสารประกอบการสอน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอนแบบภาคสนาม เครื่องมือในการศึกษา คือ เอกสารประกอบการสอนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 4 หน่วยการเรียนรู้ ประกอบด้วย หน่วยที่ 1 สมรรถภาพทางกาย หน่วยที่ 2 ลวดลายกับลีลา หน่วยที่ 3 พัฒนาการเล่น หน่วยที่ 4 เป็นระบบกับทีม แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนระหว่างเรียน (คุณลักษณะอันพึงประสงค์) แบบสังเกตทักษะการปฏิบัติระหว่างเรียนของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียนของแต่หน่วยการเรียนรู้
ผลการศึกษาพบว่า เอกสารประกอบการสอนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ของ Richaed coudel ที่ 83.13/85.17 แสดงว่า เอกสารประกอบการสอนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80 / 80 ที่ตั้งไว้ และคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
❞
บทคัดย่อ
รายงานผลการพัฒนาเอกสารประกอบการสอน รายวิชาพลศึกษา พ 22101
(วอลเลย์บอล) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ครั้งนี้มี วัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบ
การสอนตามเกณฑ์ 80 / 80 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านหนองโพธิ์ มิตรภาพที่ 129 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชุมพร เขต 2 ที่เรียนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2548 จำนวน 14 คน ปีการศึกษา 2549 จำนวน 16 คน ปีการศึกษา 2550 จำนวน 15 คน รวมทั้งสิ้น 45 คน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านหนองโพธิ์ มิตรภาพที่ 129 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชุมพร เขต 2 ที่เรียนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2548 ปีการศึกษา 2549 ปีการศึกษา 2550 ดังนี้ 1. ปีการศึกษา 2548 สร้างและทดลองเอกสารประกอบการสอน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 3 คน เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอนแบบหนึ่งต่อหนึ่ง 2. ปีการศึกษา 2549 สร้างและทดลองเอกสารประกอบการสอน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 9 คน เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอนแบบกลุ่มเล็ก 3. ปีการศึกษา 2550 สร้างและทดลองเอกสารประกอบการสอน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 15 คน เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการสอนแบบภาคสนาม เครื่องมือในการศึกษา คือ เอกสารประกอบการสอนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 4 หน่วยการเรียนรู้ ประกอบด้วย หน่วยที่ 1 สมรรถภาพทางกาย หน่วยที่ 2 ลวดลายกับลีลา หน่วยที่ 3 พัฒนาการเล่น หน่วยที่ 4 เป็นระบบกับทีม แบบประเมินพฤติกรรมการเรียนระหว่างเรียน (คุณลักษณะอันพึงประสงค์) แบบสังเกตทักษะการปฏิบัติระหว่างเรียนของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียนของแต่หน่วยการเรียนรู้
ผลการศึกษาพบว่า เอกสารประกอบการสอนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ของ Richaed coudel ที่ 83.13/85.17 แสดงว่า เอกสารประกอบการสอนรายวิชาพลศึกษา พ. 22101 (วอลเลย์บอล) ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80 / 80 ที่ตั้งไว้ และคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
วันที่ 15 ธ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 6,341 ครั้ง เปิดอ่าน 6,339 ครั้ง เปิดอ่าน 6,337 ครั้ง เปิดอ่าน 6,350 ครั้ง เปิดอ่าน 6,338 ครั้ง เปิดอ่าน 6,338 ครั้ง เปิดอ่าน 6,343 ครั้ง เปิดอ่าน 6,359 ครั้ง เปิดอ่าน 6,338 ครั้ง เปิดอ่าน 6,339 ครั้ง เปิดอ่าน 6,340 ครั้ง เปิดอ่าน 6,338 ครั้ง เปิดอ่าน 6,337 ครั้ง เปิดอ่าน 6,341 ครั้ง เปิดอ่าน 6,359 ครั้ง เปิดอ่าน 6,339 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 6,340 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 6,340 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 6,337 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 6,341 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 6,337 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 6,338 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 6,339 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 25,503 ครั้ง |
เปิดอ่าน 25,685 ครั้ง |
เปิดอ่าน 1,627 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,649 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,093 ครั้ง |
|
|